เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๑๔ ส.ค. ๒๕๖o

 

เทศน์เช้า วันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๐
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

ตั้งใจฟังธรรมะหัวใจต้องการธรรมะนะหัวใจต้องการที่พึ่งที่อาศัยชีวิตนี้คืออะไรชีวิตนี้คือไออุ่น ไออุ่นตั้งอยู่บนกาลเวลา กาลเวลาของมนุษย์เรา๑๐๐ ปี กาลเวลาของเทวดา กาลเวลาของพรหม เราเกิดภพชาติใดชาติหนึ่งนะดูสิ แมลงวันเกิด ๗ วัน มันก็ว่าอายุมันยืนยาวนะยืนยาวเพราะในธรรมชาติของเขา

ในธรรมชาติของเรา ไออุ่นตั้งอยู่บนกาลเวลา แล้วกาลเวลา เราเกิดมา ๑๐๐ ปี๑๐๐ ปีตั้งแต่วัยเด็ก สิ่งที่เป็นเด็กจินตนาการของเขา พ่อแม่ยิ่งกว่าเทวดามันร้องไห้เอามันบังคับเอาพ่อแม่ต้องให้มันหมด ชีวิตของเขานะความสุขเอาจากพ่อจากแม่

เวลาโตขึ้นมา โตขึ้นมาต้องแสวงหา ต้องมีงาน ต้องมีหน้าที่การงานของเราเวลาชราภาพขึ้นมา ไม้ใกล้ฝั่ง ไม้ใกล้ฝั่งไปวัดไปวาจะไปฟังเทศน์ ไปฟังเทศน์เพื่อเตรียมตัว นี่กาลเวลา แล้วเราฆ่ามันทิ้งเราทำลาย

ดูสิเวลาคนทางโลก เขาบอกว่า เวลาเขามีเวลาว่าง เขาฆ่าเวลาๆทำงานเพื่อฆ่าเวลา ทำเพื่อฆ่าเวลา เพราะทำงานเพื่อการฆ่าเวลาไม่จริงไม่จังไงแต่ถ้าเป็นจริงเป็นจัง เวลามีค่านะ เวลามันไปแล้วสายน้ำไหลแล้วไม่ย้อนกลับ ชีวิตเราหมดไปแล้วเรียกมันกลับมาไม่ได้หรอกมันน่าเสียดายมันน่าเสียดายเวลาของเรามันผ่านไป

วันคืนล่วงไปๆ นะบัดนี้เธอทำอะไรอยู่ ถ้าทำอะไรอยู่ ทำหน้าที่การงานของเรา เราก็ทำของเรา ทำเพื่อดำรงชีพๆดำรงชีพไว้ทำไม ดำรงชีพไว้ก็เป็นขี้ข้ามันไงดำรงชีพไว้หมดอายุขัยไงดำรงชีพไว้ๆเราก็ประสบความสำเร็จโดยธรรมชาติโดยธรรมชาติของธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเป็นธรรมชาติไง

ธรรมะเป็นธรรมชาติสรรพสิ่งในโลกนี้เป็นอนิจจัง สิ่งใดเป็นอนิจจัง สิ่งนั้นเป็นความทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา มันเป็นอนิจจังมันแปรปรวนตลอดเวลามันเป็นสัจจะเป็นความจริงในธรรมชาตินั้น เราก็ยอมจำนนกับธรรมชาตินั้น

พอธรรมชาตินั้นถ้าสิ่งใดขัดอกขัดใจ ไม่ได้สมความปรารถนาทุกข์ๆๆ แต่เวลามันทุกข์แล้ว ความทุกข์นั้น กาลเวลามันก็บำบัดไป เวลามันผ่านไปนะความทุกข์นั้นมันก็เบาบางลง แล้วมันก็จะไปเจอใหม่รอบหน้านั่นน่ะ มันก็จะหมุนเวียนของมันไปอยู่อย่างนี้

