เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๖ เม.ย. ๒๕๕๙

 

เทศน์เช้า วันที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๙
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

อ้าว! ตั้งใจฟังธรรมะเนาะ โยมขวนขวายกันมา ขวนขวายกันมาเพื่อความสุขของหัวใจของตน โยมเป็นผู้ที่ฉลาด ดูสิ คนเกิดมาเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา เขานับถือพระพุทธศาสนาด้วยการยกมือท่วมหัวแล้วบอกว่าเป็นชาวพุทธ แต่การเป็นชาวพุทธของเรา เราขวนขวายของเรา เราขวนขวายของเรา อาหารอยู่บนสำรับ ใครได้ตักอาหารนั้นใส่ปากของตน คนนั้นจะอิ่มท้อง อาหารบนสำรับนั้น สาธุ! ฉันได้กินแล้ว นั่นเป็นเรื่องของเขา อยู่ที่คนฉลาดหรือคนโง่ไง ถ้าคนฉลาดเขาขวนขวายของเขา

ดูพระสิ พระเราประพฤติปฏิบัติ ถ้าตั้งใจ ตั้งใจแล้วก็รอคอย รอคอยไปเถอะ รอคอยจนกว่าจะตายไป แต่ถ้าตั้งใจแล้วขวนขวาย เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนาเพื่อหัวใจของเราๆ หัวใจของเรา เราเป็นคนจัดการ เราเป็นคนพลิกแพลง เราเป็นคนตบแต่ง เราทำหัวใจเราให้ประเสริฐขึ้นมา

เวลาหัวใจมันประเสริฐขึ้นมานะ สิ่งมีชีวิตๆ สิ่งมีชีวิตมันมีความสุขความทุกข์ของมัน แร่ธาตุมันไม่มีชีวิตของมันไง วัตถุธาตุตั้งอยู่นั่นล่ะมันไม่มีชีวิต ไม่มีความรู้สึกหรอก แต่สิ่งที่มีชีวิต สิ่งที่มีชีวิตมันรู้สุขรู้ทุกข์ของมันนะ แล้วหัวใจดวงนี้มันเป็นสิ่งที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ สิ่งที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ เกิดเป็นมนุษย์ไง เกิดเป็นมนุษย์มีศักยภาพ ถือทิฏฐิมานะว่าตัวเองเป็นสัตว์ประเสริฐ จะย่ำยีเขาไปทั่ว ย่ำยีเขาไปก็เท่ากับย่ำยีหัวใจของตน เพราะหัวใจของตนได้สร้างเวรสร้างกรรมมาทั้งนั้นไง

วันนี้วันพระนะ วันพระ เราไปวัดไปวากัน ไปวัดกันมาเพื่อหัวใจของเราไง เพื่อหัวใจของเราๆ แล้วอยู่บ้านไม่มีหัวใจใช่ไหม อยู่บ้านก็มีหัวใจไง แต่หัวใจอย่างนั้นหัวใจของโลก หัวใจของโลกมันคิดตามแต่ทิฏฐิมานะของตน คนถ้ามีทิฏฐิมานะขนาดไหนมันคิดของมันไปขนาดนั้นน่ะ

แต่ถ้าเรามีศีล มีสมาธิ มีปัญญา เห็นไหม คิดน้อยๆ หน่อย คิดแล้วกว้านเอาฟืนเอาไฟมาใส่ในหัวใจของเรา แต่เวลาจะคิด คิดถึงสัจธรรมสิ สัจธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสัจธรรมนะ การเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ เพราะมันมีจริตนิสัยมา ได้เกิดมาเป็นมนุษย์นะ เกิดมาแล้วเกิดมาด้วยศักยภาพของความเป็นมนุษย์ เกิดเป็นมนุษย์ มนุษย์ ในบรรดาสัตว์สองเท้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประเสริฐที่สุดไง แล้วองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประเสริฐที่ไหนล่ะ

เวลาเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ดูสิ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว แว่นแคว้นต่างๆ เขายังรบทัพจับศึกกันอยู่นั่นไง ถ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นเจ้าชายสิทธัตถะก็ต้องรบราฆ่าฟันกับเขาไปเพื่อป้องกันแว่นแคว้นของตนไง

