เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๒๗ มี.ค. ๒๕๖o

 

เทศน์เช้า วันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๐
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

วันนี้วันพระ วันพระวันทำบุญกุศลของหัวใจของมนุษย์ถ้ามนุษย์มีจิตใจที่เป็นกุศลนะ ถ้ามนุษย์มีจิตใจที่ไม่เป็นกุศล วันนี้เขาก็ยังทำบาปทำอกุศลของเขาอยู่ ถ้าเขาทำบาปทำอกุศลของเขาเขาทำของเขาเขาก็คิดว่านั่นเป็นประโยชน์กับเขา เวลามาวัดมาวาเป็นผู้เสียผลประโยชน์ไง แต่เสียผลประโยชน์เสียผลประโยชน์ทางโลก แต่เราก็มีสติปัญญาหาอยู่หากินของเราพออิ่มท้องของเรา ถ้าพออิ่มท้องของเรา เราหาบุญกุศลของเราใส่ในใจของเราถ้าหาบุญกุศลใส่หัวใจของเรา บุญกุศลมันคืออะไรสิ่งที่เสียสละไปวัตถุที่เสียสละไปมันเป็นบุญกุศลหรือ

เวลาบุญกุศลเพราะว่าการให้มีเจตนาที่ให้ มีเจตนาที่เสียสละเราเสียสละสิ่งนี้ไป สิ่งที่ตอบรับ ผู้ให้กับผู้รับ ผู้รับสิ่งที่รับมา เขาได้สิ่งนั้นมาเพื่อเจือจานชีวิตของเขาแต่ผู้ให้ ผู้ให้ให้ชีวิตเขา ให้เขาพ้นจากความทุกข์ความยากให้เขาพ้นจากความกดดันของหัวใจ มันจะไม่เป็นบุญตรงไหนถ้ามันเป็นบุญขึ้นมา บุญมันคืออะไร บุญคือสิ่งที่เราทำแล้วเรามีความสุขใจ เรามีความพอใจของเราไง ถ้ามีความพอใจของเรา สิ่งนี้เป็นบุญ

ความปรารถนานะ คนเราปรารถนา พูดถึงอธิษฐานบารมี เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรารถนาเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์ ถ้าความปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์ ความปรารถนานั้นทำให้เสียสละความปรารถนานั้นทำให้มีสติปัญญาเพื่อความมั่นคงของชีวิตของพระโพธิสัตว์นี่ไง การทำสิ่งนั้นๆ แรงปรารถนา ความปรารถนา เราปรารถนาให้ทุกคนมีความสุขทั้งนั้นน่ะ

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรารถนามารื้อสัตว์ขนสัตว์นะ เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรารถนามาเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องขวนขวายเอง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องพยายามทำขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเองเวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะตรัสรู้ก็องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ด้วยตนเอง

แต่เวลาจะปรารถนารื้อสัตว์ขนสัตว์สัตตะผู้ข้อง ไปรื้ออย่างไร รื้อก็เอาอวนไปจับใช่ไหม เอาไปจับสิ่งนั้นมาจะรื้อสัตว์ขนสัตว์ใช่ไหมเอาจับมาเลี้ยงในตู้ปลาหรือ

จะรื้อสัตว์ขนสัตว์มันรื้อในหัวใจไง ถ้ารื้อในหัวใจ เขาต้องมีเจตนาของเขาเขาต้องมีความปรารถนาของเขาถ้าเขามีความปรารถนา แรงปรารถนาปรารถนาสิ่งใด

ถ้าปรารถนาทางโลกๆ ปรารถนาถูกรางวัลที่หนึ่งแล้วเวลาถูกรางวัลที่หนึ่งมาแล้วก็ใช้สอยด้วยความฟุ่มเฟือย พอหมดเงินแล้วก็กลับไปเหมือนเดิม นี่ปรารถนารางวัลที่หนึ่งไง

แต่ถ้าเรามีสติมีปัญญาของเรา เราปรารถนาบุญกุศลของเราปรารถนาบุญกุศลที่ไหนปรารถนาบุญกุศลคือมีสติมีปัญญา ถ้ามีสติปัญญาขึ้นมา สติปัญญาทางโลกทางโลกเราขวนขวายของเรานี่แรงปรารถนาของเรา ถ้าปรารถนาขึ้นมาเราก็มีเป้าหมายของเรา ถ้ามีเป้าหมายของเรา แรงปรารถนาของคนมากน้อยขนาดไหน แต่แรงปรารถนาของครูบาอาจารย์ของเรานะ แรงปรารถนาพ้นจากทุกข์ ถ้าพ้นจากทุกข์ ทำอย่างไรให้พ้นจากทุกข์

