เทศน์เช้า วันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๔๗
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต
เทศน์เช้า วันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๔๗
ณ วัดสันติธรรมาราม ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
เวลาธรรมวินัย ธรรมวินัยนะ ศีลในศีล ศีลนี่ ๒๒๗ ถ้าศีล ๒๒๗ พระทำผิดเป็นอาบัติในศีล ศีลพระทำผิดเป็นอาบัติ แต่ในธุดงควัตรพระไม่ปฏิบัติก็ได้ปฏิบัติก็ได้แล้วแต่ความพอใจของพระนั้น ถ้าความพอใจของพระนั้นปฏิบัติธุดงควัตร ขัดเกลาให้มากขึ้นไป ถ้าการขัดเกลาให้มากขึ้นไป การขัดเกลานะ หลวงตาบอกว่า การขัดใจตน คือการขัดใจกิเลส
โดยธรรมชาติของโลก ธรรมดาพระผู้ที่ประพฤติปฏิบัติ โลกอยู่ประสาโลกก็อยากให้พระได้เคยชินกับสิ่งนี้บ้าง แต่พระได้เคยชินกับสิ่งนี้บ้างมันเป็นภาระความรุงรัง การขัดใจตนเป็นการขัดใจกิเลส แต่ถ้าทางโลกส่งเสริมให้มีความสะดวกสบายพอสมควรพระก็เป็นสภาวะแบบนั้น พระที่ฉลาดเขาถึง เห็นไหม สมัยครูบาอาจารย์ธุดงค์อยู่ในป่า จะหาบ้านสองหลังสามหลังแล้วบิณฑบาตจะได้เฉพาะข้าวเปล่าๆ แต่เวลาได้ข้าวเปล่าๆ เรามาพูดเป็นคติกันนะ พวกเราก็สงสาร ท่านบอกไม่ต้องสงสาร เพราะเราแสวงหาสิ่งนั้น เวลาเราจะดัดแปลงกิเลสของตน เราต้องแสวงหาสิ่งนั้น
รูป รส กลิ่น เสียง เป็นบ่วงของมาร เป็นพวงดอกไม้แห่งมาร แล้วเวลาเราไปทานอาหารกันที่ร้านอาหาร เวลาเราทานอาหารหนึ่ง ปากเราทานอาหาร ตาเราดูดนตรี เสียงเราฟังเสียงเพลง นี่มันกระทบตลอดนะ เวลาพระจะฉันอาหารถึงต้องเป็นปัจจเวกขณะ ถ้าไม่ปัจจเวกขณะก่อน พระฉันอาหารเลยโดยที่ไม่พิจารณาก่อนปรับอาบัติทุกกฏนะ เพราะเวลาปรับอาบัติทุกกฏ สิ่งที่ว่าเรากระทบมันรุนแรงมาก ลิ้นกระทบกับรส ตากระทบกับสิ่งที่ว่าพอใจหรือไม่พอใจ นี่ต้องมีสติสัมปชัญญะตลอด
เราอยู่ที่บ้านตาดนะ ถ้าวันไหนอาหารมากๆ หลวงตาจะพูดถึงหลวงปู่มั่น สมัยหลวงปู่มั่นอยู่กับหลวงปู่มั่น ๕ - ๖ องค์นะ บิณฑบาตมาได้น้ำพริกมาถ้วยหนึ่งแล้วไม่พอกัน ใส่ในกะลาแล้วเอาก็น้ำใส่คนๆ กัน แล้วก็แบ่งแจกกัน แล้วหลวงปู่มั่นท่านพูดนะ นี่เป็นคติธรรม แต่โลกฟังแล้วจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ กินพอเป็นขี้ กินพอเป็นให้ลำไส้มันได้ย่อยอาหาร กินพอประทังชีวิตไปเท่านั้น นี่ท่านเตือนสติ ถ้ามีสิ่งที่ได้มากๆ มา ท่านจะเตือนสติพระไว้ก่อนว่า อย่าไปหลงกับมันนะ เวลาเข้าเผชิญศึกแล้ว เวลาเราเผชิญศึกคือเรากระทบกับสิ่งนี้แล้ว เราต้องตั้งสติเราตลอด เพื่ออะไร? เพื่อถ้าเรากินตาม รูป รส กลิ่น เสียง เรากินตามกิเลส เราจะแพ้กิเลสของตัวเราเอง แล้วเราจะล้มลุกคลุกคลานไปตลอดไป