วันนี้วันสำคัญเป็นวันจักรีๆ ไง วันจักรีมันมาจากไหนล่ะ วันจักรีก็วันสถาปนาไง สถาปนาประเทศชาติไง ประเทศชาติ นิติรัฐๆ ผู้ที่มีอำนาจรัฐไง ผู้ที่คุ้มครองดูแลรักษาแว่นแคว้นนี้ไง รักษาแว่นแคว้นไว้ให้ใครล่ะ รักษาแว่นแคว้นไว้ให้พวกสัตว์ตาดำๆ นี่ไง ไอ้สัตว์ตาดำๆ มันก็เรียกร้องสิทธิของมันไง แต่เรียกร้องสิทธิขึ้นมา มันรวมตัวขึ้นมาไม่ได้ ไม่เป็นกองทัพ ไม่เป็นมวลชนขึ้นมา มันจะรักษาแว่นแคว้นของมันไม่ได้ไง สิ่งที่รักษาๆ

วันนี้มันสำคัญตรงไหนล่ะ สำคัญเพราะว่าสิ่งที่เราเกิดเป็นชาวพุทธ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา เกิดเป็นชาวพุทธ เกิดในแว่นแคว้นนี้ไง ถ้าแว่นแคว้นนี้เขามีสิ่งใดเป็นแว่นแคว้นล่ะ เราเสียสละเลือดเนื้อเชื้อไขปกป้องมา เราเกิดมา เกิดมาเป็นมนุษย์ เกิดในแว่นแคว้นนี้ เราต้องมีความกตัญญู พลเอกเปรมบอกว่าต้องกตัญญูกับแผ่นดินไง

แผ่นดินเกิดๆ เราเกิด พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูกไง เราเกิดจากพ่อจากแม่นะ ถ้าไม่มีพ่อไม่มีแม่ เราเกิดมาเป็นมนุษย์ไม่ได้หรอก มันไปเกิดมันก็ไปเกิดเป็นไวรัสนั่นน่ะ มันไปเกิดเป็นสิ่งมีชีวิต แต่มันไม่ได้เกิดเป็นมนุษย์หรอก ถ้ามันเกิดในโอปปาติกะมันก็ไปเกิดบนเทวดา อินทร์ พรหมของเขาไง

นี่เกิดจากพ่อจากแม่ พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูกไง ถึงจะดีจะเลวอย่างไรท่านก็ให้ชีวิตนี้มา ชีวิตนี้เป็นของของท่าน แต่เป็นของของท่านด้วยสิทธิ์ไง ด้วยสิทธิ์ แต่ท่านก็ไม่มีอำนาจจะมาบริหารจัดการชีวิตเราได้ตลอดไป เราถึงต้องพยายามฝึกหัดใจของเราไง พัฒนาของเราให้เป็นคนดีไง

ถ้าเป็นคนดี ทุกคนชอบของดี ทุกคนต้องการของดี ถ้าเราเป็นคนดี ทุกคนก็ต้องการให้เราเป็นพรรคเป็นพวกไง แต่ถ้าเราเป็นคนร้าย เราเป็นคนที่ไม่ดี ทุกคนเขารังเกียจ นี่ไง เขาเกิดมา ดูสิ พูดถึงวันจักรี เขาสถาปนา เขาปกครอง เขาดูแล เขาดูแลให้ความสงบร่มเย็นไง เราก็ต้องกตัญญูไง ถ้าเรามีความกตัญญู กตัญญูกับแว่นแคว้น แล้วกตัญญู สิ่งที่ได้ตอบสนองกลับมาไง ถ้าแว่นแคว้นนั้นเจริญรุ่งเรือง แว่นแคว้นนั้นอุดมสมบูรณ์ ไปที่ไหนโชว์เขาทีเดียวล่ะ ฉันเกิดชาตินั้น ชนชาตินั้น มนุษย์มันก็จะแข่งขันกันไปไง