เราฆ่าเวลาๆ เวลามันมีค่า ถ้าเวลามันมีค่าขึ้นมา วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้ทำอะไรอยู่

เวลาบวชมาเป็นพระ เวลาบวชเป็นพระขึ้นมาบวชมา วันเวลาพรรษาหนึ่งก็ ๓ เดือนถ้า ๒ พรรษา๓ พรรษา ๑๐พรรษาขึ้นไปมันก็มีอาวุโสภันเต อาวุโสภันเตแล้วจิตใจมันอาวุโสขึ้นมาไหม มันมีคุณธรรมขึ้นมาไหม มันมีหลักเกณฑ์อะไรในหัวใจบ้าง หัวใจมันเติบโตขึ้นมาไหม

ปลูกต้นไม้ ต้นไม้มันยังโตหัวใจมันปลูกโตขึ้นมาไหมหัวใจมันเท่าเก่า เลวกว่าเก่า ถ้ามันมีแต่กิเลสตัณหาความทะยานอยากมันเลวกว่าเก่า

ต้นไม้ดูสิ อายุ ๑๐๐๐ ปี ที่เป็นต้นไม้ๆ ข้างในกลวงหมด ข้างใน พออายุมันมากขึ้น มันใช้ดูดสารอาหารไป มันเหลือแต่เปลือก ต้นไม้ที่อายุ ๑๐๐ ปี ๑๐๐๐ ปี ไปดูสิ ข้างในเป็นโพรงทั้งนั้นน่ะ แต่อายุขัยมันเป็นพันๆ ปีนะ แต่มันเหลือน้อยนัก เหลือน้อยนักในโลกนี้ไง เพราะโดยธรรมชาติของมัน สิ่งมีชีวิตมันแปรปรวนไปตลอดเวลา สิ่งที่ถ้าเวลามันได้อายุขัยขึ้นมา มันก็ควรจะเจริญงอกงามขึ้นมา มันควรพัฒนาขึ้นมาไง ถ้ามันพัฒนาขึ้นมา อาวุโสภันเตมันก็น่ากราบไหว้

เวลาเราจะกราบจะไหว้ จะกราบไหว้ อาวุโสภันเต ธรรมวินัยขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรากราบเพราะเราเชื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไงเหมือนเราเป็นคนไทย เราเป็นคนไทยอยู่ในกฎหมายไทย กฎหมายไทยบังคับใช้เสมอหน้ากันแต่มันเสมอไหมล่ะ มันไม่เสมอหน้าเพราะอะไรเพราะว่าคนที่มันหลบหลีกไปตามช่องกฎหมายนั่นน่ะคนที่มันหาผลประโยชน์จากกฎหมายนั่นน่ะ กฎหมายใช้บังคับเสมอกัน ธรรมวินัยขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เสมอภาคกัน

เราเกิดเป็นมนุษย์เกิดมาพบพระพุทธศาสนาพระพุทธศาสนาสอนเรื่องอะไร ถ้าพระพุทธศาสนาสอนเรื่องอะไร ถ้าเรื่องฆราวาสก็สอนเรื่องให้เสียสละ การว่าเสียสละเสียสละเพื่ออะไร เสียสละขึ้นมาเพื่อพัฒนาหัวใจนี้ไง ให้หัวใจมันพัฒนาไง

ผู้ให้พอให้แล้วมันแช่มชื่น ผู้ให้ให้แล้วมันมีความสุข ผู้ให้แล้วมันพัฒนาของมัน มันพัฒนาการ สิ่งนั้นเพื่อพัฒนาการหัวใจไง แต่ทางวิทยาศาสตร์อ้าว! ให้มันจะได้อย่างไรล่ะให้มันมีแต่หลุดมือไปๆมันจะได้อย่างไรล่ะ ไอ้ให้ไปๆ นี่ไงทางวิทยาศาสตร์ทางโลกที่เขามอง มองกันอย่างนั้นไง