เขาทำมาหากินกัน เขาร่ำรวยเป็นเศรษฐีโลกเขายังมีความทุกข์อยู่เลยเขามีสมบัติมากมายมหาศาลเขาก็ยังติดข้องในสมบัติของเขาอยู่เลย แล้วของเรา เราปรารถนาพ้นจากทุกข์ๆ เอาที่ไหนมาพ้นจากทุกข์ จะเอาอะไรไปพ้นจากทุกข์ล่ะ

ถ้าพ้นจากทุกข์มันก็ต้องเอาหัวใจพ้นจากทุกข์ไงเพราะเวลามันทุกข์มันยาก มันทุกข์มันยากที่หัวใจนี้ ถ้าหัวใจนี้มันทุกข์มันยากหัวใจนี้มันแบกหาม แบกหามสิ่งที่เป็นนามธรรมแบกหามสิ่งที่ไม่มี

สิ่งที่มีๆคือทรัพย์สินเงินทองใช่ไหม แล้วทรัพย์สินเงินทองมันอยู่ในธนาคาร มันอยู่ในตู้เซฟนั้น ไอ้คนที่เป็นทุกข์เป็นยาก ไอ้เจ้าของมันนั่นน่ะมันแบกหามสิ่งที่เป็นนามธรรมไงแต่มันก็ต้องมีวัตถุอันนั้นเป็นเครื่องหมายใช่ไหม นี่ส่งออกเวลาคนมันส่งออกมันส่งออกไปข้างนอกหมดส่งออกไปกว้านเอาสิ่งใดมาเป็นของตนๆ แล้วมันมีอะไรเป็นของตนไง

ถ้ามีสติปัญญา ของนั้นของอย่างนั้นของประจำโลก เรามีสติปัญญา เราก็หาของเราได้ ถ้าหามาได้แล้ว หามาได้เพื่อประโยชน์กับเราไง เพื่อประโยชน์กับเรานะประโยชน์ที่ไหนประโยชน์ เห็นไหม เราหาทรัพย์สมบัติมาได้ เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่สลึงหนึ่ง ทำธุรกิจอีกสลึงหนึ่ง เลี้ยงตัวเองใช้สอยเพื่อตัวเองอีกสลึงหนึ่งมีอีกสลึงหนึ่งแล้วค่อยทำบุญอีกสลึงหนึ่งค่อยฝังไว้ในดินๆ ไงสิ่งที่เราแสวงหามาเรายังต้องมีสติปัญญาใช้สอยมัน ถ้ามีสติปัญญาใช้สอยมัน มันเป็นเงินเป็นทองที่เราหามาด้วยความทุกข์ความยากใช่ไหม มันหามาด้วยหยาดเหงื่อแรงงานของเราใช่ไหมเรายังต้องบริหารจัดการมันเลย แล้วเวลาจะพ้นจากทุกข์ๆจะเอาอะไรไปพ้นจากทุกข์

เขาบอกว่ามันมีคนสอนไง ถ้าโอนสมบัติมาเป็นส่วนกลางหมด เอ็งจะได้เป็นพระโสดาบัน

จริงหรือสมบัติโอนมาหมดเลย ไม่มีอะไรเลย ไม่ติดข้องไง แล้วอะไรมันไม่ติดข้องล่ะนี่เวลาคนจิตใจมันหยาบ ความปรารถนาของคนเห็นแค่วัตถุไงเพราะวัตถุสิ่งนี้มันถึงเอามาเป็นวัตถุที่ชี้เป้าได้ไงให้คนหลงใหลไง

แต่ความจริงๆ ครูบาอาจารย์ของเราจะพ้นจากทุกข์จะพ้นจากทุกข์ที่ไหน แรงปรารถนาปรารถนาอะไรถ้าแรงปรารถนาทางโลกมันก็ได้โลกๆ ทั้งนั้นน่ะแล้วถ้าแรงปรารถนาทางธรรม แรงปรารถนาทางธรรมมันจะพ้นจากทุกข์ พ้นจากทุกข์มันต้องค้นคว้าหาหัวใจของตนให้เจอก่อน ใจของตนๆ

ปฏิสนธิจิตเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะเพราะความไม่รู้มันถึงมาเกิดแล้วพอไม่รู้มาเกิด เกิดด้วยอำนาจวาสนาบารมี คนมีบุญกุศลแล้วมันยังไม่รู้จักตัวเองมีบุญกุศลนะ ถ้ามีบุญกุศลเพราะอะไร เพราะเกิดเป็นมนุษย์ไง

พอเกิดเป็นมนุษย์เกิดมาพบพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาสอนเรื่องอะไร สอนเรื่องหยาบๆ เรื่องมารยาทสังคมเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่เรื่องการบริหารทิศ เรื่องสังคมมิตรแท้ คนเทียมมิตร มิตรแท้ มิตรเทียม คบนักปราชญ์ คบบัณฑิต คบคนพาล อเสวนา จพาลานํ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนหมดเลย นี่รื้อสัตว์ขนสัตว์ รื้อสัตว์ขนสัตว์ตั้งแต่สังคม รื้อสัตว์ขนสัตว์ตั้งแต่ศีล ๕ อย่าไปเบียดเบียนมันนะ สัตว์น่ะ สัตว์มันไม่มีปัญญาเหมือนมนุษย์ เรามีเมตตากับมันเมตตากับมันเพราะอะไรเพราะใครจะไปรู้ได้ว่าเราจะไปเกิดเป็นสัตว์หรือไม่ แล้วสัตว์ที่มันเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะจะเป็นญาติโกโหติกาเราหรือไม่ สิ่งที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะมันบุญกุศลของคนแล้วเราไปเบียดไปเบียน เราไปทำร้ายญาติโกโหติกาเราหรือเปล่า

ถ้ามีสติปัญญามันคิด มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ หรือ มันมีการเวียนว่ายตายเกิดอีกหรือ นี่ไง ด้วยทิฏฐิมานะของตน เวลาคนมันหยาบมันหยาบอย่างนั้นดูสิ ความเมตตาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งแต่ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล๑๐ ศีล ๒๒๗แล้วศีลก็ถือได้ยาก ลำบากไปหมด

อ้าว! ก็ของมันมีคุณค่าของต่ำๆ วัตถุที่ไหนก็มีไง ดูสิดูเหมืองทองสิเครื่องยนต์กลไกมันไประเบิดเอา ของที่เป็นวัตถุธาตุมันจะอยู่ที่ลึกขนาดไหนเขาก็เอามาใช้ประโยชน์ได้ทั้งนั้นน่ะ แล้วนี่หัวใจของคนหัวใจของคน

เวลาเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะก็บอกไม่รู้ ก็ไม่รู้คืออวิชชา ก็ไม่รู้ถึงมานั่งอยู่นี่ไงแต่เพราะไม่มีอำนาจวาสนาไม่มานั่งอยู่อย่างนี้นะ ถ้ามานั่งอยู่อย่างนี้ คนไปวัดไปวาคือคนที่มีปัญหาทั้งนั้น คนที่อยู่บ้านอยู่เรือนนี่คนเขามีความสุข เขาอยู่ตึกสูงๆ เขามีทุกอย่างพร้อม

วันไหนคิดได้ คอตกนะเวลาตนเองจะต้องพลัดพรากมองสมบัติของตนแล้วก็คอตกทั้งชีวิตอาบเหงื่อต่างน้ำมาเพื่อเหตุนี้หรือ แล้วเราไปนี่จะไปไหน แล้วสมบัตินี้จะเป็นของใคร

ถ้ามีลูกมีเต้าที่รับสมบัติไปมันก็ยังพอวางใจนะ ถ้าไม่มีลูกมีเต้า ตามกฎหมาย คนที่เสียชีวิตไม่มีทายาทรับสมบัติสมบัตินั้นตกเป็นของแผ่นดิน ถ้าไม่มีญาติ ไม่มีเครือญาติ สมบัตินั้นตกเป็นของแผ่นดิน ตกเป็นของรัฐบาล

หามาๆเวลามองแล้วจะไปไหน แต่ปฏิสนธิจิตเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ เรามีน้ำใจต่อกันหรือไม่ คนมีน้ำใจต่อกันระลึกถึงไง พี่น้องของเรา ญาติโกโหติกาของเราใกล้ชิดกันโดยญาติ ใกล้ชิดกันโดยสายเลือดไปมาหาสู่กันการที่ไปมาหาสู่กันใกล้ชิดยิ่งกว่าญาติอีก คิดถึงเพื่อน เพื่อนคิดถึงเราๆ เวลาคนที่เขารักกัน เขาเป็นห่วงเป็นใยต่อกันนะ เขาดูแลกัน เขารักษากัน เห็นไหม นั่นน่ะน้ำใจพอน้ำใจขึ้นมาเวลามีสติมีปัญญาขึ้นมาแล้วน้ำใจเป็นอย่างไรล่ะ แล้วใจล่ะ แล้วใจขึ้นมา