แต่ถ้าเราเกิดในแว่นแคว้นนั้นได้ความภูมิใจไง เกิดในประเทศอันสมควร เกิดจากพ่อจากแม่ พ่อแม่ให้ชีวิตนี้มา ให้ชีวิตนี้มาแล้วอยู่ในชนชาตินี้ อยู่ในแผ่นดินนี้ อยู่ในแผ่นดินนี้นะ แผ่นดินของชาวพุทธไง ดูสิ พระเจ้าตากฯ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ ถวายแผ่นดินนี้แก่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งนั้นน่ะ แผ่นดินนี้ถวายแก่พระพระพุทธศาสนา แล้วพระพุทธศาสนา ถ้าพระพุทธศาสนามันพระพุทธศาสนาที่ไหนล่ะ

ศาสนาประจำชาติ ศาสนาประจำชาติ ดิ้นรนกันเหลือเกินไง

หลวงตาท่านบอกศาสนาประจำหัวใจไง ถ้าหัวใจเป็นคนดี หัวใจที่ร่มเย็นเป็นสุข หัวใจที่มันมีแต่ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน มันร่มเย็นเป็นสุขทั้งนั้นน่ะ

เวลารบทัพจับศึก เวลาเขาจะยุแหย่ให้แตกมาจากภายใน ถ้าภายในมันแตกแยก มันแตกสามัคคีกัน แว่นแคว้นนั้นรักษาไว้ไม่ได้หรอก รักษาไว้ก็ด้วยความเต็มที แต่แว่นแคว้นนั้นเขามีแต่ความผูกพัน เขามีแต่ความเมตตาต่อกัน เขามีแต่น้ำใจต่อกัน ให้ตีเข้ามาเถอะ ให้ตีเข้ามาเถอะ นี่ศาสนาประจำหัวใจ ถ้าหัวใจมันดีอยู่แล้วไง ให้มันตีเข้ามาเถอะ ตีอย่างไรหัวใจนี้มันก็นับถือพระพุทธศาสนา ถ้ามันศาสนาในหัวใจไง แต่ถ้าหัวใจ หัวใจมันเกิดที่ไหนล่ะ เกิดจากผู้นำ

ถ้าผู้นำอยู่ในศีลในธรรม ผู้นำที่ดี เราเองเราก็ชื่นใจ ผู้นำที่มีมิจฉาทิฏฐิ ผู้นำที่เห็นผิด แล้วก็จะพาออกนอกลู่นอกทางนะ ไอ้คนที่เขามีหัวใจของเขานะ เขาเห็นแล้วเขาก็เศร้าใจ นี่เวลามันเป็นไง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกศาสนานี้ไม่มีใครทำร้ายหรอก คนที่จะทำลายพระพุทธศาสนาก็บริษัท ๔ เรานี่แหละ ถ้าพูดให้ละเอียดเข้าไปก็พระนี่แหละ ถ้าไปทำลายไง

นี่ศาสนาประจำชาติๆ แล้วพฤติกรรม การกระทำของตนนั่นน่ะ ถ้าศาสนามันร่มเย็นมันก็ต้องร่มเย็นให้เห็นสิ ธรรมวินัยขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามันจะพัดซากศพเข้าฝั่งหมดแหละ สิ่งที่เหลวไหล สิ่งที่ใช้ไม่ได้อยู่ในพระพุทธศาสนา ถึงเวลาแล้วมันจะพัดเข้าสู่ฝั่งหมดแหละ มันไม่มีอยู่ในทะเล ไม่อยู่ในมหาสมุทรนั้นน่ะ

นี่ก็เหมือนกัน ถ้าหัวใจมันสะอาดบริสุทธิ์ขึ้นมาแล้ว ถึงเวลาเป็นคราวๆ สิ่งใด สรรพสิ่งในโลกนี้เป็นอนิจจัง สิ่งใดเป็นอนิจจัง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา ถ้าเป็นอนัตตา พระศรีอริยเมตไตรยจะมาตรัสรู้ข้างหน้านะ แต่พระศรีอริยเมตไตรยมาตรัสรู้ข้างหน้า เราเป็นชาวพุทธเราศึกษาแล้วนะ เราก็จะรอไปเป็นพระอรหันต์ตอนสมัยนั้นไง สมัยพระศรีอริยเมตไตรย