แต่ในทางธรรมๆให้ด้วยธรรมนะ ไม่ใช่ให้ด้วยกิเลสอย่างเราขี้ทูดกุดถัง อวดอยากจะให้เขา ไปกว้านมา ไปจี้ปล้นมาเพื่อจะแจกเขา ให้เขาเพื่อตัวเองจะมีหน้ามีตาไงไอ้นี่มันมีแต่เวรแต่กรรม

แต่เวลาให้มันปฏิคาหก ไอ้คนที่เขาให้ เขาให้เพื่อพัฒนาหัวใจของเขาเวลาคนที่พัฒนาหัวใจของเขา เวลาเขาให้ เขาให้ใต้ดินนะ พวกนี้เขาให้ เขาไม่ต้องการชื่อเสียงเกียรติศัพท์เกียรติคุณใดๆ ทั้งสิ้น เขาต้องการชำระกิเลสในใจของตน เขาให้เพื่อบรรเทากิเลสในใจเขาให้เพื่อคุณภาพของใจ เขาให้เพื่อจะพัฒนา

แต่เวลาเขาให้ไปแล้ว ดูสิ ในทางปกครองใช่ไหม ผู้ที่มีศีลมีธรรมเขาให้กำลังใจกันไง ให้ชื่อให้เสียง ให้ยศถาบรรดาศักดิ์ไอ้นั่นก็เลยบ้าแต่เริ่มต้นมันมาจากไหนล่ะก็มาจากเขาเห็นคุณงามความดีๆ ไงถ้าเห็นคุณงามความดี ถ้าเราเป็นฆราวาสพระพุทธเจ้าสอนอะไร ก็สอนการเสียสละขึ้นมา เสียสละเพื่ออะไร

เกิดมามีชีวิตนะ ดูสิเวลาคนเกิดมาเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีเงินทองมหาศาลใช่ไหม นี่เราเกิดมามีอวัยวะ๓๒ มีมือ มีเท้า มีสมองหาอยู่หากินได้หาอยู่หากินได้ทำมาเพื่อพัฒนาหัวใจทำมาเพื่อสละเพื่ออุ้มชู ดูสิพระโพธิสัตว์ๆพระโพธิสัตว์เวลาเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ เสียสละชีวิต เสียสละทั้งนั้นน่ะ เขาเสียสละ

นี่ไงเกิดมาๆ คนที่เป็นเศรษฐีเขามีทรัพย์สมบัติของเขา เราเกิดมาเป็นมนุษย์ เรามีสมอง มีมือมีเท้า ทำอะไรก็เป็นประโยชน์ทั้งนั้นน่ะ ถ้าเป็นประโยชน์ขึ้นมาแล้ว ถ้าจิตใจมันสูงมันส่ง มันทำเพื่อประโยชน์ของมัน เพื่อประโยชน์ตรงไหน ก็เพื่อประโยชน์พัฒนาหัวใจนี่ไง

ดูสิพระโพธิสัตว์ที่ท่านทำ ท่านทำเพื่อพัฒนาหัวใจของท่านพัฒนาหัวใจของท่านด้วยเจตนา ด้วยการกระทำอันนั้น เสียสละอันนั้นไป แต่หัวใจมันเบิกบาน มันแช่มชื่นขึ้นไหม

นี่ไงเวลาพระบวชมาๆ พระบวชมาก็เพื่อประพฤติปฏิบัติไง มันรู้จักพระบวชมาแล้วเหมือนหมอหมอเขาเรียนมาแล้วนะ เขาเรียนถึงทางเคมี ทางสารต่างๆ เขาจะใช้ยาอะไรเพื่อแก้โรค รักษาโรคนั้น ดูสิ ถึงเวลาแล้ว เวลาเผาอาจารย์ใหญ่ ไปกราบไหว้บูชากันเพราะอาจารย์ใหญ่ให้วิชาการเขา