วันพระวันพระเรามาแสวงหาบุญกุศลของเรา เราทำบุญกุศลของเราเพื่ออำนาจวาสนาบารมีของใจดวงนี้ ถ้าใจดวงนี้เสียสละได้ ความเสียสละได้ บุญกุศลของเราจิตใจมันจะยอมรับเหตุรับผลถ้ายอมรับเหตุผลเราใช้สติปัญญาของเรา เห็นไหมนี่แรงปรารถนาปรารถนาอะไรปรารถนาอะไรมันก็สติปัญญานั่นแหละตัวชี้นำ ถ้ามีสติปัญญามากน้อยแค่ไหนมันก็จะได้สมบัติ

คุณธรรมคุณธรรมในใจของตน ถ้าคุณธรรมในใจของตน ถ้าจิตสงบ จะพ้นจากทุกข์ๆ ต้องค้นคว้าหาใจของตนให้เจอก่อน ถ้าค้นคว้าหาใจของตนให้เจอ นั่นล่ะเราก็จะจับมันมาทำความสะอาด

ถ้าใจของตนไม่เจอหรือ เราจะทำความสะอาดใจของเรา แล้วเราไม่รู้จักใจของเรา เราหาใจของเราไม่เจอ“ว่างๆ ว่างๆ อู๋ย! ว่างหมดเลย มีความสุขหมดเลย” แล้วของใครล่ะ มันเป็นของสาธารณะมันเป็นของทั่วไปใครก็มีได้

แต่ของของเรา ของของเรา จำเป็นที่สุดคือของของเรานะ ถ้าเราทำความผิด เราก็มีโทษในตัวของเรา ถ้าเราทำดีเราก็ได้บุญกุศลในตัวของเรา ถ้าเราทำ ใจนี้มันเป็นผู้รับทั้งนั้นน่ะ นี่ไง สิ่งที่เป็นทิพย์ๆ ในใจนี้ไง

ใจเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะด้วยบุญด้วยกุศลนะ ด้วยสติด้วยปัญญามันคัดมันแยกมันชักนำใจเราไป ถ้ามันชักนำใจเราไป แค่นี้แหละ สิ่งแรงปรารถนาๆปรารถนาทางสังคมทั้งนั้นน่ะ มีสูงมีต่ำ ทางโลกเราก็รักษากันทางโลก ทางโลกเราก็ดูแลช่วยเหลือกันทางโลก

แล้วทางโลก ธรรมของผู้ปกครอง ถึงที่สุดแล้ว จิตตะวิมังสา เรารักษาเราดูแล เราปรารถนาดีกับเขาทั้งนั้นน่ะ เราช่วยเหลือเจือจานเขาเต็มที่แล้วแหละ ถึงที่สุดเราก็อุเบกขาเพราะมันเป็นเวรเป็นกรรมของสัตว์ มันเป็นเวรเป็นกรรมของเขา เขามีความรู้สึกนึกคิดอย่างนั้น เขามีความเห็นอย่างนั้นไส้เดือนต้องอยู่ที่ดิน มันอยู่บนโต๊ะไม่ได้หรอกสิ่งที่อยู่บนโต๊ะมันเป็นคน สิ่งที่มีคุณภาพ ไส้เดือนต้องอยู่ที่ดินทั้งนั้นน่ะ

นี่ก็เหมือนกัน เราปรารถนาๆ เราจะเอาไส้เดือนมาไว้บนที่สะอาด แล้วพอมันเป็นไปไม่ได้เราก็ทุกข์ใจ นี่ชี้ให้เห็นว่ามันเป็นกรรมของสัตว์ๆมันเป็นอย่างนั้นธรรมชาติของไส้เดือนธรรมชาติของสัตว์มันก็เป็นอย่างนั้นน่ะธรรมชาติของคนๆ ธรรมชาติของคน คนที่มีกิเลสหนามันก็คิดของมันอย่างนั้นน่ะ ธรรมชาติของคนที่จิตใจมันประเสริฐขึ้นมาใจมันเบาบางขึ้นมา มันรู้สึกนึกคิดสิ่งใดมันคิดแต่สิ่งที่ดีๆเราฝึกหัดของเรา

