เทศน์เช้า

ความลับสวรรค์ไม่มี

๒๕ มี.ค. ๒๕๔๓

 

ความลับสวรรค์ไม่มี
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

เทศน์เช้า วันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๔๓
ณ วัดสันติธรรมาราม ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

ของสวรรค์ไง เขารู้ว่าจะต้องเป็นไป แต่เอาความลับสวรรค์มาอ้างว่าความลับสวรรค์ ถ้าความลับสวรรค์นะ เมื่อก่อนนะ คนเรายังไม่มีศาสนานี่ เอ่อ...เป็นไปได้ ความลับของสวรรค์ แต่ความลับของสวรรค์ ความลับของวัฏฏะโดนเปิดหมดเลย วันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรม เห็นไหม วัฏวน เพราะจิตมันเป็นไป ตั้งแต่บุพเพนิวาสานุสติญาณมันย้อนไปอดีตชาติ มันเป็นภพเป็นชาติ มันไม่มีความลับ ไม่มีความลับสำหรับคนรู้จริงแล้ว เห็นไหม ความลับของสวรรค์ไม่มี

เราศึกษาในพระไตรปิฎกยังมีเลย เราศึกษาในพระไตรปิฎก เห็นไหม ว่าสวรรค์ ๖ ชั้น ชั้นนั้นมีอย่างไร มีต้นไม้อะไร มีอะไร สวรรค์นี่เปิดหมดเลย ตัวของสวรรค์เปิดหมด เพราะสวรรค์มี นรกมี พรหมมี ทุกอย่างมีหมด เปิดหมด ถ้ามันจะเป็นความลับ มันเป็นความลับเพราะกิเลสปิดใจเราต่างหาก ปิดใจของผู้ที่ไปรู้ นั่นน่ะความลับลับตรงนี้ ลับเพราะเราไม่รู้จริง แต่ถ้าเป็นความจริงนะ มันก็มีอยู่แล้ว

ถึงว่าความลับของสวรรค์ไม่มี ต่อเมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมแล้วเปิดหมดเลย ในสามโลกธาตุนะ ในกามภพ รูปภพ อรูปภพ เปิดหมด เห็นไหม เป็นเพราะว่าเปิดหมดแล้ว เข้าใจตามนั้น ปล่อยวางตามจริง แล้วสอนมาตามความเป็นจริง มีหมด

จนพระโมคคัลลานะนี่มาบวชมาศาสนาเรา แล้วประพฤติปฏิบัติจนขึ้นไปเที่ยวบนสวรรค์นะ แล้วกลับมาบอกในราชคฤห์ว่า “บ้านนี้เป็นอย่างนี้ คนแถวนี้ตายแล้วไปเกิดที่นั่นๆ” แล้วศาสนานี่เจริญรุ่งเรืองมากเลย จนพวกเดียรถีย์บอกว่า “ถ้าจะทำลายศาสนาพุทธ จะทำลายที่ใครก่อน?”

ต้องทำลายคนที่ทำงานนี่ก่อน ถึงจะจ้างคนมาฆ่าพระโมคคัลลานะไง พระโมคคัลลานะเหตุที่จะตายเพราะเหตุนี้ หนึ่ง เหตุเพราะว่าไปสวรรค์มาแล้วเอามาบอกไง เอามาบอกว่า “บ้านนี้ไปนั้น” แล้วพูดต่อหน้าพระพุทธเจ้านะ พระพุทธเจ้าก็รับประกันว่า “จริง จริงหมด” เห็นไหม นี่ถึงว่าเป็นเหตุอันนี้ หนึ่ง

แต่จริงๆ คือกรรมของเขา กรรมของพระโมคคัลลานะที่เคยทำไว้ ถึงเสร็จแล้วเขาก็ต้องมาเป็นไป แต่นั่นกรรมของอดีตชาติ กรรมที่มันสะสมมา แต่กรรมที่เป็นปัจจุบันที่ทำให้เหตุเกิดที่ว่าเขาจ้างพวกนักเลงหัวไม้มาฆ่าพระโมคคัลลานะเพราะเหตุนี้ นี่เหตุปัจจุบันกับเหตุอดีตมันมาตรงกัน