แล้วเราถามว่า แล้วมีสิทธิ์อะไร มีสิทธิ์อะไร

ถ้ามีสิทธิ์อะไร เราก็ต้องทำตั้งแต่ตอนนี้ไง มันอยู่ที่ต้นทุน ต้นทุนใครทำสิ่งใดมันก็ได้สิ่งนั้นตอบสนอง ถ้าทำสิ่งใดสิ่งนั้นตอบสนอง ในปัจจุบันนี้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กึ่งพุทธกาลศาสนาจะเจริญอีกหนหนึ่ง ถ้าศาสนาจะเจริญ เจริญที่ไหน เจริญในสัจธรรม สัจธรรม พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากราบธรรมๆ เธอจงมีธรรมเป็นที่พึ่งเถิด อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งเลย

หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ครูบาอาจารย์ของเราอยู่ในป่าในเขาท่านมีคุณธรรมในหัวใจของท่าน ท่านมีความสงบไง ท่านมีความสงบ ท่านมีความสุขของท่านในหัวใจของท่าน วิมุตติสุขมันสุขในหัวใจนั้นน่ะ ถ้ามันสุขในหัวใจนั้น มันไม่ใช่หมาขี้เรื้อน มันมีแต่ความสุข ความสงบ ความระงับ ถ้าความสุข ความสงบ ความระงับนั้น ธรรมอันนั้นๆ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากราบธรรมอันนั้นไง

เราก็แสวงหาธรรมนะ ตอนนี้ในหัวใจของเรา เราขวนขวาย เราต้องการไง แต่เราต้องการมันมีแต่ฟืนแต่ไฟไง ถ้ามีแต่ฟืนแต่ไฟขึ้นมา ฟืนกับไฟมันไปเจอฟืนกับไฟมันก็เข้ากันได้ง่ายไง ฟืนกับไฟพอไปเจอน้ำดับไฟ น้ำดับไฟ น้ำดับไฟมันคืออะไรล่ะ ศีล สมาธิ ปัญญา ศีล สมาธิ ปัญญา ถ้ามันเป็นความปกติของใจ ถ้าใจปกติ แล้วศีลก็ถือต่างกัน ถ้าถือต่างกัน มีความเห็นต่างกัน ทิฏฐิมานะมีความเห็นต่างกันมันก็เป็นนานาสังวาส ถ้านานาสังวาส ความเห็นต่างๆ กัน แต่ก็มีเป้าหมายอันเดียวกัน เป้าหมายอันเดียวกันคือนับถือพระพุทธศาสนาเหมือนกัน

พระพระพุทธศาสนาสอนที่ไหน ก็สอนถึงพุทธะ พุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน แล้วมันตื่นไหมล่ะ ถ้ามันตื่นขึ้นมา มันตื่นตัวขึ้นมามันจะมีสิ่งใดล่ะ เวลาครูบาอาจารย์ท่านประพฤติปฏิบัติของท่าน เวลามันสว่างโพลงจากภายใน ถ้ามันสว่างโพลงจากภายใน มันเหนือโลก สิ่งใดมันเข้าไปเกาะเกี่ยวสิ่งนั้นไม่ได้เลย

คำว่า “ความสุขๆ” ถ้าความสุขเหนือโลกแล้ว ไอ้ของที่ในโลกนี้มันจะมีค่าตรงไหนล่ะ ไอ้ของมีค่าที่เราแสวงหากันอยู่นี่ โลกธรรม ๘ มันจะมีค่าขึ้นมาได้อย่างไรล่ะ ถ้าคนที่มันมีค่า มันจะเหลียวมามองไหม คนที่เขาพ้นไปแล้วเขาจะเหลียวกลับมามองโลกนี้ไหม มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ มีลาภเสื่อมลาภ ไอ้นี่มียศถาบรรดาศักดิ์บ้าบอคอแตกกันอยู่นี่ แล้วบอกว่ามีคุณธรรมในหัวใจ คุณธรรมมันบ้าบอคอแตกขนาดนั้นหรือ คุณธรรมมันพ้นจากโลกไป พ้นจากโลกไปมันเหนือโลก ใครจะรู้ใครจะเห็นมันเรื่องของเขา เรื่องของเขาเพราะอะไร เพราะว่าใจมันบอด