สิ่งที่ดีๆเทียบด้วยอะไรเทียบด้วยศีลเทียบด้วยคุณธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราเกิดมาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า “เธอจงมีธรรมเป็นที่พึ่งเถิด อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งเลย” แล้วธรรมมันคืออะไรล่ะ ไม่รู้จักวิ่งไปหา หาไปทั่วไม่รู้จัก

ถึงที่สุดแล้วต้องนั่งลงแล้วหายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ ถ้ามันเจอที่นั่นขึ้นไปมันสำเร็จที่นั่นมันไม่มีใครทำให้ได้หรอกเป็นไปไม่ได้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรารถนารื้อสัตว์ขนสัตว์ด้วยธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมวินัยนี้เป็นศาสดาของเธอ สิ่งที่สอนไว้ๆ คือสัจธรรมในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วบอกถึงวิธีการๆ ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกอย่างนั้นเป็นวิธีการทั้งหมด แล้วคนที่ปฏิบัติขึ้นมามันจะเป็นความจริงขึ้นมาในใจนั้น ถ้าเป็นจริงขึ้นมาในใจนั้น

สติก็คือสติ สติคำเดียวเท่านั้นน่ะ แล้วพูดกันพร่ำเพรื่อ พอพร่ำเพรื่อขึ้นไปแล้วมันก็เลยเลื่อนลอย พอเลื่อนลอยมันก็เลยบอกนู่นสติ นี่สติ มีสติจริง สติปลอม สติอะไรกันไปทั่ว นั่นมันคืออะไรน่ะ มันออกนอกลู่นอกทางไปหมดไง เพราะอะไร เพราะถ้าพูดแล้วมันเป็นมุข พูดแล้วมันมีสิ่งใครสนใจโอ๋ย! มันเท่ แต่ไม่มีเนื้อหาสาระไม่มีความจริงเลย

ถ้าเป็นความจริงๆ มันต้องรู้ขึ้นมาในใจดวงนั้น ถ้ารู้ในใจดวงนั้นมันสดๆ ร้อนๆไง เวลาเป็นจริงๆ ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครูบาอาจารย์ท่านพูดนะ สดๆ ร้อนๆสดๆ ร้อนๆ มันเป็นปัจจุบันน่ะมันไม่มีกาลไม่มีเวลานะ อกาลิโกเลยล่ะ

แล้วเราก็อ้างกันนะ หมดยุคหมดสมัยหมดร้อยแปด

ถ้าหมดยุคหมดสมัยพระศรีอริยเมตไตรยจะมาตรัสรู้อะไร ก็มันหมดไปแล้ว องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอนาคตจะมาตรัสรู้ได้อย่างไรมันมีอยู่ทั้งนั้นน่ะมันอยู่ที่ความสามารถของคนมันอยู่ที่ความสามารถของหัวใจของคนที่มีหลักเกณฑ์แค่ไหน มีความสามารถมากน้อยแค่ไหน ถ้าจิตใจมีหลักเกณฑ์ มีความสามารถมากน้อยแค่ไหน มันทำได้ผลประโยชน์ตามนั้นไง แล้วถ้ามันเป็นจริงขึ้นมาก็เป็นจริงขึ้นมากับหัวใจดวงนั้น

แรงปรารถนา ทุกคนก็ปรารถนาดีกันทั้งนั้นน่ะ ทุกคนก็ใฝ่ดีทั้งนั้นน่ะ ทุกคนก็ต้องการให้โลกร่มเย็นเป็นสุขถ้าจิตใจคนที่เป็นธรรมแต่จิตใจที่เป็นกิเลสนะ มันต้องการให้เกิดการขัดแย้ง แล้วมันก็จะหาผลประโยชน์จากการขัดแย้งนั้นไง หาผลประโยชน์จากการขัดแย้งนั้นแต่คนที่เป็นธรรมๆ นะ มันมีเมตตาธรรมบ้านไหนครอบครัวไหนเขามีการกระทบกระเทือนกันอยากให้เขาร่มเย็นเป็นสุขๆแต่มันก็เป็นเวรเป็นกรรมของสัตว์ เป็นเวรเป็นกรรมของสัตว์ของเขา เขามีความกระทบกระเทือนในเรื่องกรรมของเขาที่กระทำมาอย่างนั้น มันก็เป็นเรื่องเวรกรรมของสัตว์นะ