นี่ก็เหมือนกันบวชมาแล้วถ้ามันทำของมันได้ ทางวิชาการอันนั้นน่ะ ทางวิชาการคือความรู้จริงอันนั้นไง สติเป็นอย่างไร แล้วมันยืนยันได้ถ้ามีสติแล้วไอ้ความฟุ้งซ่านหายหมด ถ้ามันมีสมาธิขึ้นมา นั่นน่ะหาหัวใจของตนเจอ ถ้าหาหัวใจของตนเจอ ปฏิสนธิจิต ปฏิสนธิจิตที่เขาแก้กัน ไปแก้กันที่นั่นไง

เวลาเป็นหนี้อวิชชามันอยู่ที่หัวใจนั้นน่ะมันเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ แล้วมันแก้หนี้ไม่ได้แก้หนี้ก็ไปปลดที่เงาไงความคิดๆ บ้าบอคอแตกนั่นไง ไอ้นั่นความคิดๆ อะไรของมัน ความคิดมันคิดมารก็ได้ ความคิดอวิชชาก็ได้ความคิดแบบไม่รู้ก็ได้

แต่ถ้ามันสงบเข้ามาความคิดมันคืออะไร ความคิดมันดับไปแล้วมันเหลืออะไร ถ้ามันเหลือสิ่งใดมันเป็นประโยชน์อย่างไร นี่ไงถ้ามันเป็นความจริง มันเป็นความจริงที่นี่ไง ถ้าความจริงที่นี่

นี่ไงเวลาเกิดมาเราเกิดมาเป็นมนุษย์ อริยทรัพย์ๆ มีอาการ ๓๒สมบูรณ์ คนที่อาการ ๓๒เขาไม่สมบูรณ์เขายังมีความเข้มแข็ง เขายังดำรงชีพได้เขายังพัฒนาการของเขาได้ นั่นน่ะหัวใจเขาเข้มแข็งกว่าร่างกายเขาอีกร่างกายเขาขาดตกบกพร่อง แต่หัวใจเขาเข้มแข็ง หัวใจเขาเข้มแข็ง หัวใจเขามีสติปัญญา เขาสามารถดำรงชีพได้ เขาสามารถเป็นผู้นำของมวลชนได้ นี่ถ้าร่างกายเขาไม่สมบูรณ์

นี่ไงกรรมของสัตว์ๆ มันเป็นกรรมของสัตว์โทษใครไม่ได้ทั้งนั้นน่ะ เวลาโทษ โทษการกระทำของเรานี่แหละ โทษเวรโทษกรรมกรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กันการกระทำของเรานี่แหละ การกระทำแล้วมันอุบัติเหตุหรือสิ่งต่างๆ มันก็เกิดจากการกระทำ เพราะคนประมาทเลินเล่อ แล้วเวรกรรมมันให้ผล นี่ไง สิ่งที่เวรกรรมให้ผลๆ ถ้ามันเป็นจริงขึ้นมาๆ

ถ้าวันเวลามันมีค่ามีค่าขึ้นมา เราจะไม่ให้เวลาเสียเปล่า เวลาครูบาอาจารย์ของเราท่านทำของท่านก็ไม่ให้เวลาเสียเปล่า เวลาอยู่กับหมู่คณะมันมีข้อวัตรปฏิบัติใช่ไหมเวลาข้อวัตรปฏิบัติ ถึงเวลาเราก็ทำให้มันพร้อมกัน พอทำเสร็จแล้วมันจบ

ดูสิเวลาครูบาอาจารย์เราอยู่กับหลวงปู่มั่นนะ ถ้าทำสิ่งใดให้ทำในเวลาข้อวัตรนั้น ไม่ให้เสียงกระทบกระเทือนกันเสียงกระทบกระเทือนกันเวลานั่งปฏิบัติแล้วทุกคนต้องการความสงบ ทุกคนต้องการน้ำใจของคนอื่นแล้วมันกระทบกระเทือนกันมันขุ่นใจ มันขุ่นใจเพราะอะไร นี่ไง สิ่งที่ว่าถ้าจิตมันพัฒนาแล้วมันรู้ไง รู้กฎหมายกฎหมายเขาห้าม พอกฎหมายเขาห้าม ถ้าเราไม่ฝืนกฎหมายไปมันก็ไม่ไประรานใครใช่ไหม นี่ก็เหมือนกัน ข้อวัตรปฏิบัติขึ้นมา พระถ้าอาวุโสภันเตขึ้นมา ถ้ามันอาวุโสขึ้นมามันทำอะไรขึ้นมาได้อย่างไร