คนใจบอดนะ พอคนใจบอดแล้วมันเกิดทิฏฐิมานะของมัน ถ้ามันเกิดทิฏฐิมานะของมัน สิ่งใดถ้ามีความพอใจของตน อันนี้เป็นธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าสิ่งใดไม่พอใจใจของตน อันนี้ไม่ใช่ แต่เวลาพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกมา ลูกของเราแต่ละคนมันมีความรู้ความเห็นแตกต่างกัน สังคม จริตนิสัยของคนมันแตกต่างกันไปมากกว่านั้นอีก องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงบอกว่าแม้แต่ทำความสงบของใจก็ต้อง ๔๐ วิธีการ ๔๐ วิธีการแยกออกไปเพราะให้ตรงกับจริตนิสัยของแต่ละบุคคล ถ้ามันตรงจริตนิสัยของใคร คนนั้นก็เป็นประโยชน์ของเขา นี่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าวางธรรมวินัยนี้ไว้ให้แก่สัตว์โลก อนุปุพพิกถา ให้เขาเสียสละทานของเขาก่อน ถ้าเขาไม่เสียสละทานของเขา เขาไม่ยอมเปิดหัวใจของเขา เขาจะรับสิ่งที่เป็นสัจธรรมอันนี้ไม่ได้เลย ถ้าเขาเปิดใจของเขา เขาเปิดใจของเขา ถ้าเขาเปิดใจของเขา เขาจะรับฟังเหตุผลของคนอื่น ถ้าเขารับฟังเหตุผลของคนอื่น คนอื่นนะ ยังไม่ใช่ธรรมนะ ถ้าเป็นธรรม เป็นสัจธรรมที่เป็นความจริงมันกังวานอยู่ตั้งแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธจ้าตรัสรู้ธรรมขึ้นมา สิ่งที่มันเป็นสัจธรรมๆ แต่มันอ้างสัจธรรม อ้างไง คำว่า “อ้าง” บัง บังเงา เอาสิ่งนั้นอ้างว่าเป็นธรรมๆ ไอ้ตัวข้างใน ไอ้ตัวขุ่นมัวอยู่ภายในอันนั้นมันจะหาเหยื่ออยู่นั่น

ถ้ามันเป็นความจริง ถ้าเป็นความจริง สิ่งที่เป็นสัจธรรม สัจธรรมอันนั้น เราต้องการอันนั้น ถ้าต้องการอันนั้น วันนี้วันพระ วันพระ พระผู้ประเสริฐ แล้วหัวใจเราประเสริฐไหม ถ้าหัวใจเราประเสริฐนะ มันต้องเหนืออารมณ์ความรู้สึกของเราทั้งหมดถ้ามันประเสริฐ ไอ้นี่มันอยู่ใต้อารมณ์ มันอยู่ใต้ความรู้สึก มันประเสริฐตรงไหนล่ะ มันอยู่ในใต้อุ้งเท้าของกิเลส มันอยู่ในใต้อุ้งเท้าของพญามาร หัวใจของเราที่ผู้ประเสริฐ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานที่มันจะประเสริฐ มันอยู่ในอุ้งเท้าของใคร

แต่ถ้ามันอยู่ในธรรมๆ เวลาอยู่ในธรรม ธรรมคือธรรมธาตุ ธรรมธาตุ ภวาสวะ คือสถานที่ ภวาสวะคือภพ สถานที่ต่างๆ มันโดนทำลายหมดแล้วมันจะไปเหยียบย่ำตรงไหน มารจะรื้อค้นเจอได้อย่างไร ให้มันแสวงหา ให้มันรื้อค้นตามค้นคว้าใน ๓ โลกธาตุ ให้มันพบให้มันเจอ ถ้ามันเจอ มันเจอมันก็เจอแต่ ๓ โลกธาตุ ไม่เจอธรรมธาตุอันนั้น ถ้ามันเจอธรรมธาตุอันนั้นมันจะเหยียบย่ำได้ไหม อุ้งเท้าของกิเลสของพญามารมันจะเหยียบธรรมธาตุอันนั้นได้ไหม มันเหยียบอันนั้นไม่ได้ มันรื้อค้นสิ่งนั้นไม่เจอไง ถ้ารื้อค้นสิ่งนั้นไม่เจอ ถ้าผู้ประเสริฐ ประเสริฐที่นี่ไง