เรื่องของกรรมมันถึงเป็นเรื่องที่เป็นอจินไตย เป็นเรื่องที่ว่าลึกลับซับซ้อนมาก แล้วมันจะให้ผล เห็นไหม แต่ขณะที่เป็นชาติปัจจุบันนี้ทำคุณงามความดีกับศาสนา จะทำให้ศาสนานี่เจริญรุ่งเรือง แต่เขาก็จะทำลายศาสนา แต่ทำลายศาสนาต้องทำลายคนนี้ แต่คนนี้เพราะเคยมีกรรมอยู่ กรรมมันก็หมุนเวียนไป กรรมลงไปเป็นช่องๆ ไป นี่กรรมให้ผล เวลากรรมให้ผล

แต่! แต่ให้ผลได้เฉพาะร่างกายนะ เพราะร่างกายนี่เป็นเศษ เศษส่วนของนะ สอุปาทิเสส นิพพาน คือพระอรหันต์ที่ยังมีชีวิตอยู่นะ กระทบได้แค่ที่ว่าสิ่งที่เป็นวัตถุเท่านั้น แต่ไม่สามารถกระทบจิตใจได้ ถ้ากระทบจิตใจได้ เห็นไหม

ในตำราบอกไว้ เวลาโดนทุบจนแหลกละเอียดไปแล้ว คนแหลกละเอียดแล้วมันต้องเสียใจสิ ทำไมเข้าสมาบัติได้? เข้าฌานสมาบัติได้? รวมร่างกายนั้นขึ้นมาไปลาพระพุทธเจ้าก่อนไง ต้องเหาะเอาร่างนี้ไปด้วย เหาะไปลาพระพุทธเจ้า ลาเสร็จแล้วพระพุทธเจ้าบอกว่า “ให้สมควรแก่เวลาของเธอเถิด” คือว่าสมควรแก่เวลาที่มันจะเป็นไปอย่างไร ก็กลับมาถึงที่แล้วคลายฤทธิ์ออก มันก็เป็นเหมือนเก่า

ที่ไม่สะเทือนจิตใจเพราะ เห็นไหม ถ้าสะเทือนจิตใจนะ จิตใจจะเข้าสมาบัติไม่ได้ เข้าสมาธิไม่ได้ คนเราลองมีความฟุ้งซ่าน มีความเสียใจทุกข์ใจ มันจะทำใจให้สงบนิ่งอย่างนั้นไม่ได้ ถึงยืนยันประกันกันว่ากระทบได้แต่เฉพาะร่างกายนั้น แต่ไม่กระทบถึงใจดวงนั้น ใจดวงที่สิ้นสะอาดแล้วกระทบเป็นไปไม่ได้เลย สิ่งนั้นจะเข้าไปเจืออันนั้นไม่ได้

เพราะว่าสวรรค์นี่เป็นที่ว่าไป พระพุทธเจ้ารู้ในสัจจะความจริง แต่พระพุทธเจ้าไม่พูดไป เพราะว่าถ้าพูดไปเอง สอนเป็นทฤษฎี แต่ถ้าขึ้นไปเองอะไรเองก็ไปได้ เป็นการแบบว่าพูดเข้าข้างตัวเองไง จนพระโมคคัลลานะมาเป็นพยานหลักฐาน เห็นไหม ถึงบอกว่า “จริง จริง”

ความลับไม่มีในสัจจะความจริง ความลับมีเพราะกิเลสมันไม่เข้าใจ อย่างเช่นเราสงสัยอยู่ เราสงสัยนรกสวรรค์ เห็นไหม มันมีจริงอยู่ อาจารย์มหาบัวถึงได้บอกว่า “นรกมี สวรรค์มี อย่าให้ลังเลสงสัยนี้” เพราะถ้าไม่ลังเลสงสัยปั๊บ เราจะทำคุณงามความดี ทำคุณงามความดีแล้วเราจะไปที่สูง ถ้าเราไม่เชื่อนั้นเราจะไม่ทำคุณงามความดี เราไม่ทำคุณงามความดีมันก็แบบว่าทำตามใจตัวเอง เพราะว่าทำตามใจตัวเอง มันความพอใจของตัว แล้วมันจะไปไหนล่ะ?