มันเห็นคุณค่านะ เห็นคุณค่าอย่างนั้นมาก เห็นคุณค่าในที่สงบสงัด เห็นคุณค่า เห็นคุณค่าเพราะอะไร เวลาสัปปายะ ๔ ถ้ามันเห็นคุณค่าอย่างนั้น แล้วเวลาจิตมันสงบขึ้นมา อธิจิต จิตมันสงบระงับเข้ามามันยิ่งมหัศจรรย์กว่านั้น ถ้ามหัศจรรย์กว่านั้นขึ้นมา

เวลามันฟุ้งมันซ่านฟุ้งซ่านไม่ต้องถามใครเลยทุกคนมีหมดเวลาความทุกข์ความยากขึ้นมาแล้วมันคนหนาคนบางแตกต่างกันคนหนาคนบางแตกต่างกัน คนคิดเบาบาง บางคนคิดแบบทุกข์ยากมากบีบคั้นจนหวาดระแวง

เวลาดูพวกเสพยาพอเสพยาแล้วมันหวาดระแวงว่าคนจะทำร้ายมันๆ ดูสิ ดูสายตามันสิ ดูพฤติกรรมสิโอ้โฮ! ไปไหนมันมีแต่ความทุกข์ทั้งนั้นเลยไอ้นี่มันพฤติกรรมเพราะมันเสพยาบ้า แต่ของเรามันหวาดระแวงในหัวใจ มันอยู่ข้างในคนนอกมองไม่เห็น แต่มันทุกข์ มันหวาดระแวงมันสะดุ้งกลัวอยู่ภายใน นี่ไง เวลามันฟุ้งมันซ่านขึ้นมา

แต่ถ้ามีสติมีปัญญาขึ้นมา กาลเวลา เวลาเกิดเป็นมนุษย์เกิดมาพบพระพุทธศาสนาเกิดมีอาการ๓๒ มีสมอง มีทุกอย่างพร้อมไง แต่จิตใจมันอ่อนแอ จิตใจไม่มีกำลังขึ้นมา ถ้ามันฝึกหัดๆ ขึ้นมาเวลามันผ่านไปๆ เวลามันประพฤติปฏิบัติถึงที่สุดแห่งทุกข์เหนือกาลเหนือเวลาเวลา เอ็งกระดิกไปเถอะใจนี้ไม่เกี่ยวไม่มีผลกับธรรมธาตุอันนั้นเลย

เวลาก็คือเวลา มันจบแล้ว มันจบตั้งแต่กิเลสสิ้นไป ถ้ากิเลสสิ้นไปแล้ว เวลามันก็หมุนไปวัฏฏะไง นี่ไงวัฏฏะ ผลของวัฏฏะ ผลของวัฏฏะแล้วจิตนี้มันจะไปยุ่งอะไรกับวัฏฏะล่ะ มันวิวัฏฏะมันพ้นจากวัฏฏะไปแล้ว

ถ้ามันพ้นจากวัฏฏะไปแล้ว แต่มันยังมีชีวิตอยู่สอุปาทิเสสนิพพานเศษส่วนร่างกายนี้เป็นเศษทิ้ง ธาตุ ๔และขันธ์ ๕เป็นเศษทิ้งเท่านั้นน่ะ แต่เศษทิ้ง เศษทิ้งยังเป็นประโยชน์กับโลกมหาศาลนะแต่เป็นเศษทิ้งของผู้ที่ประพฤติปฏิบัติถึงที่สุดแห่งทุกข์แล้วถ้ายังไม่ประพฤติปฏิบัติ ไม่ถึงที่สุดแห่งทุกข์นั่นน่ะมารทั้งนั้นเลย มารมันข่มขี่