แต่นี่มันไม่ประเสริฐ มันอยู่ในอุ้งเท้าของพญามารไง แล้วก็ปากเปียกปากแฉะนะ ถ้าปากเปียกปากแฉะ อันนั้นมันเรื่องของโลก คำว่า “เรื่องของโลก” นะ กามภพ รูปภพ อรูปภพ เราเกิดมาเป็นมนุษย์ โลกทัศน์ มันต้องมีที่มาที่ไป ถ้ามันที่มาที่ไป ดูสิ ทางวิชาการอะไรใครเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของเขา มันก็เป็นสิทธิของเขาตลอดไป ไอ้ความคิดของเรา ความคิดของเรามันอยู่ที่ใจดวงนี้เท่านั้น มันไม่เกิดจากใจดวงอื่น ใจดวงอื่นเขาคิดของเขาดวงอื่น เวรกรรมมันลงที่ใจดวงนั้น ถ้าเวรกรรม ภวาสวะ ภพ สถานที่ที่มันเกิด แก่ เจ็บ ตายไง แล้วความคิดมันเกิดจากตรงนั้นน่ะ ถ้าความคิดเกิดจากตรงนั้น แล้วเวลาเราทำความสงบเข้าไป จิตดวงนั้นมันสงบ ถ้ามันสงบเข้ามา สงบระงับมันจะมีความสุขของมัน ความสุขเพราะอะไร เพราะมันไม่มีฟืนไม่มีไฟ ไม่มีอุ้งเท้าอันใดมาเหยียบย่ำมัน ไม่มีอุ้งเท้าใดมามีอำนาจเหนือมันไง ถ้าไม่มีอุ้งเท้าสิ่งใดมีอำนาจเหนือมัน นั่นล่ะสัมมาสมาธิ สัมมาสมาธิ นี่สถานที่ๆ

ที่ว่าว่างๆ ว่างๆ...ว่างๆ มันต้องมีผู้รู้ ว่างๆ มันต้องมีสติ ว่างๆ มันต้องมีผู้จัดการ ถ้าผู้จัดการนั้น ถ้ามันยกขึ้นสู่วิปัสสนามันจะเกิดขึ้นตรงนั้นไง ถ้ามันเกิดขึ้นตรงนั้น นี่ปัญญาเราเกิดๆ

ปัญญา ถ้าปัญญาภาวนามยปัญญา ปัญญาเกิดจากการภาวนา สิ่งที่สัญชาตญาณ ปัญญาจะเกิดจากเวรจากกรรม จากเวรจากกรรมมันอยู่ที่ความชอบไง ความชอบความพอใจของเรา สิ่งที่ชอบ นี่สัญชาตญาณ สัญชาตญาณนะ ขี้โลภ ขี้โกรธ ขี้หลง คนเรามันมีนิสัยของมันมา สิ่งใดถูกใจพอใจนี่ชอบ สิ่งใดขัดใจ ไม่พอใจ เราไม่ชอบ นี่พูดถึงความคิดอย่างนี้มันคิดแบบโลกๆ ไง แล้วถ้ามันสงบเข้ามามันพ้นจากอุ้งเท้า พ้นจากพญามาร แล้วพ้นแล้วทรงไว้ด้วยสัมมาสมาธิ ถ้ามันพ้นมาแล้ว ถ้าไม่ทรงไว้มันเป็นมิจฉา

