อาสาฬหบูชา พระรัตนตรัย
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต
เทศน์เช้า วันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๔๒
ณ วัดสันติธรรมาราม ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
เหตุที่มาเวียนเทียนไง มาเวียนเทียน วันนี้วันอาสาฬหบูชา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเทศน์ธัมมจักกัปปวัตนสูตรเป็นวันแรกนะ เป็นครั้งแรกไง เราเป็นชาวพุทธต้องมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แก้วสารพัดนึกเป็นที่พึ่งนะ พระพุทธเจ้าเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ออกแสวงหาเอง ออกปฏิบัติแสวงหาอยู่ ๖ ปีนะ ๖ ปี จนวันวิสาขบูชานั่นน่ะ ตรัสรู้ธรรมไง
ตรัสรู้ธรรมแล้ว เพราะเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ เป็นนักพรตออกแสวงหาโมกขธรรม หาความจริงที่จะหลุดพ้น ให้หาธรรมแท้ๆ ไง แล้วเมื่อวันวิสาขะนั้นตรัสรู้ธรรม ธรรมอันนั้นทำให้เจ้าชายสิทธัตถะเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาเป็นเอกของบุรุษไง เป็นพระพุทธเจ้า เห็นไหม เป็นพระพุทธเจ้าได้เพราะรู้ธรรม รู้ธรรมตามความเป็นจริง ตรัสรู้เห็นตามความเป็นจริง ตรัสรู้เห็นแล้วชำระกิเลสได้ด้วย
ตรัสรู้เห็นชำระกิเลส กิเลสนั้นหลุดออกไปจากใจถึงเป็นพระพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าเพราะรู้ธรรมอันนั้นใช่ไหม? เพราะรู้ธรรมอันนั้น ธรรมอันนั้นแล้วเสวยวิมุตติสุขเก็บไว้ในใจอีกเกือบ ๓ เดือน วิมุตติสุข แล้ววันนี้เป็นวันประกาศธรรมไง ถึงเป็นวันสำคัญ วันประกาศธรรม เทศน์ธัมมจักฯ ออกไป เทวดานี่แซ่ซ้องสรรเสริญไปทั้งหมดเลย เทวดาส่งข่าวไปตลอดว่าธรรมจักรนี้ได้หมุนแล้ว ธรรมได้เกิดขึ้นแล้ว นี่ธรรมเกิดขึ้น แม้แต่เทวดา พรหม ยังมาสาธุการส่งข่าวกันต่อๆ ไป
วันนี้วันประกาศธรรม เราถึงว่าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ใช่ไหม? เพราะว่าวันนี้ประกาศธรรม พระอัญญาโกณฑัญญะฟังพระพุทธเจ้าเทศน์สอนเรื่องธรรมจักรอยู่ พระอัญญาโกณฑัญญะก็เลยมีดวงตาเห็นธรรมขึ้นมาด้วย ถึงมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นแก้วสารพัดนึกใช่ไหม? มีแก้วสารพัดนึก ชาวพุทธเราถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
