สมาธิหยุดนิ่ง

ธรรมะพระพุทธเจ้าละเอียด ลึกซึ้ง เข้าใจ เข้าถึง รู้ได้ยาก แต่เมื่อรู้จริงในธรรมอันเป็นอริยสัจแล้ว ย่อมเหมือนกัน ไม่ขัดแย้งกัน ฉะนั้น พระอรหันต์ที่รู้จริงในธรรม การบันลือสีหนาทแสดงธรรม จึงแตกต่างกับอลัชชีผู้มืดบอดไม่รู้จริงแล้วชอบกล่าวตู่แอบอ้างธรรม เพียงสมาธิธรรมอันเป็นพื้นฐานสำคัญ  ก็ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด  ราวฟ้ากับดิน

สมาธิธรรมจะหลับตาทำสมาธิ หรือลืมตาทำสมาธิ หากปฏิบัติ จริงจังอย่างมีสติจดจ่อต่อเนื่อง ดังที่หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น พาดำเนินตามหลักศีล สมาธิ ปัญญา จิตที่ล้มลุกคลุกคลานย่อมตั้งมั่นได้ ซึ่งผลจะต้องเป็น “สัมมาสมาธิ” เท่านั้น และยกสู่วิปัสสนาพิจารณาธรรมได้ การหลับตาลืมตาเป็นเรื่องของกาย แต่สมาธิ คือ สมาธิ เป็นเรื่องของจิต ไม่ใช่สมาธิชวนเชื่อที่อลัชชีทุศีลทำสมาธิไม่ได้ ภาวนาไม่เป็น หลงตนเองเป็นโลกุตตระผู้วิเศษ เป็นพระอรหันต์มาเกิดเพื่อสร้างบารมี แต่กลับมีกิเลสอวิชชาเต็มหัวใจ  แล้วยังมาโฆษณาหลอกลวงเหยื่อให้หลงผิดตาม

ท่านพระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต ท่านเป็นผู้รู้จริง และเป็นธรรมทายาทวงกรรมฐานที่เทศน์จรรโลงสืบทอดพระศาสนา ท่านเมตตาสอนชาวพุทธให้เกิดปัญญา สมาธิหยุดนิ่งที่ท่านสอน คือ สมาธิธรรมที่แท้จริง มีเหตุมีผล หยุดนิ่งแล้วมีกำลังจับต้องพิจารณาสติปัฏฐาน ๔ ได้จริง ผู้ใดศึกษาปฏิบัติตาม นอกจากเข้าถึงสมาธิธรรมแล้ว ยังเข้าถึงปัญญาธรรม คือ ภาวนามยปัญญา ชำระล้างกิเลสอวิชชา และที่สุด เข้าถึงวิมุตติธรรม  เป็น  ปจฺจตฺตํ  สนฺทิฏฺฐิโก  ประจักษ์ในใจตน


เทศน์บนศาลา

สมาธิชวนเชื่อ

๒๓ มี.ค. ๒๕๖๓

เทศน์บนศาลา

หลับตาทำสมาธิ

๒๔ ก.ค. ๒๕๖๒

เทศน์บนศาลา

ลืมตาทำสมาธิ

๓๑ ก.ค. ๒๕๖๒

เทศน์บนศาลา

สมาธิหยุดนิ่ง

๗ เม.ย. ๒๕๖๓