เวลากินเรากินได้ พอกินกลับไปทางจงกรม เราไปภาวนาแล้วนี่มันจะลงไม่ลง เราต้องย้อนกลับมาว่า เมื่อเช้านี้เราได้เอาอะไรใส่เข้าไปในท้องบ้าง สิ่งที่ใส่เข้าไปในท้องเวลาเดินจงกรมขึ้นมานี่ตัวมันเบาไหม? ถ้าตัวมันหนักหน่วงการประพฤติปฏิบัติไปมันง่วงเหงาหาวนอน มันไม่เป็นไป การกินตรงนั้นมันเป็นรสชาติ ตอนที่กินนั้นมันมีความสุข แต่มันจะให้ผลในการประพฤติปฏิบัติ มันให้ผลกับความเป็นทุกข์ของเรา ถ้าเราหวังผลนะ เรากินธรรมเป็นอาหาร สิ่งใดที่อยากเราสละออก
หลวงปู่หล้าท่านอยู่ในป่านะ บิณฑบาตมา สิ่งที่เขาใส่มา ทางภาคอีสานถ้าเป็นปลาร้าสิ่งที่ถูกใจ ท่านจะจับถุงนั้นโยนเข้าป่า ท่านจะฉันแต่สิ่งที่ว่าไม่ถูกจริตของท่าน แล้วท่านก็ผ่านพ้นมา ท่านก็ปฏิบัติของท่านมาได้ สิ่งนี้มันเป็นการดัดแปลงตน การดัดแปลงตน โลกเป็นอย่างหนึ่ง วัดเป็นอย่างหนึ่ง วัดไม่เหมือนบ้าน บ้านไม่เหมือนวัด สิ่งที่เป็นวัดต้องเป็นวัด สิ่งที่เป็นบ้านต้องเป็นบ้าน ถ้าเราทรงอันนี้ไว้ได้มันก็จะเป็นสิ่งที่ตรวจสอบกัน
ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ฝากธรรมไว้นะ ฝากธรรมไว้ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ถ้าสามารถกล่าวแก้คำจาบจ้วงของลัทธิต่างๆ ได้ เราจะปรินิพพาน ถ้าภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ไม่สามารถกล่าวแก้คำจาบจ้วงของของลัทธิต่างๆ ได้เราจะไม่ปรินิพพาน เวลามารมาดลใจไง มารมาดลใจ มารจะควบคุม มารควบคุมในหัวใจเรา ทำให้เราเร่าร้อน ทำให้เราทุกข์ยากอยู่นะ แล้วเราพยายามจะฝืนมัน เวลาฝืนมันแล้ว
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าฆ่ามาร มารตายไปจากใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็พยายามเที่ยวนะ เที่ยวไม่ให้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสั่งสอนเผยแพร่ธรรมสั่งสอนเพื่อให้เราก้าวเดินตามไป เพราะมารมันต้องการที่อยู่อาศัยไง มารนี่เป็นสิ่งที่มีอำนาจมาก คนที่มีอำนาจมาก เช่น อย่างผู้ที่ปกครองประเทศนี่ ผู้ปกครองประเทศหรือราชาต่างๆ ถ้าเป็นสัมมาทิฏฐิจะดีมากเลย แต่ถ้ามีมาร มารดลใจสิ่งต่างๆ พอเขาทำสิ่งต่างๆ เขาควบคุมทั้งประเทศนั้น ตรากฎหมายทำสิ่งต่างๆ ให้เป็นความพอใจของเขา