มิจฉาคืออะไร มิจฉามันไม่ยกเข้าสู่มรรค มิจฉามันไม่เป็นสัมมาทิฏฐิ ไม่เป็นความเห็นถูกต้องดีงาม ถ้าเป็นความเห็นถูกต้องดีงาม เห็นถูกต้องดีงามตรงไหน เห็นถูกต้องดีงามด้วยกำลังของตน ด้วยสติของตน ด้วยปัญญาของตน ถ้าด้วยปัญญาของตน เวลาสว่างโพลง สว่างโพลงจากกลางหัวใจไง วิธีการทั้งหมดชี้เข้ามา ชี้เข้ามาที่หัวใจ ไอ้นี่ไปทะเลาะกันที่วิธีการไง

วิธีการสาธุขอให้ทำมาเถอะ ดูสิ เวลาประพฤติปฏิบัติอะไรถูกไหม ถูก ขอให้ปฏิบัติเถอะ สำรับอาหารขอให้ชิม ขอให้ชิม ขอให้ตัก ถ้ามันชิมมันตักแล้วมันจะรู้ว่ารสอาหารมันเป็นอย่างใด รสอาหารไม่เคยชิม ไม่เคยตักเลย แต่บอกว่า โอ้โฮ! ของฉันนี่ถาดทองคำ ดูสิ สำรับทองคำ อาหารประเสริฐ แต่ไม่เคยกิน ไม่เคยได้ลิ้มรสเลย

ขอให้กินเถอะ กินสักคำหนึ่งเถอะ พอกินแล้วมันจะรู้เลยว่ารสชาติเป็นอย่างใด นี่ก็เหมือนกัน ขอให้ปฏิบัติเถอะ ผิดถูกค่อยว่ากัน อาหารถูกปาก อาหารไม่ถูกปาก อาหารกินไปแล้วมันจะเป็นพิษเป็นภัย ขอให้ทำเถอะ

นี่ไง ครูบาอาจารย์เราท่านถึงพูดตรงนี้ ขอให้มีผู้ประพฤติปฏิบัติเถอะ

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพูดไว้เลย ผู้ใดปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม โลกนี้จะไม่ว่างจากพระอรหันต์เลย เราก็อยากจะเป็นพระอรหันต์กัน เราก็ค้นคว้ากัน พยายามขวนขวายกัน แล้วขวนขวายขึ้นมาตะครุบเงาทั้งนั้นน่ะ แต่ถ้าหยุดนิ่ง หายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ ใช้ปัญญาอบรมสมาธิ หยุดนิ่ง ค้นคว้าในใจของเราไง ค้นคว้าจากใจดวงนี้ ค้นคว้าจากไอ้ใจที่ขี้ทุกข์ขี้ยาก ถ้าค้นคว้าจากมันได้มันจะเป็นสมบัติของเรา อัตตสมบัติ มันอยู่ที่ใจนั้น

หลวงตาท่านพูดประจำ ธรรมะในหัวใจของท่านเปิดเผยให้คนอื่นเห็นไม่ได้ เพียงแต่กิริยาของธรรม คือท่านแสดงออกมา

นี่ก็เหมือนกัน ถ้ามันเป็นคุณธรรมของเรา มันเป็นปัจจัตตัง เป็นสันทิฏฐิโก มันเป็นกลางหัวใจ มันเป็นนามธรรมที่จะเปิดเผยออกมาได้อย่างไร แต่เปิดเผยได้ด้วยคนที่มีคุณธรรมด้วยกันไง พระอรหันต์เขารู้ ฟังทีเดียวก็รู้ว่าใครโม้ไม่โม้ ใครจริงไม่จริง เพียงแต่ท่านมีคุณธรรมของท่าน ท่านไม่สร้างปัญหาไง