กาลเวลาๆ ถ้ามันมีค่า มีค่าสำหรับผู้ที่ประพฤติปฏิบัติ แต่ถ้าคนที่ปฏิบัติแล้วมีสติมีปัญญา มันจะเห็นคุณค่าอันนี้นะ ถ้าคุณค่าอันนี้นะ อย่าปล่อยให้มันล่วงไปโดยเปล่าประโยชน์ไงเวลาเปล่าประโยชน์แล้วเวลาได้มาก็ได้มาแต่ตัวเลข ๕๐ ปี๖๐ ปี อายุขัยเวลาที่ได้มาจิตใจยังอ่อนแออยู่เหมือนเดิมเลวร้ายกว่าเก่าอีก

แต่ถ้าจิตใจมันพัฒนาขึ้นนะมันไม่มีสิ่งใดๆ เลย มันเป็นโลกธรรม๘ มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ มันมีไว้ประจำโลกแล้วโลก ดูสิเวลาหลวงตาท่านได้พัดยศทีแรก เวลาท่านอาจารย์วันเครื่องบินตก สังฆราชวัดราชบพิตรถวายท่านท่านเอาพัดยศอันนั้นไปคืนพระสังฆราช

ท่านพูดอย่างนี้ท่านเล่าให้เราฟัง ท่านบอกว่า "สิ่งที่เวลาพระนี่นะ พระเวลาทำหน้าที่การงานในศาสนาเขาควรมีกำลังใจน่าจะมีผลตอบแทนเพื่อให้เขามีกำลังใจเพื่อส่งเสริมพระพุทธศาสนาทำงานเพื่อศาสนา แต่เกล้ากระผมไม่ต้องหรอกเกล้ากระผมนะ หัวใจมันเป็นธรรมอยู่แล้ว ทั้งชีวิตทุ่มเทให้กับศาสนาอยู่แล้วไอ้เรื่องพัดยศไม่เกี่ยว" ท่านไปคืนสมเด็จพระสังฆราชท่านพูดอย่างนี้นะ

เห็นไหม เขาให้กำลังใจกันให้ยศถาบรรดาศักดิ์กัน เขาให้เป็นเครื่องน้ำใจต่อกัน ให้เขาทำคุณงามความดีไง

แต่ไอ้เราประพฤติปฏิบัติขึ้นมาถ้าความดีๆในหัวใจ ดูสิเวลาหลวงตาท่านเป็นพระอะไร เหนือกาลเหนือเวลาพอเหนือกาลเวลา เรื่องสิ่งนั้นไม่เกี่ยว สอุปาทิเสสนิพพาน เศษส่วนที่มันเหลือทิ้งๆมันไม่มีผลกับธรรมธาตุอันนั้น แต่มันเป็นประโยชน์กับโลกประโยชน์กับโลกต่างหากถ้าเป็นประโยชน์กับโลก เราเกิดมาเป็นมนุษย์เกิดมาพบพระพุทธศาสนาพระพุทธศาสนาสอนสิ่งใด ให้มีค่าๆถ้าทำสิ่งใดไม่ได้ เวลาที่มันผ่านพ้นไป แต่เราในหัวใจในหัวใจมันเหนื่อยมันหน่าย มันเบื่อมันหน่าย มันทุกข์มันยากมันลำบากไปทั้งนั้นน่ะ

ถ้ามันลำบากลำบากเกิดจากอะไรลำบากเกิดจากใจ เพราะใจ กิเลสตัณหาความทะยานอยากครอบงำอยู่ลองพลิกสิพลิกอารมณ์ใหม่สิ พลิกขึ้นมา ดูองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็เป็นมนุษย์ หลวงปู่เสาร์ท่านก็เป็นมนุษย์ครูบาอาจารย์ท่านก็เป็นมนุษย์ ทำไมท่านพลิกใจของท่านได้ล่ะ