ถึงว่าไอ้ความปิดมันปิดเพราะกิเลสมันพาปิด กิเลสมันลังเลสงสัย กิเลสมันไม่รู้ สิ่งที่ไม่รู้ไง สิ่งที่ไม่รู้อ้างว่าเป็นความลับ...

เป็นความลับมันเป็นลัทธิ เป็นลัทธิความเชื่อใช่ไหม? ลัทธิความเชื่อในศาสนาเปิดไว้แล้ว ถ้าในศาสนาพุทธนี้ไม่มีความลับ เพราะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าวางไว้แล้ว มันไม่มีความลับ แต่ถ้าเป็นลัทธิ ลัทธิคือว่าสิ่งนั้นมันเป็นไม่จริงอยู่ เป็นความลับ เป็นอะไรให้เฉพาะคนนั้น ให้เฉพาะคนที่ว่าจะบอกเฉพาะคนนั้น คนนั้นเป็นคนใกล้ชิดเป็นอะไร เห็นไหม นี่มันถึงว่ามีกำมือในอาจารย์ไง ในอาจารย์ยังมีลับลมคมใน

แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่มีลับลมคมใน ไม่มี แล้วอย่างที่ว่าความลับสวรรค์...หนึ่ง ปิดไว้...สอง ไปสวรรค์แล้วไปซื้อขายในสวรรค์ เห็นไหม คนถ้าไม่รู้ สวรรค์มีตลาดที่ไหน? สวรรค์ไม่มีการซื้อขาย การซื้อขายนี้มันเกิดในภพของมนุษย์นี้เท่านั้น เพราะมนุษย์มีการแลกเปลี่ยน เพราะว่ามีร่างกายมีจิตใจ นี่มันเป็นภพของกลาง มีการซื้อขายแลกเปลี่ยน

บุญกุศลแลกเปลี่ยนได้ไหม? บุญกุศลซื้อขายได้ไหม? บุญกุศลเกิดขึ้นจากใจ อริยทรัพย์ฝังลงที่ใจ ใจนี่ทำคุณงามความดี เราทำแล้วเราสละออกไป เรานึกถึงจะเกิดขึ้นทันทีเลย แล้วเวลาจะให้คนอื่นให้ได้ด้วยการ...ให้ทาน เห็นไหม ให้ทานด้วยการอุทิศส่วนกุศลไป ได้รับในอันดับ ๒ อันดับ ๒ หมายถึงว่าได้รับแล้วเป็นบริษัทบริวาร ได้รับผลบุญของใครนี่

ถึงว่าให้อุทิศส่วนกุศลให้มาก พวกเรานี่อุทิศส่วนกุศลให้มาก เขาได้รับของเรา ได้ผลของเราไปแล้ว ถึงเวลาเราไปนี่เขามาเป็นบริษัทบริวาร เห็นไหม เป็นที่หมู่คณะ เป็นคนรักคนชอบใจเพราะว่าเราให้ความสุขเขา นี่ถึงจะอุทิศได้เป็นอันดับ ๒ คือว่าไม่ใช่ของของเจ้าของ ไม่ใช่ของตัวเอง ของที่รับต่อจากของเขามา นี่คือการอุทิศส่วนกุศลไป อันนี้ได้รับได้รับได้อย่างนี้ นี้บุญกุศลให้ๆ ได้อย่างนี้ แต่ถ้าไปซื้อไปขายในบนสวรรค์นะ ต้องไปซื้อไปขายไปแลกเปลี่ยน...

สวรรค์ไม่มีซื้อขาย! บุญกุศลเกิดขึ้นจากการกระทำนี้ ให้ผลไง มันเป็นผลแล้วมันไม่ใช่เหตุ ผลที่เราไปเกิดในสวรรค์นั้น ไปสวรรค์เพราะเราจะเป็นเทวดา บุญกุศลพาไป พอพาไปถึงตรงนั้นปั๊บก็ต้องใช้ภพ ภพชาติของสวรรค์เกิดขึ้น เห็นไหม ภพชาติของเทวดาเกิดขึ้น กับภพชาติของมนุษย์มันคนละอันกัน