แต่แรงปรารถนา ทุกคนก็ปรารถนา ทุกคนอยากให้มีความสุข ความสงบ ความระงับทั้งนั้นน่ะ แต่มันมีสิ่งใดเหนือกรรมล่ะ สิ่งใดมันเหนือการกระทำ แต่เราต้องบอกว่า เราก็ต้องทำคุณงามความดีมานะ ยกตัวอย่างลำดับแรกเลย การได้เกิดเป็นมนุษย์มีค่าที่สุดแล้ว การได้เกิดเป็นมนุษย์มันจะทุกข์มันจะยากขนาดไหน เราก็ได้เป็นมนุษย์นะ มีกฎหมายคุ้มครองนะ มีสิ่งใดที่คุ้มครองดูแลเรา เราไม่ต้องเสียใจไปมากนักหรอก ไอ้ที่เสียใจๆ ก็เราทำมาอย่างนี้เองถ้าเราไม่เทียมหน้าเทียมตาเขาเราก็เป็นมนุษย์ประชาธิปไตยไงเท่ากันไง สิทธิเสรีภาพเท่ากัน๑ เสียงเหมือนกัน แล้วเราไปน้อยเนื้อต่ำใจเรื่องอะไรล่ะ แต่เรื่องสิ่งที่เราทำมาจากภายนอกอันนั้นมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งใช่ไหม

ฉะนั้น ถ้าเรามีสติปัญญาอย่างนี้แล้ว สิ่งที่มีค่าคือชีวิตของเรา แล้วสิ่งที่มีค่าคือชีวิตของเราแล้ว เราจะใช้ชีวิตไปขนาดไหน วันไหนนะถ้าใกล้จะหมดลมแล้วจะมาเสียใจทีหลัง

ขณะที่มีลมหายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ ยังมีหัวใจดวงนี้เพื่อให้ตามหา ถ้าตายไปแล้วนะหัวใจดวงนี้ออกจากร่างไปจะไปตามหาที่ไหน มันไปแล้ว มันไปแล้วมันก็ไปหลงเพลินกับมันไงมันต้องเสวยภพเสวยชาติตามเวรตามกรรมของมัน ถ้ามันไปเสวยภพเสวยชาติในสิ่งที่มันเป็นบาปอกุศลมันก็มืดบอดอยู่นั่น ถ้ามันไปเสวยชาติในบุญกุศล ไปเกิดเป็นเทวดาอินทร์ พรหม มันก็ไปเพลินอยู่นั่น

มนุษย์นี่แหละมีความสุขความทุกข์บีบคั้น มนุษย์นี่แหละมีความต้องการแสวงหาเพื่อดำรงชีพ มนุษย์นี่แหละมันถึงจะทำให้เราตื่นตัวไง ก็มนุษย์นี่แหละจะทำให้เราได้แสวงหา ก็มนุษย์นี่แหละ

ฉะนั้น ถ้ายังมีลมหายใจเข้าออก สิ่งนั้นมันเป็นเครื่องดำรงชีพ ปัจจัยเครื่องอาศัยเพื่อดำรงชีพ เพราะชีวิตนี้มีค่า ถึงต้องดำรงชีวิตนี้ไว้ แล้วดำรงชีวิตนี้ไว้ เราก็พยายามขวนขวายของเราจนกว่ามันจะหมดอายุขัยของมัน หมดอายุขัยตามอายุขัยของเรา เราดูแลอันนี้ดูแลอันนี้จนสุดความสามารถของเรา นี้ถึงเป็นคนที่มีสติ นี้ถึงเป็นคนที่มีโอกาส

เกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา ขวนขวายของเราด้วยอริยทรัพย์ในใจของเรา ทรัพย์สมบัติทางโลก อย่าไปตื่นกับมัน อยู่อย่างนั้นน่ะ อยู่อย่างนั้นจริงๆ อยู่ที่ใครมีสติมีปัญญามากน้อยแค่ไหน แต่อริยทรัพย์ อริยทรัพย์อันนี้ อริยทรัพย์อันนี้เกิดภาวนามยปัญญาปัญญาที่เกิดจากหัวใจ ปัญญาที่เกิดจากปฏิสนธิจิต ปฏิสนธิจิตที่มันเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ แล้วปัญญาเกิดจากมัน ปัญญาเกิดจากจิตเดิมแท้แล้วปัญญาเข้าไปชำระล้างในใจดวงนั้นน่ะแล้วมันจะพ้นไปไหนล่ะถ้ามันเกิดภาวนามยปัญญาเอวัง