เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๑o พ.ค. ๒๕๖o

เทศน์เช้า วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๐

พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

 

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

ตั้งใจฟังธรรมะนะ วันนี้วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา รัฐบาลเขาหยุดให้ประชาชนหาบุญกุศลใส่ตัวเองไง มันเป็นมงคลชีวิต ถ้าเราเป็นชาวพุทธ ใครนับถือศาสนาใด วันสำคัญในศาสนาเขา เขาก็จะทำกิจกรรมในศาสนาของเขา

เราเป็นชาวพุทธ วันนี้วันสำคัญ วันนี้วันสำคัญเพราะอะไร วันนี้วันสำคัญเพราะเป็นวันเกิด วันตรัสรู้ วันปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เวลาเราอยู่บ้านอยู่เรือน วันเกิดของพ่อของแม่ วันเกิดของคนในบ้านในเรือนของเรา เรายังทำบุญกุศลกัน วันนี้วันสำคัญมาก วันสำคัญมากเพราะอะไร เพราะมันมีพระพุทธศาสนา โลกถึงร่มเย็นเป็นสุขไง

ความร่มเย็นเป็นสุขนะ ศาสนาพุทธ ทางตะวันตกเขาบอกเป็นศาสนาแห่งสันติภาพ ศาสนาพุทธนะ ไม่เคยเบียดเบียนไม่เคยทำลายใครทั้งสิ้น ให้เห็นแก่คุณค่าของชีวิตทุกชีวิตมีคุณค่าเท่ากัน เห็นแก่คุณค่าของสิ่งมีชีวิตนะ เพราะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมไง

คำว่า ตรัสรู้ธรรม” ดวงใจทุกดวงใจปรารถนาความสุข เกลียดความทุกข์ทั้งนั้น แล้วปรารถนาความสุข แล้วความสุขอย่างใดล่ะ

ถ้าความสุขในโลก ความสุขของเรา เราทำบุญกุศลของเราเพื่อบุญกุศล คำว่า บุญกุศล” ทำสิ่งใดให้สมความปรารถนา อันนี้มันเป็นบุญกุศลทางโลกไง ถ้าทางโลกทำสิ่งใดแล้วประสบความสำเร็จ ในบ้านในเรือนของเรามันมีแต่บุญกุศล สิ่งที่เป็นความดีงาม สิ่งนี้เป็นมงคลชีวิต

พอมงคลชีวิต เรามาวัดมาวาขึ้นมา เรามาทำบุญกุศลของเรา คำว่า ทำบุญกุศลของเรา” คนเราเกิดมา อำนาจวาสนาของคนไม่เท่ากัน คนเกิดมามั่งมีศรีสุข เขาทำของเขา เขาทำด้วยความสะดวกสบายของเขา เราคนทุกข์คนจน เราทำสิ่งใด ไปวัดไปวา ข้าวทัพพีเดียวพอ ไม่ต้องมากหรอก มันมีคุณค่าคือคุณค่าของน้ำใจ สิ่งที่ขวัญและกำลังใจ ขวัญและกำลังใจ ขวัญอันนั้นสำคัญไง พระพุทธศาสนาสอนที่นี่นะ

เวลาเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ สิ่งมีชีวิตเกิดมาแล้วมีพ่อมีแม่ เราเกิดมามีพ่อมีแม่ พ่อแม่ก็รักเราไม่เท่าคนอื่น มันมีความน้อยเนื้อต่ำใจไปทั้งนั้นน่ะ ความรัก ความผูกพัน สิ่งกรณีนี้มันเป็นเรื่องอำนาจวาสนาของคน พ่อแม่ของเขาดู เขาก็ดูลูกของเขา ลูกของเขาฉลาด ลูกของเขาทันคน คนคนนั้นเขาก็ปล่อยวางได้ ไอ้คนคนไหนที่ว่ามันด้อยกว่า เขาก็ต้องดูแลคนนั้นเป็นพิเศษๆ ไอ้ความคิดอย่างนั้นเป็นความคิดของผู้ใหญ่ไง แต่ไอ้ความคิดของเด็ก ความคิดของเด็กมันจะให้เสมอกัน เสมอกันโดยความรู้สึกของเขา นี่ความรู้สึกของเขา สิ่งนี้มันเป็นเรื่องโลกๆ เป็นเรื่องผลของวัฏฏะ เป็นเรื่องบุญเรื่องกรรม ถ้าเรื่องบุญเรื่องกรรม องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนอย่างนี้