ฉะนั้น อาหารก็อาหารคนละอย่าง กวฬิงการาหาร อาหารเป็นคำข้าว วิญญาณาหาร เห็นไหม วิญญาณคือความนึกความคิดนะ ความนึก วิญญาณนะ วิญญาณในขันธ์ ๕ วิญญาณความรับรู้ ความรับรู้นั้นเป็นอาหารของใจ มันไม่ใช่ใจ มันเป็นอาหารของใจ วิญญาณาหาร วิญญาณคือความรับรู้ เสียงกระทบหูนี่โสตวิญญาณ วิญญาณอันรับรู้นั้น จิตมันก็กินความรู้สึกอันนี้ขึ้นไป มันรับรู้อันนี้

เวลาไปสวรรค์ เห็นไหม มันรับรู้สิ่งที่เราทำบุญกุศลมา มันจะเป็นแสงอยู่ในใจนั้น ใจนั้นอาหารตรงนั้น อาหารที่วิญญาณาหารนั้นกับใจนั้นเข้ากัน สุขอยู่ตรงนั้น แล้วไปซื้อที่ไหน? มีตลาดขายวิญญาณเหรอ?

การซื้อขายวิญญาณมันไม่มี ถึงได้บอกว่าความลับของสวรรค์ก็หนึ่ง การซื้อขาย ไปซื้อขายบนสวรรค์นั้นอีกหนึ่ง เห็นไหม นี่เป็นความลับจริงๆ เพราะตัวเองไม่รู้ แต่ในศาสนาเปิดโล่งแจ้งเลยนะ ในพระไตรปิฎกเปิดอ่านได้หมด โล่งแจ้งหมด ทำไมจะไม่รู้ได้อย่างไร? รู้ได้หมด เพราะว่ามันอยู่ในพระไตรปิฎกอยู่แล้ว

ถึงว่ามันไม่มีเป็นไป มันไม่เป็นไปเพราะความตัวเองไม่รู้จริง ความไม่รู้จริงถึงบอกว่าเป็นความลับของสวรรค์นี่ก็เป็นลัทธิ ไม่ใช่ศาสนา มีการซื้อการขายก็ไม่ใช่อีก เพราะการซื้อการขายมีเฉพาะพวกมนุษย์ ถึงว่าความเข้าใจของเราไง ความเข้าใจของเราปัจจุบันนี้ เราเอาจากความเข้าใจของเราไปจับในภพชาติ แต่ไม่เคยเห็นในภพชาติ

ในตำราบอกไว้ อาหาร ๔ ก็บอกแล้ว กามภพ เห็นไหม ในเทวดานี่กินวิญญาณาหาร ในพรหม...ผัสสาหาร ผัสสะ พรหมนี้มีขันธ์เดียว ความรู้สึกสัมผัสกัน ความรู้สึกอันนั้น อาหารของจิตหล่อเลี้ยงชีวิตด้วยอย่างนี้ หล่อเลี้ยงด้วยชีวิต แล้วก็กวฬิงการาหาร อาหารเป็นคำข้าว พวกสัตว์เดรัจฉานกิน อย่างพวกสัตว์นรกเขาก็อยู่ด้วยวิญญาณาหาร อยู่ด้วยกรรม อย่างเช่นเปรต เปรตเวลาเขาเป็นไปนะ เขาโดนเผาไหม้ไป เขาละลายไป เดี๋ยวก็ขึ้นมาอีก เพราะชีวิตมันไม่ตาย มันเป็นนามธรรมไง

แต่กรรมคือการกระทำอันนั้นมันยังไม่หมดสิ้นไป ต้องอยู่อย่างนั้น มันก็เหมือน ถ้าว่าเหมือนนะ แต่มันไม่ใช่ เหมือนกับวิญญาณาหารเป็นอาการของใจ มันไม่ใช่อาหารคำข้าว เว้นไว้แต่มีร่างกายกับจิตใจ พวกสัตว์เดรัจฉาน พวกเรานี่กวฬิงการาหาร อาหารมันอาหาร ๔