อย่าไปคิดตามกิเลสสิพลิกกลับเลยเราก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน เราก็ต้องมีสติปัญญาเหมือนกัน เราก็ต้องเข้มแข็งเหมือนกัน เราพลิกเลยนะพอพลิกแล้วเป็นคนใหม่เลย เมื่อกี้มันยังคิดทุกข์คิดยากอยู่เลยเมื่อกี้มันยังน้อยใจอยู่เลยนะ เมื่อกี้มันยังเหยียบย่ำหัวใจ นั่นแหละตัณหาความทะยานอยาก จะคิดดีก็คิดแล้วทำไม่ได้ จะคิดชั่วหรือก็ละล้าละลัง ทำไม่ลงจะคิดไปทางชีวิตหรือ ชีวิตนี้ก็มีแต่ความตรอมใจ คิดอะไรมันเป็นกิเลสตัณหาความทะยานอยาก มันคิดโดยความทุกข์หมดเลย

มันพลิกด้วยสติด้วยปัญญาเห็นไหม พอพลิกขึ้นมา เราก็เป็นคนคนหนึ่ง เราก็สามารถมีสติยับยั้งความคิดได้ พอยับยั้งความคิดได้ กิเลสที่มันชักจูงอยู่นี่หยุดเลย พอหยุดเลย นี่เหยียบคันเร่งแรงๆ เพราะถ้ามันคิดดีคิดถึงชีวิตคิดถึงมีคุณค่า

ความเกิดมา พ่อแม่อุ้มครรภ์มา ๙เดือน กว่าจะได้คลอดมากินน้ำเลือดในหัวอกมาตั้งกี่ขวบ พ่อแม่เลี้ยงดูมาขนาดไหนชีวิตมันจะมีค่ามากน้อยแค่ไหน เราจะมานอนใจอยู่อย่างนี้ได้อย่างไร เราต้องเป็นคนดีขึ้นมา เราต้องประพฤติปฏิบัติขึ้นมาให้พ่อแม่เราไม่เสียกำลังใจ อุตส่าห์อุ้มท้องมา ๙เดือน แล้วก็หวังให้เราจะเป็นคนดี หวังว่าจะให้เราเติบโตมาแล้วเติบโตมาคิดสิ ถ้าคิดอย่างนี้แล้วนะไอ้ที่ว่าอยากได้ อยากดีอยากเด่นอยากจะเทียมหน้าเทียมตาเขา ไอ้นั่นโลกธรรม ๘ มีลาภเสื่อมลาภลาภมีมาเดี๋ยวก็เสื่อมไปเสื่อมไปแสวงหามันก็ได้มา ได้มาของมันเป็นอนิจจัง มันอยู่ประจำโลก

โลกเขาต้องการแสวงหาเพื่อดำรงชีพ เราก็ทำหน้าที่การงานของเราไปถ้ามันขาดตกบกพร่องสิ่งใดไปก็วางมันซะไม่ต้องไปคิดให้มันเจ็บช้ำน้ำใจ สิ่งใดที่ทำแล้วเป็นประโยชน์ เราก็รีบขวนขวายมาเพื่อความมั่นคงของชาติของตระกูลของเรา เพื่อคุณงามความดี เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนอิสระไหม ถ้าเราประพฤติปฏิบัติ เราแสวงหามา มีสิ่งใดเพื่อดำรงชีพแล้วถ้าใจมันเข้มแข็ง

ใจมันทุกข์มันยากมันไม่ให้ใครอู้ฮู! เวลาทุกข์ยาก ทุกข์ยากมากเลยพอได้มามันกอดไว้เลย