ถ้ามันเป็นมงคลชีวิตนะ สิ่งที่เป็นมงคลชีวิตของเรา มงคลชีวิตของเราที่ไหน มงคลชีวิตของเรา ถ้าเรามีศาสนาประจำหัวใจ ถ้ามีศาสนาประจำหัวใจ เวลามันสุขมันทุกข์ มันสุขมันทุกข์ที่หัวใจเท่านั้นน่ะ

เราก็ไปดูกันที่รูปร่างข้างนอกภายนอกไง เราไปดูที่วัตถุไง แต่ถ้าวัตถุสิ่งนั้นมันก็เป็นรูปสมบัติใช่ไหม คำว่า รูปสมบัติ” คนทำบุญกุศลมา มนุษย์สมบัติมีศีล ๕ ถ้าศีล ๕ ขึ้นมา คนเราเกิดเป็นมนุษย์แล้วอายุสั้นอายุยืนแตกต่างกัน แตกต่างกันก็นี่ไง ถ้าความเมตตาในหัวใจนั้นไง

ถ้าหัวใจนั้นมันเมตตา หัวใจนั้นไม่เบียดเบียนใคร หัวใจไม่ทำลายใคร จิตใจของเขามันก็มีความสุขมีความสงบในหัวใจนั้น ถ้าหัวใจมีความสุขความสงบ ร่างกายมันก็แข็งแรง ร่างกายมันก็สมบูรณ์

คนเรามีแต่ความทุกข์ ความทุกข์ในหัวใจ ร่างกายมันก็บิดเบือนไปตามแต่กิเลสมันกดทับ เห็นไหม ความกดทับในใจ กดทับในใจอันนั้น ธรรมอันนี้มันถึงสำคัญ สำคัญตรงนี้ไง

สำคัญที่ว่า เราเกิดมาแล้ว เกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาสอนนะ สอนถึงให้กตัญูกตเวที คนเราเกิดมา พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูกนะ มาทำบุญกุศล คนก็พาพ่อแม่มา ถ้าพ่อแม่เขาจะไปที่ไหน ไปที่สะดวกของเขา นั่นก็ตามอัธยาศัยของพ่อแม่ แต่ถ้ามากันได้เป็นครอบครัว นี่มันอบอุ่น

มงคลชีวิตๆ ในบ้านของเรามันอบอุ่น ในบ้านเรามันคุยกันรู้เรื่อง เห็นไหม ในบ้านเรา ในบ้านเราสำคัญที่สุดนะ ถ้าในบ้านเราสำคัญที่สุด เราทำสิ่งใดแล้วเราจะทำนอกบ้านของเรา

นี่พระอรหันต์ในบ้าน พระอรหันต์ในบ้านแล้ว เราเกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาบอกว่าเราทำมาหากิน หามาได้ส่วนหนึ่ง สลึงหนึ่งเอาไว้ทำสัมมาอาชีวะ สลึงหนึ่งเอาไว้เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ สลึงหนึ่งเอาไว้ดำรงชีพๆ อีกสลึงหนึ่งฝังดินไว้ๆ ฝังดินก็ทำบุญกุศลนี่ไง ทำบุญกุศลเพื่ออะไร