อันนี้ก็เหมือนกัน ในเมื่อมารมันคุมหัวใจของเรา การกระทำของเรา ความคิดของเรา ถ้ามันมีความคิดในทางบาปอกุศล นั่นก็คือมาร แต่สิ่งที่ว่าเราคิดเป็นกุศลมันก็เกิดธรรม ธรรมนี้เกิดขึ้นได้ชั่วครั้งชั่วคราว เราสามารถสะสมขึ้นมาได้ ถ้าเราสะสมๆ ขึ้นมา จากวุฒิภาวะ จากที่ว่าไม่สนใจในศาสนา เป็นชาวพุทธที่ทะเบียนบ้าน เป็นอะไรเป็นชาวพุทธ พุทธสอนอะไรไม่รู้เรื่อง อยู่ประสาโลกของเขาไป แล้วก็มีศรัทธามีความเชื่อ เพราะมีความทุกข์กระทบกระเทือนใจบ้าง มีความศรัทธา มีความเชื่อมีบุญกุศลถึงเวลาที่เปิดตาบ้าง
นี่ก็เริ่มแสวงหาเรื่องของทาน พอเรื่องของทานเราได้ทำทานแล้ว เราได้ฟังธรรม ขณะปัจจุบันนี้เราฟังธรรม ธรรมอันนี้เป็นขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใครจะสื่อก็แล้วแต่ ๕,๐๐๐ ปีนี้เป็นธรรมจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งนั้น เพราะอะไร? เพราะพุทธวิสัยกว้างขวางมาก เพียงแต่จะเอามาใช้เป็นประโยชน์ขนาดไหน แล้วผู้ประพฤติปฏิบัติไปนี่มันได้แค่กิ่งก้านสาขา แค่ใบแค่กิ่งแค่ดอกแค่ใบในต้นไม้นั้นเท่านั้น แล้วเผยแพร่ธรรมมานี่ ธรรมสิ่งนี้มันถึงเกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราวจากใจดวงนั้น
ถ้าฟังธรรมมีความเชื่อมีความศรัทธาขึ้นมานี่ เรามีอำนาจวาสนา ถ้าเราฟังธรรมนะ ขณะที่คนมีอำนาจวาสนา ธรรมนี่สะเทือนหัวใจจะขนลุกขนพองนะ ถ้าขนลุกขนพองนั่นล่ะมันเข้าสะเทือนถึงใจ ถ้าเข้าสะเทือนใจ ใจนี่มันเป็นที่อยู่ของพญามาร มารอยู่ที่ตรงนั้น ถ้าสะเทือนใจนี่มารมันเริ่มไหวตัว เราไหวตัวขึ้นมาเราก็มีความพอใจของเรา เราจะเริ่มประพฤติปฏิบัติของเรานะ
นี่เวลาทำบุญกุศล บุญกุศลทำให้เราเกิดดี การเกิดนี้คืออยู่ในวัฏฏะ ความชั่วก็อยู่ในวัฏฏะ ความดีก็อยู่ในวัฏฏะ แต่ในการประพฤติปฏิบัติข้ามพ้นทั้งดีและชั่ว ความดีที่เราทำเราทำเป็นกิริยา ผู้ที่ไม่มีหลักใจก็ต้องอาศัยสิ่งนี้เป็นเครื่องดำเนินเพื่อให้ชีวิตนี้ร่มเย็นเป็นสุข แต่ผู้ที่มีหลักของใจอันนี้เป็นกิริยา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งแต่ตรัสรู้ธรรมเป็นพระพุทธเจ้าขึ้นมานี่ ไม่ต้องการสิ่งใดนะ เพราะใจพ้นจากกิเลสแล้ว มีความสุขมาก
แต่ท่านพยายามทรมานสัตว์ ต้องพยายามทรมานสัตว์ ไปสอนชฏิลทั้งสามพี่น้องไปทรมานเขานะ เขาบูชาไฟ เขาเลี้ยงพญานาคไว้ จับพญานาคเขาใส่ไว้ในบาตร เขามาเห็นนะ สมณะองค์นี้เก่งมาก แต่สู้เราไม่ได้เพราะเราเป็นพระอรหันต์ สมณะองค์นี้ไม่เป็นพระอรหันต์ จะทรมานขนาดไหน สมณะองค์นี้เก่งมาก แต่เราเป็นพระอรหันต์ เราเก่งกว่า นี่ความหลง เห็นไหม ความหลงของใจ เขาว่าเขาเก่งกว่า
จนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสลดสังเวชนะ เป็นพระอรหันต์ที่ไหน ยังลังเลสงสัยนี่ ให้เงี่ยหูลงฟังธรรมไง ชฏิล ๓ พี่น้องถึงเงี่ยหูลงฟังธรรม พญามารอยู่ในหัวใจ ความดีขนาดไหนมันก็ติด บูชาไฟอยู่ ๓ พี่น้อง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปเทศน์สอนได้มาพันกับสามคน นี่พระอรหันต์เกิดขึ้นมาครั้งละเป็นพันๆ นะ
แล้วปัจจุบันนี้หัวใจเราสะเทือนไหม ถ้ามันฟังธรรมแล้วขนพองสยองเกล้า ฟังธรรมแล้วสะเทือนถึงหัวใจ เรามีโอกาส ถ้าเราฟังธรรมนะเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เป็นอย่างไรก็ไม่เข้าใจ แล้วฟังทุกวัน ฟังจนชินหูพูดจนชินปาก แต่หัวใจมันด้าน ถ้าหัวใจมันด้านเอาไว้ไม่อยู่เราต้องทำอย่างไร เราต้องทรมานมัน สิ่งที่ทรมาน เห็นไหม
ประเพณีของโลกเขาๆ ทำประเพณีของเขา ประเพณีนี้เป็นสิ่งที่เครื่องสวยงามของโลกเขา เป็นความมั่นคงของชาติ ถูกต้อง ประเพณีวัฒนธรรมเป็นสินค้าขายได้ด้วย เป็นสิ่งการท่องเที่ยวได้ด้วย สิ่งนี้เป็นประโยชน์ทั้งหมด แต่อริยประเพณีๆ ธุดงควัตรนี้เป็นอริยประเพณี ประเพณีของพระอริยเจ้า ถ้าเป็นประเพณีของพระอริยเจ้า ต้องทรมานกิเลส ต้องเบียดเบียนกิเลสตลอด เบียดเบียนกิเลสคือเบียดเบียนตน เบียดเบียนตน ตนเพราะต้องการความสะดวกสบาย ตนต้องการความสุขตลอด ต้องเบียดเบียนมัน ต้องต่อสู้มัน เพราะจะเป็นประเพณีของพระอริยเจ้า
พระอริยเจ้าจะทรงประเพณีอันนี้ไว้ นี้คือข้อวัตรปฏิบัติ นี้คือปฏิปทาเครื่องดำเนิน ปฏิปทาเครื่องดำเนินคือถนนหนทาง สนามบิน ถ้ามีสนามบินเครื่องบินสามารถร่อนลงได้จอดสนามบินได้ ธรรมะเหมือนเครื่องบินร่อนอยู่กลางอากาศ แต่ไม่มีสนามบินลง เราเปิดใจของเราได้ ถ้าเรามีความพอใจ เรามีความศรัทธามีความเชื่อ เราเปิดใจของเราได้ ธรรมะ เห็นไหม เครื่องบินจะร่อนลงสนามบินนั้น ใจของเราถ้าเปิดรับสภาวธรรม ใจของเราจะรับธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เป็นปัจจัตตังนะ จิตสงบ จิตมีความร่มเย็นเป็นสุข นั้นเป็นความสุขของเรา