นี่มันเป็นสิ่งที่ว่าภพใดภพหนึ่งมันตัดขาดจากกัน อย่าเอาภพนี้ไปสัมพันธ์กัน หมายถึงว่าเอาความเป็นอยู่ของมนุษย์กับเทวดามาเทียบกัน เขาว่า “สวรรค์ในอก นรกในใจ” นี้มันเป็นเรื่องของใจ เห็นไหม สวรรค์ในอก สุขที่ใจ เหมือนกับเทวดา นรกในใจ เหมือนกับตกนรกทั้งเป็น เห็นไหม ตกนรก มันเรื่องของใจ

แต่ขณะปัจจุบันนี้เราได้ภพของมนุษย์ เรามีกายกับใจ แล้วเราสร้างคุณงามความดีไปละอันนี้ไง ไอ้นรกในหัวใจนี่ละออกให้หมด ไอ้สวรรค์นี่เอาเป็นเครื่องมือดำเนินอาศัยไปก่อน สวรรค์นี่เป็นที่เครื่องดำเนินก็เป็นความสุขไป ความสุขไปถึงสวรรค์แล้วก็ต้องละ ละสวรรค์นั้นทิ้งเพราะอะไร? เพราะถ้าเราไม่ละสวรรค์ เราจะไปเกิดในเทวดานั้น

ทีนี้เกิดเป็นเทวดานั้นมันก็ต้องเป็นอนิจจัง สิ่งที่เป็นอนิจจังมันยังเวียนว่ายอยู่ มันมีความทุกข์ไหม? มันมีความเสียใจเวลามันแปรสภาพไป เห็นไหม ถึงเป็นเทวดาเป็นพรหม มันก็เป็นอนิจจัง มันแปรสภาพ มันหมุนไปเป็นวัฏวน ถึงบอกต้องทิ้งตรงนี้มันถึงเข้านิพพานได้ไง ถ้าไม่ทิ้งตรงนี้มันก็เข้านิพพานไม่ได้ แต่! แต่มันเป็นเครื่องดำเนินอาศัยเป็นความสุขไปก่อน

นี่คือสวรรค์ สวรรค์มันเป็นอย่างนั้น แล้วสวรรค์มันเป็นความลับของสวรรค์ เป็นความลับตรงไหน? เป็นความลับตรงนี้ ตรงสมมุติคนจะตายนี่นะ คนๆ นี้มีวาสนามาก มีวาสนาทำคุณงามความดีไว้ แล้วเขาไม่อยากตาย พอไปบอกว่าเขาจะตาย เขาตกใจ ความตกใจอันนี้ นี่คนที่จะไปสวรรค์ มันเคลื่อนไง มันคลาดเคลื่อนจากเป้าหมายเดิม

สมมุติปล่อยเป็นธรรมชาติไป กระแสน้ำไหลไปมันจะไหลไปธรรมดา เราไปปิดกั้นไว้ สงสารกระแสน้ำ ว่ากระแสน้ำมันควรไหลไปทางนี้ ปิดกั้นไว้ เห็นไหม น้ำมันเพิ่มขึ้น ความดันของน้ำไง มันเปลี่ยนทิศทางไป

นี่ถ้าตรงนี้เห็นด้วย คือว่าไม่บอกไง ไม่บอกก่อน อย่างเช่นหลวงปู่มั่น ในประวัติหลวงปู่มั่น เห็นไหม มีพระองค์หนึ่งป่วยอยู่ แล้วพระองค์นั้นจะต้องตาย แล้วบังเอิญมีพระอีกองค์หนึ่ง กำหนดใจไป ภาวนาไป ไปเห็นว่าพระองค์นี้ป่วยก็เล็กน้อยนัก ทำไมจะต้องตาย? ไปปรึกษาหลวงปู่มั่น

หลวงปู่มั่น “อ้าว...รู้ด้วยเหรอ?” รู้ก็ห้ามไปบอกพระองค์นั้นนะ พระองค์ที่จะตายนั่น ถ้าไปบอกพระองค์ที่จะตายนั้น มันให้คะแนนไง ให้คะแนนหมายถึงว่าให้ความดีใจหรือทุกข์ใจ

ถ้าคนไม่อยากไป ความกระวนกระวายอันนั้น ขณะที่เราออกจากบ้านมาเราแต่งชุดอะไรมา? ใส่ชุดอะไรมาก็เป็นอันนั้น วันนี้เป็นข้าราชการ ออกจากบ้านใส่ชุดราชการเป็นข้าราชการ วันนี้แต่งชุดไปรเวทมา เราก็เป็นคน เราเป็นคนใช่ไหม? ออกจากบ้านแต่งชุดอะไร?