เกิดมา เราก็อยากคาบช้อนเงินช้อนทองมากับเขา แต่ทำไมเราเกิดมาลุ่มๆ ดอนๆ เราเกิดมาทุกข์มามันยากล่ะ คนทำมามันไม่เหมือนกันตรงนี้ไง ถ้าคนมันทำมาไม่เหมือนกัน คาบช้อนเงินช้อนทองมานี้ด้วยอำนาจวาสนา บุญเป็นอามิสๆ

แต่เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอน สอนถึงเรื่องการภาวนา เรื่องภาวนาหายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ คนที่อยากฉลาดไง คนเราเกิดมาอยากจะฉลาด อยากจะมีปัญญาเท่าทันคนนู้นคนนี้ ความฉลาดมันเกิดมาจากไหนล่ะ

ความฉลาดมันเกิดมาจากหายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ มันฉลาดเพราะอะไร เพราะมันฉลาดเท่ากับอารมณ์ของตัวเองไง ดูสิ ที่มันทุกข์มันยากอยู่นี่เพราะมันรู้เรื่องคนอื่นไง รู้ส่งออกหมด โดยธรรมชาติของมนุษย์ ความคิดมันส่งออกไปทั้งหมดเลย

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเห็นคุณค่าของหัวใจนี้ พุทธะ ความรู้สึก พุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเห็นประโยชน์อันนี้ ถ้าเราหายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ มันมีสติสัมปัชชัญญะ ใครมันจะมาหลอกมาลวงเรา

ไอ้นี่กลัวคนนู้นหลอก คนนี้หลอก ไปศึกษาให้เท่าทันเขา...เข้าทางเขาหมดเลย ยิ่งศึกษา เขาก็น้อมนำไปตามเขา

หายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ ศึกษาหัวใจนี้ ถ้าศึกษาหัวใจนี้ หัวใจนี้มันมีสติมีปัญญาของมัน มันเท่าทันตัวมันเอง ใครจะมาหลอก

ไอ้ที่เขามา เขาหลอกทั้งนั้นน่ะ ถ้าเขาหลอกทั้งนั้น ถ้ามีสติปัญญา เห็นไหม การหลอก การเจรจา ถ้าการเจรจา เราเป็นผู้ฉลาด เราเจรจา เราเอาตัวรอดของเรา ถ้าอยากจะเป็นผู้ที่ฉลาด องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนให้ภาวนาไง

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดที่ลุมพินีวัน “เราจะเกิดชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย” เวลาเกิดมาแล้วมีนางพิมพา เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ ตรัสรู้ในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า วันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ ตรัสรู้ที่ไหน ตรัสรู้ในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วใจของเรา ใจของเราล่ะ

ทำบุญกุศลเป็นประเพณีวัฒนธรรม โลกนี้ รัฐบาลเขาพยายามดูแล เราเกิดมา เราเกิดมาเป็นผู้นำที่ซื่อสัตย์ ผู้นำที่มีเมตตาธรรม เราจะมีความสุขความสงบของเรา เราเกิดมาน่ะ เกิดมีผู้นำที่เจ้าเล่ห์ นกกระยางไง ยืนนิ่งถือศีล “มันเป็นเช่นนั้นเอง มันเป็นเช่นนั้นเอง” อย่าเผลอ เดี๋ยวมันจะกินมึงน่ะ

แต่ถ้าเราเกิดมามีผู้นำที่ดี มันสภาคกรรมๆ สิ่งที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาสอนให้มีน้ำใจต่อกัน มีน้ำใจต่อกันๆ ในสังคมใดก็แล้วแต่ เรามีน้ำใจต่อกัน มันจะมีการกระทบกระเทือนบ้างเล็กน้อย เขาอาจจะผิดพลาดไปโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ได้ ถ้าเราคิดได้อย่างนี้แล้วเราจะไม่ทุกข์ไม่ยากในหัวใจของเราไง