นี่เวลาจิตสงบเป็นอย่างนี้หรือ จิตเป็นอย่างนี้หรือ นี่เมื่อก่อนไม่รู้จับไปที่ตัวเราที่ไหนก็เป็นจิต ความรู้สึกก็เป็นเรา ทุกข์ก็เป็นเรา สิ่งต่างๆ เป็นเราทั้งหมดเลย แต่ถ้าเรามีสติมีสัมปชัญญะเราจับสิ่งนี้ เป็นเราสิ่งที่เป็นทุกข์เป็นความน้อยใจ มันก็เกิดดับ สิ่งที่เกิดดับเป็นเราหรือ เป็นแขกที่จรมา แขกที่จรมาทำไมเราผลักไสไม่ได้ล่ะ ทำไมเราบังคับ เราไม่ต้อนรับ เราปิดประตูใส่แขกไม่ให้แขกเข้าบ้านได้ล่ะ
เวลาความคิดที่ผูกใจเจ็บใจ ทำไมเราปัดออกไม่ได้ล่ะ เพราะเราขาดการประพฤติปฏิบัติ เราขาดการสร้างสนามบิน ถ้าเราสร้างสนามบิน เห็นไหม จิตเริ่มสงบขึ้นมานี่ สัมมาสมาธิเห็นเงาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สัมมาสมาธิไง สมาธิจิตตั้งมั่นแล้วถ้าวิปัสสนาขึ้นไป เครื่องบินร่อนลงเต็มที่เลยนะ ถ้าร่อนลงเต็มที่ นี่อกุปปธรรม โสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผล เกิดขึ้นมาในหัวใจธรรมเกิดขึ้นมาในหัวใจ เกิดจากปฏิปทาเครื่องดำเนิน เกิดจากปฏิปทาของประเพณีของพระอริยเจ้า ถ้าเรามีความสุขความพอใจของเรา เราจะไปตามกระแสโลก ประเพณีโลกเป็นแบบนั้น
ไม่ขัดนะประเพณีโลกหรือประเพณีธรรม ประเพณีนี้เป็นเครื่องดำเนิน เป็นข้อวัตรปฏิบัติ เป็นเครื่องดำเนิน แต่เราจะเดินสายไหน ถ้าเราเดินตรอกเดินซอกเดินซอยถนนก็คับแคบ ถ้าเราเดินถนนกว้างขวางไฮเวย์ขึ้นมามันก็ถนนใหญ่ แต่ถ้าเรามีสนามบินขึ้นมานี่มันร่อนไปทั่วโลกนะ สนามบินไปทั่วโลก เรามีรถยนต์รถยานพาหนะของเรา มันยังไปถึง ไม่มีสะพานไปถึงแหล่งน้ำมันก็ไปไม่ได้
แต่ถ้าธรรมนี้ไปได้หมด เข้าใจถึงความรู้สึกของใจทั้งหมด สิ่งที่ใจเกิดขึ้นมานี่แขกอันนี้เราปฏิเสธได้ เราทำของเราได้ นี้คือธรรมในหัวใจ ถ้าธรรมในหัวใจเกิดขึ้นจากปฏิปทาเครื่องดำเนิน สิ่งที่เป็นเล็กน้อยนี่ปฏิปทาเครื่องดำเนิน อาจารย์หลวงตามหาบัวท่านอยู่กับหลวงปู่มั่นนะ ท่านบอกว่าหลวงปู่มั่นนี่เก็บเล็กผสมน้อย เล็กๆ น้อยๆ เก็บไว้เพื่อจะไม่ให้มันเกิดความผิดพลาดมากขึ้น เก็บเล็กผสมน้อยไง ผู้ที่เห็นโทษ ผงเข้าตาคนต้นซุงไม่เคยเข้าตาใคร
ความผิดเล็กน้อยนี่ ถ้าเราทำจนเคยชิน มันก็จะเป็นสภาวะความด้านของใจไป ถ้าสิ่งนี้เราต้องตื่นตัวตลอดเวลา แล้วเราต้องคัดกรองของเราเข้ามาให้เป็นปฏิปทาเครื่องดำเนิน สิ่งที่ปฏิปทาเครื่องดำเนินเข้ามาถึงใจ มันถึงมีโอกาส มีโอกาสเราจะประพฤติปฏิบัติจะทำอย่างไร อยากจะปฏิบัติอยากจะทำมาก ทำไม่ได้ แล้วปฏิบัติ ปฏิบัติแล้วก็ไม่ได้ผล เพราะมันเป็นความหยาบ มันเป็นกลมายาของกิเลสมันหลอกเรา เริ่มต้นของกลมายากิเลสมันจะเข้าถึงใจไม่ได้ เราถึงต้องตั้งสติ อะไรเกิดขึ้นช่างหัวมันๆ