เวลาจะตาย จิตออกจากร่างนี่มันเสวยอารมณ์อะไร? ถ้าไปบอกแล้วตกใจ อารมณ์ที่ตกใจเสวยนี่อารมณ์มันหนัก ไปแล้วมันไม่ไปดีเท่าที่มันจะเป็นไป ฉะนั้น คนตายโบราณถึงบอกว่า “เวลาจะตายให้คิดถึงพระไว้ ให้คิดถึงพุทโธไว้ นึกพุทโธ พุทโธไว้ คิดถึงพระไว้” เพราะพระนี้เป็นพรหมจรรย์ เป็นที่กราบไหว้ของเหล่าเทวดาทั้งหมด ถ้าเราคิดถึงสิ่งที่ดี มันจะไปดี คิดถึงสิ่งที่ดี ถ้าคนมีสติสัมปชัญญะ คือคนเคยฝึก

นี่ไงเข้าเรื่องภาวนา เห็นไหม ทาน ศีล ภาวนา ถ้าเคยฝึกจิตฝึกใจไว้ กำหนดพุทโธ พุทโธไว้ เวลาเราทุกข์ร้อนขึ้นมา อย่าว่าแต่จะตายเลยนะ แม้แต่มีทุกข์ร้อนขึ้นมา เรากำหนดเป็นพุทโธเข้าไปมันก็ทำให้ใจสงบ ใจมีที่พึ่ง ถึงไปตกใจในสิ่งใดกำหนดพุทโธเข้ามา ใจมันปล่อยจากอารมณ์นั้นเข้ามาอยู่อารมณ์พุทโธ ปัจจุบันนี้ก็มีที่พึ่ง

เวลาจะตายขึ้นมากำหนดพุทโธ เห็นไหม ทำความดีนะ กำหนด ออกจากบ้านแต่งชุดอะไร เสวยภพนั้นก่อน ได้เปรียบไง เสวยภพนั้นก่อนคือเกิดในภพนั้น ทำความดีนั้นก่อน ถ้ามันเป็นไปตามประสามัน มันเป็นไป

นี่มันถึงว่าไม่แน่นอน วัฏวนนี้ถึงเป็นเรื่องที่ลึกลับมาก วัฏวนนี่ ลึกลับในสิ่งที่ไม่รู้นะ ลึกลับในสิ่งที่เราไม่รู้ แต่ที่เรารู้เพราะอะไร? เพราะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแทงทะลุหมดแล้ว แล้ววางไว้ตามหลักความเป็นจริง มันไปลึกลับตรงไหน เพียงแต่กิเลสในหัวใจเรามันปิดไว้ให้ลึกลับไง ให้ลังเลสงสัย ให้ไม่แน่ใจ ให้ว่าสิ่งนั้นมันเป็นความลับ เป็นความ...

มันไม่ลับเลยถ้าเราฝึก สำคัญอยู่ที่การฝึก ฝึกคือการกำหนดพุทโธ ฝึกไว้ๆ จะตายยิ้มได้หมดนะ เห็นเทวดามารับนี่ยังเฉยๆ เลย เพราะมันรู้ว่าสิ่งนั้นก็ยังเป็นวนเวียนอยู่ มันอยากจะไปดีกว่านั้น แต่ไปได้สุดกำลังขนาดนี้ก็นับว่าอันนี้เป็นความดี

ถึงว่าไม่ใช่ความลึกลับ ศึกษาไปแล้วไม่เคยมีอะไรลึกลับ ลึกลับเฉพาะคนที่ไม่รู้ ลึกลับเพราะกิเลสมันพาลึกลับ ไม่มีลึกลับ สวรรค์ไม่ลึกลับ สิ่งใดก็ไม่ลึกลับ เปิดโล่งหมด ถ้าลึกลับแล้วไม่ใช่ชาวพุทธ ไม่ใช่ศาสนาพุทธ ศาสนาพุทธเปิดหมดแล้ว