แต่ถ้าเขาคิดว่าเขาจะกลั่นแกล้งเรา

กลั่นแกล้งก็เป็นกรรมของเขา กรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กันนะ คนที่มีอำนาจวาสนาบารมีเขาสร้างแต่คุณงามความดีของเขา เขามีน้ำใจของเขา เขาจะต่อหน้าและลับหลัง เราระลึกถึงเขานะ คนที่มีน้ำใจต่อเรา เราระลึกถึงเขา เวลาเราตกทุกข์ได้ยาก ใครค้ำจุนดูแลเรา บุญคุณอันนั้นมันอยู่ในหัวของเรานะ อยู่ในหัวใจของเรา

แล้วเราล่ะ ต่อไปเรามีอำนาจวาสนาขึ้นมา เราจะคอยดูแลคนอื่น คอยดูคนที่ทุกข์ที่ยากบ้าง เพราะเราเคยได้รับโอกาสอย่างนี้มา เขาทำของเขา เขาทำกับเราอย่างนั้นแล้วเขาได้บุญกุศลของเขาไป เวลาเขาก็ได้ประโยชน์ของเขาไป นี่ไง สิ่งที่ผลของวัฏฏะๆ

ไม่ใช่ว่าคนนั้นทำบุญกับเรา มันมีบุญเฉพาะคนคนนั้นไง คนนั้นทำบุญเขาทำเพื่อสังคมไง ถ้าสังคมร่มเย็นเป็นสุขขึ้นมาแล้วมันเป็นประโยชน์ไหม นี่ไง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเวลารื้อสัตว์ขนสัตว์ รื้อสัตว์ขนสัตว์ที่ไหน

เวลารื้อสัตว์ขนสัตว์ ท่านเผยแผ่ธรรมไปตลอด นี่รื้อสัตว์ขนสัตว์ ๓ โลกธาตุ เวลาเทศนาเทวดา อินทร์ พรหมขึ้นมา แล้วมนุษย์ล่ะ สิ่งที่แก้ไขได้ ท่านก็แก้ไขของท่าน นี่เป็นมงคลชีวิตของเรานะ ถ้าเป็นมงคลชีวิตของเรา ถ้าเรามีความสุขในหัวใจของเรา สิ่งที่เราเดือดร้อนอยู่ ที่เราดิ้นรนอยู่นี่จบหมด

มันเดือดร้อน ถ้ามีสติปัญญา ของที่มันเป็นของใหญ่โตมากเป็นของเล็กน้อยเลย ของเล็กน้อยหายไปเลย ไม่มีเลย ไอ้นี่ก็เหมือนกัน ของเล็กๆ นิดเดียว แต่เพราะทิฏฐิมานะของคน คนไปยึดติดแล้วมันก็แบกหามตรงนั้นน่ะ

แต่ถ้ามันมีความเข้าใจแล้ว อ๋อ! หมดเรื่อง ไม่มีสิ่งใดเลย เห็นไหม นี่ปัญญา ปัญญามันเกิดขึ้น แล้วปัญญาเกิดขึ้นกับหัวใจอย่างนี้ แล้วหัวใจอย่างนี้มันมีอะไรมีค่าในโลกนี้ สิ่งใดในโลกนี้อะไรมันมีค่าบ้าง

สิ่งที่ว่าหัวใจมันต่ำต้อยไง หัวใจมันบกพร่องไง อยากจะหามาเติมๆ แต่ไม่รู้เลย เติมได้ หายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ สิ่งที่เติมได้ เติมได้เพราะอะไร เพราะพุทธานุสติ เรามีสติสัมปชัญญะนะ แล้วรักษาหัวใจของเรานะ ที่รักษาหัวใจของเรา นี่มงคลชีวิตๆ มงคลชีวิตของเรา เรามีสติมีปัญญาของเรา เราอยู่ในโลกด้วยความไม่ต้องทุกข์ไม่ต้องร้อนจนเกินไป