ถ้ามีสติปัญญา เราเคยทุกข์เคยยากมา เราก็อยากให้มีคนช่วยเหลือเจือจานใช่ไหมถ้าเราพอมีแบ่งปันได้ เราก็จะแบ่งปันให้คนนั้นบ้าง คนนี้บ้าง เพื่อความมั่นคงเพื่อบารมี เพื่อสร้างกรรมดีเพื่อเปิดโอกาส เพื่อมีการกระทำนี้ให้ปลอดโปร่งเพื่อสังคม เพื่อความดีงามทั้งนั้น ถ้ามันคิดได้อย่างนี้ มันคิด ถ้ามันพลิกถ้ามันเป็นพริกแกง มันเอาไว้กินเผ็ดๆ ถ้ามันเป็นพลิกกระทำ มันหาย

ถ้าพริกแกงนะ ยิ่งเคี้ยวไปเลยนะโอ๋ย! ต้องหาน้ำเลย ถ้าพริกอย่างนั้นไม่ไหว พริกนอนจมอยู่อย่างนั้น พลิกกระทำ พลิกทำขึ้นมาให้มันเป็นจริงขึ้นมา

เวลาเราเป็นมนุษย์ถ้ายังมีเวลาอยู่ ยังมีลมหายใจอยู่ ยังแก้ไขได้หมดยังมีความรู้สึกอยู่ เว้นไว้แต่คนตาย คนตายไปแล้วนะอาฬารดาบสอุทกดาบสองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยไปศึกษาร่วมกับเขา เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมขึ้นมาคนที่จะบรรลุธรรมได้ต้องจิตสงบ ต้องรู้จักตนเองต้องรู้จักหัวใจของตน

เขาได้สมาบัติ ๖สมาบัติ ๘ จะไปสอนเขาเสียดาย เขาเพิ่งตายไปเมื่อวานนี้ เสียดายๆ เพราะอะไร เพราะจิตเขามีกำลังแล้ว เขามีสมาบัติ ๖สมาบัติ ๘ ถ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงธรรม เขาจะมีดวงตาเห็นธรรม

แล้วเวลาไม่ได้ก็ไปเอาปัญจวัคคีย์ปัญจวัคคีย์อุปัฏฐากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามา ๖ ปี แต่เวลาแสดงธรรมไปแล้วพระอัญญาโกณฑัญญะมีดวงตาเห็นธรรมองค์เดียว อีก ๔บุรุษนั้นยังไม่ได้ ก็ต้องเทศนาว่าการต่อไป จิตใจคนไม่เหมือนกันไง

นี่ก็เหมือนกัน เราตั้งสติตั้งปัญญาอย่างนี้เวลานะ มีค่ามาก อย่าไปฆ่ามัน เวลาคน เวลาว่างๆอยู่ฆ่าเวลา ทำเพื่อฆ่าเวลาๆนี่ฆ่าสิ่งมีค่าที่สุดเลย แล้วอายุขัยมันก็หมดไป

แล้วชีวิตนี้มีการพลัดพรากเป็นที่สุด ที่สุดของชีวิตนี้คือการดับขันธ์ การตายไป ชีวิตนี้บทสุดท้ายคือลาจากโลกนี้ทุกชีวิตต้องเป็นแบบนั้นแล้วเรามีสมบัติสิ่งใดตามไป ถ้ามีสติสัมปชัญญะอย่างนี้ ชีวิตของเราจะไม่ทุกข์ยากจนเกินไป ไม่ทุกข์ยากจนเกินไป

แต่ถ้ามันบอกว่า จะต้องร่ำรวยมั่งมีศรีสุขโลกธรรม ๘บ้าบอคอแตกไปกับเขาโอ๋ย! มันเผาลนหัวใจ แล้วมันไม่ใช่สุขด้วย มันทุกข์ล้วนๆ เลย แต่ถ้าเราคิดของเราอย่างนี้มันก็ความทุกข์นะความทุกข์เพราะเป็นความเพียรความทุกข์เพราะเป็นความวิริยอุตสาหะ ความทุกข์เพราะมันเป็นงาน แต่ทุกข์นี้ทุกข์เพื่อจะสิ้นกิเลส เอวัง