พระธรรม เวลาเราเวียนเทียนมานะ รอบแรกเราให้คิดถึงพุทโธ พุทโธ คิดถึงพระพุทธเจ้าก่อนรอบแรก รอบที่ ๒ เราเวียนเทียนระลึกธัมโม ธัมโม ธัมโม เห็นไหม รอบที่ ๓ ถึงสังโฆ สังโฆ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นแก้วสารพัดนึก เป็นที่พึ่งของชาวพุทธ เรานึกธัมโม ธัมโม เรานึกว่าธัมโมคืออะไรไง เรานึกไม่ออก หรือเราไม่เข้าใจ เราไม่มีเป้าหมายว่าธรรมคืออะไร? นี่ธรรมประเสริฐมาก เพราะธรรมอันนี้ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมอันนี้ถึงจากคนที่มีทุกข์ในหัวใจเรา มีทุกข์อย่างเรา มีทุกข์แบบเรา
ทุกข์แบบเรานะ ทุกข์ทุกดวงใจเหมือนกัน มั่งมี ดี จน มีความสุขเหมือนกัน แล้วกำจัดทุกข์ในหัวใจนั้นออกไปหมดสิ้น จนวิมุตติสุขเสวยสุขอยู่ จนมาถึงวันนี้ถึงประกาศธรรมไง นี่ที่เขาบอกว่าธรรมไม่เสื่อม ธรรมไม่เสื่อม ธรรมอันนี้ต่างหากที่ไม่เสื่อม ธรรมตามความเป็นจริงนี้ไม่มีวันเสื่อม ศาสนาไม่มีวันเสื่อม ผู้ที่ทำอย่างไรให้มันเสื่อมไป ตรงนั้นไม่ใช่ธรรม ศาสนะ.. พระพุทธเจ้า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ศาสนานี้ยังแบ่งอีกเป็นศาสนวัตถุ ศาสนธรรมไง
ธรรมตัวนี้ ศาสนาพุทธเราเอาตรงนี้เป็นหลัก เพราะมีธรรมอันนี้ ธรรมที่ว่าเราแสวงหากันอยู่นี้ เพราะว่าพระพุทธเจ้าก็ตรัสรู้ธรรม พระอัญญาโกณฑัญญะฟังธรรมของพระพุทธเจ้าก็เห็นธรรมตามความเป็นจริง เห็นไหม พอฟังปั๊บ ฟังเพราะจิตนี้พร้อมอยู่ จิตนี้แสวงหาอยู่ พระอัญญาโกณฑัญญะอุปัฏฐากเจ้าชายสิทธัตถะมาอยู่ ๖ ปี หวังจะพึ่งอันนี้ไง หวังจะพึ่งธรรมอันนี้ แต่เพราะว่าทำกันเกิน ทำกันเข้มมาก เป็นอัตตกิลมถานุโยค ทรมานตนอยู่มันไม่เป็นไปได้ ถึงหันกลับมามัชฌิมาปฏิปทา
แต่เพราะพระอัญญาโกณฑัญญะเห็นว่าพระพุทธเจ้าย้อนกลับมา ก็เลยสละทิ้งไม่ยอมฟัง หนีออกมาไม่ยอมฟัง แต่พระพุทธเจ้ามาเทศน์ มาโปรด มาสอนนะ พระอัญญาโกณฑัญญะยอมฟัง รับฟังตามความเป็นจริง ถึงเป็นพระสงฆ์องค์แรกของโลกไง ถึงมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เราถึงว่าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์คืออะไร? คือสิ่งที่เราแสวงหา แสวงหามาเพื่ออะไร? เพื่อกำจัดทุกข์ กำจัดทุกข์ในหัวใจเรา แต่ถ้ายังไม่ถึงกำจัดทุกข์เราก็หามาเป็นที่พึ่งของใจ ใจมีที่พึ่ง ใจมีเพื่อนเป็นเพื่อน ๒ เพื่อนคือพุทโธ
นึกถึงพุทโธพระพุทธเจ้าอยู่กับเราในหัวใจ นึกถึงธัมโม ธรรมนั้นจะสถิตที่ใจ ถึงจะเป็นการนึกเอาก็เป็นที่พึ่งได้ สังโฆ เห็นไหม พระสงฆ์ที่บวชอยู่ปัจจุบันนี้เป็นสมมุติสงฆ์ เป็นจริงตามสภาวะตามความเป็นจริง เพราะบวชจากจตุตถกรรม ญัตติ ๔ ครั้งขึ้นมา ถึงเป็นพระสงฆ์ พระสงฆ์นี้เป็นสมมุติไง พระสงฆ์นี้เป็นสมมุติ แล้วมาปฏิบัติธรรมแบบพระอัญญาโกณฑัญญะ เข้าถึงธรรมอันนั้นถึงว่าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