ทุกคนต้องปากกัดตีนถีบทั้งนั้น ดูสิ ดูพระกรรมฐานเลี้ยงชีพด้วยปลีแข้ง บิณฑบาตเป็นวัตร จะมั่งมีศรีสุข จะวันที่รวยกับวันที่คนมากมาย วันที่จนไม่มีใครเลย ท่านก็บิณฑบาตของท่าน ท่านบิณฑบาตของท่านแล้วมันจบ สิ่งใดจะเกิดขึ้นมานั้นมันเป็นเรื่องอำนาจวาสนาบารมีของคน สิ่งที่เราทำของเราแล้ว มันจบแล้ว

นี่ก็เหมือนกัน คนเราเกิดมาต้องมีหน้าที่การงานของเรา ถ้าเรามีหน้าที่การงาน มันเป็นหน้าที่ เวลาทำงานบอกว่าเหนื่อยยาก เวลากินทำไมมันเอร็ดอร่อยนัก เวลากินนั่นก็งานนะ พระทำภัตกิจ ฉันอาหารเป็นภัตกิจ มันเป็นกิจกรรมอันหนึ่ง มันเป็นงานอันหนึ่ง แล้วเวลางานมีสติสัมปัชชัญญะ ฉันนี้ฉันเพื่อดำรงชีพไว้ ดำรงชีพไว้ทำไม

ดำรงชีพไว้เพื่อจะปราบกิเลสไง ไอ้กิเลสตัณหาความทะยานอยากในหัวใจนี้ ไอ้ตัวอยากดังอยากใหญ่ อยากนั่งบนหัวคน ไอ้ตัวนี้มันตัวเผาลนในหัวใจ ไอ้ตัวนี้ ไอ้ตัวอหังการ มันไอ้ตัวนี้

แล้วท่านฉันเพื่ออะไร ฉันขึ้นมา ฉันเสร็จแล้ว ทำภัตกิจเสร็จแล้ว ผู้ที่เข้าฌานได้ก็เข้าฌาน ผู้ที่เดินปัญญาก็เดินปัญญา ในร่มไม้ ในเรือนว่าง ในต่างๆ นี่ไง ถ้าสัจธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าเป็นธรรมะสัจธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วมันจะมีอะไรที่เป็นเรื่องเดือดร้อนบ้างล่ะ

สิ่งปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างอลังการ สร้างกันมาทำไม สิ่งนั้นทำเพื่ออะไร นี่ไง ถ้ามันเป็นประเพณีวัฒนธรรม มันเป็นพระพุทธศาสนา หลวงตาท่านสอนอยู่ ที่ไหนควรสร้างก็ควรสร้าง สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นวัฒนธรรม ศิลปะวัฒนธรรม ถ้าศิลปะวัฒนธรรมแล้วนะ เวียง วัง คลัง นา สิ่งนี้เชิดชูศาสนา แต่ถ้าไปในชนชาติใด ชนชาตินั้นมีหัวใจที่ดีงาม มีหัวใจที่ผ่องแผ้ว มีแต่หัวใจที่ประเสริฐ

นี่ไง เมืองไทยที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพราะน้ำใจของคนนี่แหละ พระพุทธศาสนา สยามเมืองยิ้มๆ เพราะอะไร เพราะเราจริงใจต่อเขา ความจริงใจต่อเขาเพราะอะไร เพราะเรามีศีลมีธรรม เรามีความสัตย์ เพราะมีความจริงใจไง ไม่ปั้นหน้าไง แต่เวลาเขาไปเที่ยวต่างประเทศ เขาก็บอกที่ประเทศอื่นเขาก็มีอัธยาศัยเหมือนกันนะ

นี่ไง สิ่งที่มันเจริญ มันเจริญในหัวใจ เวลาคนไปที่ไหนมา บอกที่นั่นเจริญๆ หลวงตาบอกว่าวัตถุมันเจริญ เจริญวัตถุ ใครก็ทำได้ แล้ววัตถุเจริญ สิ่งใดมีเงิน สร้างได้หมดล่ะ ตอนนี้มันเจริญ ดูไบมันสูงที่สุดในโลก เพราะเขามีเงิน แล้วมีเงินมีความสุขไหม เจริญแล้วไปนอนทุกข์ยากบนตึกสูงๆ ใช่ไหม