ประสบการณ์ตรงของแต่ละบุคคล ใครทรมานนะ พระสมัยพุทธกาลไปหาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะถามว่า ใครทรมาน ใครทรมาน นี่ก็เหมือนกัน ใครทรมานใจเรา ใครบังคับใจเรา เราบังคับใจเรา เราบังคับด้วยสติ เราต้องบังคับตัวเราเอง ถ้าบังคับไม่ได้ก็พึ่งครูบาอาจารย์ พึ่งครูบาอาจารย์มันเป็นสิ่งข้างนอก
อัตตา หิ อัตตโน นาโถ เป็นที่พึ่งแห่งตน จะเป็นที่พึ่งแห่งตนต้องเกาะครูบาอาจารย์ไปก่อน ถ้าจำเป็นต้องเกาะๆ ไปก่อนนะ เพราะมันงงไปหมด มันลังเลสงสัยไปหมดต้องเกาะครูบาอาจารย์ไปก่อน แต่ขณะที่ปัญญามันหมุนแล้ว ไม่อยากเลย ต้องอยู่คนเดียว เพราะอะไร? เวลามันเกาะต้องเกาะไป เวลาเขาพูดกันเป็นธรรมะ อย่าติดบุคคลให้ติดธรรมะ ถูกต้อง อย่าติดบุคคลให้ติดธรรมะ แต่ธรรมะเราก็ลังเลสงสัย บุคคลเราก็ลังเลสงสัย เราก็เลยไม่ได้อะไรเลย เป็นสวะลอยน้ำไปอย่างนั้นหรือ แต่ถ้าเราจะติดไปก่อน พลังงานน้ำที่มันขับเคลื่อนมาให้สวะนี้ลอยขึ้นมา มันเป็นอย่างนั้นไหม?
เราติดครูบาอาจารย์ถึงติดต้องติดไปก่อน ถึงเวลาจำเป็นก็ต้องพึ่งตัวเอง มันจะพึ่งตัวเองไปได้ มันจะก้าวเดินไปตามสภาวะแบบนั้น แต่เวลาธรรมวางไว้เป็นกลางๆ เพียงแต่ใครจะจับตรงไหนมาเป็นประโยชน์ ถ้าเป็นประโยชน์ได้เป็นประโยชน์กับใจดวงนั้นนะ ถ้าเปิดมาจากใจของเราเองขึ้นมาแล้วนี่ เอโก ธัมโม จิตนี้เป็นหนึ่งเดียว จิตนี้เป็นเอกมาก จิตนี้จะมีความสุขมาก
เกิดจากเครื่องดำเนินปฏิปทาที่เราดำเนินกัน ตามประเพณีวัฒนธรรมอันนั้น ก้าวเดินขึ้นมาจากหยาบ จากกลาง จากละเอียดเข้ามาเป็นชั้นตอนขึ้นมา อยู่ที่วุฒิภาวะของใจ วุฒิภาวะของใจอยู่ตรงไหนก็พัฒนาตรงนั้นขึ้นมา เราถึงต้องพัฒนาจากตรงนั้นขึ้นมา ใจของคนไม่เหมือนกัน ถึงต้องไปตามอำนาจของวาสนานะ นี้คือธรรม สิ่งที่ธรรมในศาสนาพุทธของเรานี้ประเสริฐมาก แล้วเราเป็นชาวพุทธ ไม่ใช่ชาวพุทธทะเบียนบ้าน ชาวพุทธที่ว่าจะเอาจริง แล้วเอาจริงขึ้นมาสมประโยชน์ของเรานี่ เราเป็นชาวพุทธแท้
ศากยบุตรบุตรขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา พระพุทธเจ้าฝากศาสนาไว้ เป็นบุตร ศากยบุตรบุตรขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยชื่อ แล้วก็เป็นบุตรขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยใจ แล้วก็เป็นบุตรขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยธรรม ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต นี้เป็นธรรมอันประเสริฐมาก เอวัง