พระสงฆ์คือหมายถึงพระอริยสงฆ์ สงฆ์ที่เราเห็นกันอยู่นี้คือสงฆ์ที่สมมุติไง สมมุติตามวินัย ตามพิธีกรรมให้เป็นสมมุติสงฆ์ จริงตามนั้นหมด เพราะสมมุติคือบัญญัติของพระพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ แล้วบวชพระออกมา แล้วพระถึงแสวงหาธรรมอันนั้นไง ธรรมอันนั้นถึงไม่เสื่อม ธรรมที่ว่าไม่เคยเสื่อมเลย พระพุทธเจ้าตรัสรู้องค์ที่ ๔ ในกัปนี้ พระศรีอริยเมตไตรยก็จะมาตรัสรู้เป็นองค์ต่อไป ธรรมอันนั้นถึงมีอยู่ ถึงไม่มีวันเสื่อม
ศาสนานี้ประเสริฐและมั่นคงมาก แต่ตัวบุคคลเสื่อมได้ เช่นพระที่ปฏิบัติไม่ถึง ปฏิบัติไม่เข้าถึงธรรมไง ก็เป็นสมมุติสงฆ์ตลอดไป แต่ถ้าปฏิบัติเข้าถึงธรรม ธรรมอันนั้นเป็นอริยสงฆ์ขึ้นมา นั่นคือสงฆ์ที่เราปรารถนาให้เป็นที่พึ่งในหัวใจเราไง เราอยากหาสงฆ์ อยากหาอย่างนั้นเป็นที่พึ่งของใจเรา ถ้าใจเราเข้าถึงตรงนั้น ใจเราก็เป็นอริยสงฆ์ พ้นจาก.. กำจัดทุกข์ได้เป็นส่วนๆ ขึ้นไป จนหมดจากทุกข์นั้นได้ไง เพราะต้องปฏิบัติให้เข้าถึงตรงนั้น ถ้าเข้าถึงตรงนั้น เพราะธรรมะของพระพุทธเจ้า เห็นไหม แต่ถ้าเข้าไม่ถึง เข้าถึงกิริยาของธรรมก่อน
สุตมยปัญญาคือการจำมา พยายามเข้าหาตัวนี้ไง พยายามเดินตามธรรมเข้าไป เดินตามรอยโค เพื่อจะเข้าถึงตัวโค ตามรอยโค เห็นไหม ตามรอยโคเข้าไป นี่ที่เราทำกันอยู่นี่ เราเวียนเทียนอยู่นี้เราก็นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เหมือนกัน มันสำคัญอย่างนี้ สำคัญที่ว่าถ้าเราทำจริงเราก็ได้จริงไง ถึงว่าเราคิดถึงแต่ว่าศาสนานี้แก่นอยู่ที่ไหน? ศาสนาพุทธสอนอะไรกัน ศาสนาพุทธยืนมาสองพันห้าร้อยกว่าปีนี้เอาอะไรเป็นพื้นฐาน ผู้คนเข้ามาในศาสนานี้ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ใหม่ๆ แล้วเห็นนิมิต นก กาต่างๆ บินมาถึงพระพุทธเจ้า ตกลงถึงพระพุทธเจ้ากลายเป็นสีขาวหมด
นี่ก็เหมือนกัน ผู้ที่บวช ผู้ที่เข้ามาในศาสนา ผู้ที่ถือศาสนา ผู้ที่อยากพึ่งในศาสนาก็เข้ามาจากความเห็นต่างๆ พอเข้ามาแล้วก็ถึงต้องมีกฎระเบียบ คือธรรมและวินัยนี้เป็นที่บังคับเราเข้าไปไง แต่เรายังเข้าไม่ถึงเราก็ต้องเอาสิ่งนั้นบังคับใจเราก่อน เพราะศาสนาพุทธมีอะไรประเสริฐล่ะ? ศาสนาพุทธ เราเป็นพุทธศาสนิกชน เรามีอะไรเป็นที่พึ่งล่ะ? เวลาทุกข์เราก็บ่นร้อนกันว่าทุกข์ เห็นไหม แต่เวลาจะพึ่งกันก็ว่าสิ่งนั้นก็พึ่งไม่ได้ สิ่งนี้ก็พึ่งไม่ได้ ไม่มีสิ่งใดพึ่งได้เลย เพราะเราไม่มั่นใจ เราไม่เชื่อมั่นในความเป็นจริง คือว่ารัตนตรัยเป็นแก้วสารพัดนึกไง