แต่ถ้ามีคุณธรรม เราอยู่ที่ไหนก็ได้ ถ้ามันอยู่ที่ไหนก็ได้ เราไม่ต้องให้ใครมาชี้นำไง ไม่ต้องให้เราไปแข่งขันกับใครไง ให้เราแข่งขันกับกิเลสตัณหาความทะยานอยาก องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนในที่นี้

ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สิ่งที่สัมผัสได้คือหัวใจของคนเท่านั้น ไม่มีสิ่งใดบรรจุธรรมอันนั้นได้ ถ้าสิ่งที่บรรจุธรรมอันนั้นได้คือหัวใจของเรา คือความรู้สึกนึกคิดของเรา ถ้าเรามีมงคลชีวิต มงคลชีวิตคือเราเห็นคุณค่าของหัวใจของเรา เห็นคุณค่าหัวใจของพ่อแม่ปู่ย่าตายายของเรา เห็นคุณค่ากับหัวใจของสัตว์โลก หัวใจทุกๆ ดวงใจที่เขามี เขาก็มีใจเหมือนเราทั้งนั้นน่ะ เขาก็ปรารถนาความสุข เกลียดความทุกข์ทั้งนั้นน่ะ แต่มันก็อยู่ที่อำนาจวาสนาของคนว่าจะทำได้มากน้อยขนาดไหนไง

ถ้าคนมีอำนาจวาสนา เขากำหนดพุทโธ หายใจเข้า หายใจออก จิตเขาสงบได้ ไอ้ของเราทำเกือบเป็นเกือบตายไม่เห็นได้สักที แล้วพอไม่ได้ มันได้อะไรมา มันก็ได้สัญญาความจำได้หมายรู้ไง มันก็ได้สิ่งที่เราได้ยินได้ฟังมาไง มันไม่เป็นความจริงขึ้นมาไง

ถ้าเป็นความจริงขึ้นมานะ มันมีความสุขระงับในหัวใจอันนี้ไง ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต ใครทำความสงบได้ อันนั้นจะเป็นความจริงของเรา ถ้าเป็นความจริงของเรา เห็นไหม

สิ่งที่เราเป็นชาวพุทธ วันนี้วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เขาชื่นชมกันนะว่าปีท้ายๆ นี้แบบว่าประชาชนเข้าใจเรื่องพระพุทธศาสนามาก ประชาชนไม่ลืมศาสดาของเราไง ไม่ลืมวันเกิด ไม่ลืมวันมาฆบูชา ไม่ลืมไง สิ่งที่โดยปกติเราก็แสวงหาของเราอยู่แล้ว แล้วถ้าวันสำคัญเรายังไม่รู้จัก วันสำคัญเรายังไม่รู้เหนือรู้ใต้ แล้วเราจะรู้จักหัวใจเราได้อย่างไร

สิ่งที่หัวใจมันลงไง หัวใจมันลงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ไง หัวใจของเรานี่ แล้วถ้าหัวใจของเรามันระลึกถึง มันก็เท่ากับระลึกเรา ระลึกถึงพุทธะ เห็นไหม เวลาหลวงตาท่านบรรลุธรรม พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ รวมเป็นหนึ่งเดียวอยู่กลางหัวใจนั้น

กลางหัวใจนั้น เวลาเรามีความลังเลสงสัยว่า เราเกิดมาจากไหน ตายแล้วไปไหน เวลาประพฤติปฏิบัติขึ้นไปแล้ว เกิดมาจากบุพเพนิวาสานุสติญาณ ถ้าทำสิ้นกิเลสไม่ได้ เป็นจุตูปปาตญาณ คือการเกิด แต่ถ้ามันทำสิ้นกระบวนการไปเป็นอาสวักขยญาณไง