ไอ้นั่นมันคือสังคมของเขา คือความรู้ความเห็นของเขา เขามีวุฒิภาวะแค่นั้น เขามีความเห็นแค่นั้น ถ้าความเห็นแค่นั้นแล้วก็สาธุมันสังเวช สังเวชว่าความรู้แค่นั้นน่ะหรือมันเป็นความรู้ในพระพุทธศาสนา ความรู้อย่างนั้นหรือ ความรู้อย่างนั้น เห็นไหม หลวงตาท่านพูดบ่อยนะ เวลาคนไปขอท่านมาสร้างมหาวิทยาลัย ท่านบอกว่ามหาวิทยาลัยโจรน่ะไม่ให้ การศึกษา การศึกษาแบบโจรไง ศึกษาแล้วว่าเป็นของมันไง ทั้งที่ตำราอ่านจบมาแล้วหนังสืออยู่ครบเล่มนั่นแหละ แต่อ่านไปแล้วมันอยู่ในสมองไง แล้วรู้อะไรขึ้นมา ทำอะไรขึ้นมา มันเป็นจริงขึ้นมาไหม แต่เวลาท่านชื่นชม ท่านชื่นชมมหาวิทยาลัยป่า โคนต้นไม้ ในถ้ำ ในเหลือบ แล้วมีบุรุษมีสตรีที่มีจิตใจเข้มแข็งเข้าไปค้นคว้าหาจิตใจของตน แล้วพยายามประพฤติปฏิบัติของตน อย่างนั้นท่านถึงชื่นชม

ท่านพูดประจำ พระกับป่าขาดจากกันแล้วศาสนามันจะหาไม่ได้ มันจะหาได้เพราะอะไรล่ะ หาได้เพราะการเดินจงกรม การนั่งสมาธิภาวนา การฝึกหัดดัดแปลงตนไง สำรับนั้น หัวใจนั้น เปิดหัวใจเถอะ แล้วขอให้ชิมสักนิดหนึ่ง ครูบาอาจารย์ท่านจะพูดประจำ ขอให้ปฏิบัติเถอะ ธรรมะขอให้ประพฤติปฏิบัติ ขอให้ขวนขวาย ขอให้มีการกระทำ มหาวิทยาลัยป่า มหาวิทยาลัยในใจ ในใจมันขุดค้น มันจะค้นคว้าของมัน ถ้ามันเป็นความจริงขึ้นมา ปฏิบัติไปมันก็จะมีผิดมีถูกไปของมันนั่นแหละ ขอให้ทำไปก่อน แล้วถ้าผิดถูกขึ้นมา ถ้ามีครูบาอาจารย์ เราไปแก้ไขกันตรงนั้น เปิดสำรับให้ได้ ผอบเขาปิดไว้ก็เปิดไม่เป็น อยากกินๆ เปิดไม่เป็น เปิดหัวใจของตนไม่ได้ ถ้าเปิดหัวใจของตนไม่ได้ก็ดูคนอื่นกินไง

นี่ก็เหมือนกัน อ่านแต่ตำรับตำรา อ่านเป็นการชี้นำ แผนที่ ถ้าแผนที่ที่ดีนะ ค้นคว้าหาขึ้นมา หาหัวใจของตนขึ้นมา ถ้าแผนที่ที่มันผิด มันชี้ไปทางนี้ ไปเลย นี่ก็เหมือนกัน ถ้าแผนที่ที่ถูกแล้ว แต่เราเองยังทำไม่ถูก เราพยายามทำของเรา ฝึกฝนของเรา

เวลาพลเอกเปรมบอกว่าเกิดบนแผ่นดินไทยต้องสนองคุณแผ่นดินไทย จิตดวงนี้เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ ภวาสวะ ภพของเรา ชาติของเรา ดินแดนของเรา หัวใจของเรามันพาเราเกิด เราจะตอบแทนบุญคุณมันไหม เราจะสนองคุณหัวใจของเราไหม หัวใจที่ทุกข์ๆ ยากๆ มันพาเรามาเกิดอยู่นี่ เราจะสนองคุณมันไหม เราจะมีสติ มีสมาธิดูแลรักษามันไหม แล้วจะรื้อค้นขึ้นมา รื้อค้นขึ้นมา หัวใจดวงนี้ทำให้มันเป็นทองคำ เอโก ธมฺโม ธรรมอันเอก ธรรมทั้งแท่ง ธรรมทั้งแท่งอยู่ที่หัวใจดวงนี้ เอวังง

มูลนิธิพระสงบ มนสฺสนฺโต

032-240-666, 083-038-2477

© 2020-2024 สงวนลิขสิทธิ์โดย www.sa-ngob.com. All rights reserved.