แก้วสารพัดนึกเราเชื่อธรรมใช่ไหม? เราก็ปฏิบัติศีล เราอยู่ในศีลในธรรม จะทำให้เราประหยัดในการใช้จ่าย ความฟุ่มเฟือยเราไม่มี มัธยัสถ์ ใช้ชีวิตตามความเหมาะสมของชาวพุทธไง มีศีล มีธรรม อยู่ในวัตรปฏิบัติ เห็นไหม นี่เราพูดว่าเราเป็นชาวพุทธ แต่การปฏิบัติเราไปอีกเรื่องหนึ่ง แล้วเราก็ว่าศาสนาไม่ให้ผลกับพวกเราไง นี่ถึงว่าแก้วสารพัดนึก นึก นึกแล้วต้องทำให้ได้จริงด้วย นึกเอาลอยๆ มันก็ได้มาลอยๆ นึกขึ้นมาก่อนว่าอยากจะทำคือศรัทธา
ศรัทธาที่มา นี่ศรัทธา ศรัทธาความคิดอยากมา ตัวนี้ตัวชักนำ เห็นไหม ศรัทธา ศรัทธาในอะไร? ศรัทธาเพราะมีเป้าหมายเชื่อมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มีจริง สวรรค์ก็มีจริง นรกก็มีจริง เทียบเข้ามาที่ทุกข์กับสุขในหัวใจเรา ถ้าทุกข์อันนี้มีจริง แน่นอนเวลาทุกข์ทุกคนจะร้องไห้ เวลาดีใจสุขขนาดไหน? นั่นน่ะทุกข์ สุขมี นรก สวรรค์ก็มี จากนี่น่ะ สวรรค์ในอก นรกในใจ ขณะปัจจุบันนี้ ถ้าเราทำใจให้เราอยู่กับสุขหมด นี่สวรรค์ตลอด
ไปก็ไปสวรรค์ ไปสวรรค์แน่นอน เพราะคนเราเกิดมาต้องตายทั้งหมด แล้วตายแบบมีที่พึ่ง กับตายแบบเคว้งคว้างมันต่างกันไหม? พระธรรมสำคัญขนาดนั้น ถึงว่าเรามาเวียนเทียนถึงจะได้บุญไง พระธรรมๆ นี่ว่าพระธรรม พระธรรม ศีล สมาธิก็พระธรรม ศีล สมาธิ ปัญญา เห็นไหม ธุดงควัตรก็เป็นธรรม ธรรมคือคำสั่งสอนไง ศาสนธรรมไง นี่ศาสนธรรมข้างนอก แล้วปฏิบัติตามศาสนธรรมเข้าไป ไปถึงเนื้อของธรรม
เนื้อของธรรม ฟังสิ! เนื้อของธรรมอยู่ที่ใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อน แล้วก็พระอัญญาโกณฑัญญะรู้ต่อไป นี่ตามมาๆ เนื้อของธรรมมันเข้าไปอยู่ในใจ ซึมเข้าไปในใจ จนความคิดตามใจตัวเอง ไม่สามารถฉุดขึ้นมาจากใจเราได้ ฟังสิ ความคิดที่ตามใจที่แสวงหา ไม่สามารถผุดได้เพราะธรรมยึดไว้หมด ดองใจนี้จนเป็นธรรมทั้งแท่ง เห็นไหม นี่ธรรมแท้ๆ เป็นอย่างนี้ไง ธรรมแท้ๆ คือใจทั้งดวงนั้นเป็นธรรม ไม่ใช่ธรรมที่ว่าเป็นกิริยาของธรรมที่เราแสวงหากันเข้าไป แต่ในเมื่อเป้าหมาย ศาสนาพุทธสูงขนาดนั้น
นี่พูดถึงว่าธรรมประเสริฐไง ถึงชี้ให้ดูว่าธรรมประเสริฐ เราถึงต้องเคารพธรรมไง นี่เคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในเมื่อประเสริฐขนาดนั้น เราเข้าไม่ถึงจนสุดเอื้อม สุดมือเรา เห็นไหม เราเคารพไปก่อน เคารพไปก่อน แล้วเดินตามรอยไป ตามเงาไป สักวันหนึ่ง การเกิดการตายครั้งหนึ่งจะเข้าไปถึงตรงนั้น แล้วก็ไม่มีการเกิดและการตายอีก มรรค ผล นิพพาน สวรรค์ นรกมีอยู่ตามความเป็นจริง แต่พวกเราตาบอดทั้งหมด เราถึงเข้าไม่ถึงตามความเป็นจริง
ถ้าเราเปิดตา เชื่อตั้งแต่ตอนนี้นะ เปิดตา มีเป้าหมายแล้วเดินตามเข้าไป ถึงมาเวียนเทียนกันไง ถึงว่ามาระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แม้แต่เชื่ออึดใจหนึ่ง เราก็ยังเป็นบุญกุศลสำหรับเราจะเกิดดีเกิดชั่วไปข้างหน้าไง ถึงว่าสำคัญมาก เพราะวันนี้เป็นวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประกาศธรรม เทวดาแซ่ซ้องสรรเสริญนะ ดีอกดีใจเพราะมีตำรับ ตำรา มีถนนให้เดิน มีตำราให้เดิน ก่อนนั้นมาไม่มี เหมือนกับที่มันแล้งๆไม่มีน้ำ แล้วพระพุทธเจ้าขุดบ่อไว้บ่อหนึ่งให้คนตักดื่มกินเองตามแต่ใครจะปรารถนา แล้วเราก็หิวน้ำกันเต็มที่ เราจะตักหรือไม่ตักต้องถามตัวเอง เราจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เราจะปักใจในความมุ่งมั่นทำความดีของเรา เราจะทำหรือไม่ทำ ถามตัวเองๆ นี่ถ้าถามตัวเองแล้ว อันนั้นถึงจะเป็นประโยชน์กับเรา
ถึงบอกว่าการเวียนเทียนถึงได้บุญไง ได้บุญมากๆ เพราะว่าเอากายมา เอาหัวใจมา เอามาฟังกันเพื่อให้เข้าไปชำระให้เห็นช่องทางในการดำเนินของเราไป ไม่มืดบอด ไม่เร่าร้อน มีที่ให้ได้เกาะเกี่ยวไป ฉะนั้น ถึงว่าเดี๋ยวจะพาเวียนเทียนนะ รอบแรกให้คิดถึงพุทโธ พุทโธ รอบแรก อย่าเล่นกัน เล่นกันไปเล่นที่บ้านก็ได้ แต่ถึงตอนนี้ให้นึกถึงพุทโธ ตั้งใจ ตั้งใจเจตนาเท่าไหร่ บุญเข้าถึงใจมากเท่านั้น ทำสักแต่ว่าทำเล่นๆ ก็ได้บุญเล่นๆ ไง ได้บุญพลาสติกไป ได้บุญที่เข้าไม่ถึงใจ ใจเป็นนามธรรม ต้องอาศัยเนื้อที่เป็นนามธรรมเข้าถึงหัวใจ
ทำเล่นๆ แต่เวลาจะเอาจะเอาผลไง ถึงให้ตั้งใจ ตั้งใจกำหนดพุทโธ พุทโธไป นึกพุทโธไปรอบแรก รอบที่ ๒ นึกถึงธัมโม ธัมโม ธรรมที่พระพุทธเจ้าเทศนาว่าการวันนี้เป็นวันแรก นึกถึงสังโฆ สังโฆ คิดถึงพระอริยเจ้า ไม่ใช่คิดถึงสมมุติสงฆ์ที่เราพูดกันอยู่อย่างนี้หรอก ศาสนาถึงไม่เสื่อม ถึงเป็นที่พึ่งจริงของเราชาวพุทธไง เป็นที่พึ่งได้จริง เป็นที่อาศัยได้จริง เป็นแสงธรรม เป็นดวงตาของโลก เป็นแสงสว่างของโลกได้จริง เราถึงหวังพึ่ง เราถึงระลึกถึงตรงนั้น เราไม่ถึงเราก็ระลึกเอา ระลึกให้ถึงก่อน
ฉะนั้น พูดเท่านี้ก่อน แล้วจะพาทำวัตรก่อน