เวลาเราจบสิ้นกระบวนการไปแล้ว จิตดวงหนึ่งเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะไม่มีต้นไม่มีปลาย เวลาทำให้มันจบสิ้นไปแล้ว สิ่งที่มันไม่เกิดอีกมันไม่เกิดอย่างไร นั่นน่ะสิ่งนั้นเป็นเป้าหมายของชาวพุทธไง แล้วชาวพุทธเราทำของเราได้ ถ้าเรายังทำของเราไม่ได้ เราก็อาศัยของเรา อาศัยคุณงามความดีนี้ อาศัยการกระทำอันนี้เพื่อให้เกิดไม่ทุกข์ไม่ยากจนเกินไปไง

คำว่า เกิดไม่ทุกข์ไม่ยากเกินไป” เวลาเกิดมีอำนาจวาสนา เวลาเราทำงานขึ้นมา สังคมที่ดี คนที่เชิดชูเรา นั่นไง บุญ สภาคกรรม เราเกิดมาร่วมกัน สังคมที่ดีๆ ไง เวลาบาปมันพาเกิดไง ไปเกิดเอาที่แห้งแล้ง ไปเกิดที่ทุกข์ที่ยาก เขาต้องใช้ชีวิตของเขาไป เขาก็เกิดที่นั่น

เวลาเกิดในที่ประเทศอันสมควรไง เกิดในประเทศสมควรนะ แล้วเวลาธรรมมันเกิด เกิดในหัวใจดวงนี้ ธรรมเกิดในหัวใจที่มีสัจจะ หัวใจที่มีการกระทำ ธรรมมันเกิดบนหัวใจอย่างนี้ แล้วเราก็มีหัวใจของเราเหมือนกัน

หัวใจของเรา ตอนนี้ความทุกข์ความยากมันครอบงำอยู่ หัวใจของเรา ความทุกข์ความยากมันครอบงำอยู่ ด้วยกิเลสตัณหาความทะยานอยาก อวิชชา ด้วยความไม่รู้ แต่มักมากอยากใหญ่ อยากอหังการ แล้วไม่ได้อะไรเลย

สละมันทิ้งซะ คนก็เท่าคนน่ะ ความดีของเขา สาธุ ใครทำคุณงามความดี สาธุ เราก็ทำความดีของเรา เราก็จะทำของเรา เราต้องทำขึ้นมา

พ่อแม่ให้ชีวิตมานะ เวลากิน เราต้องกินเอง ถ้าเราไม่กินเอง ใครจะกินล่ะ เว้นไว้แต่คนป่วย หมอให้ทางสายยาง นี่ก็เหมือนกัน ใจของเราจะรู้จริงเห็นจริง ใจต้องทำขึ้นมาให้จนได้

เราฟังครูบาอาจารย์มา เรามีที่พึ่งที่อาศัยของเรา แล้วเราพยายามตั้งสติของเรา หายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธนี่สำคัญมากเลย เพราะธรรมชาติของมนุษย์ต้องหายใจอยู่แล้ว ไม่หายใจก็คือคนตาย แต่นี่หายใจแล้วไม่ได้ประโยชน์ในหัวใจเลย หายใจเฉพาะร่างกายนี้ หายใจเพื่อออกซิเจน

แต่หายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธด้วยสติสัมปัชชัญญะ นั้นคืออานาปานสติ นั้นคือพุทธานุสติ เรามีสติระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพทธเจ้าอยู่ตลอดเวลา แล้วถ้ามันเป็นจริงขึ้นมา เป็นหัวใจ เห็นไหม

นี่ไง เขาไปสังเวชนียสถานทั้ง ๔ ไปเพื่อระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรากำหนดพุทโธ หายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ เราจะได้เฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นๆ ที่มีชีวิตเลย เพราะมันเป็นพุทธะ พุทธะคือผู้ เราเข้าไปเห็นผู้รู้ของเราด้วยความจริงของเรา เห็นไหม นี่ขวัญและกำลังใจ มงคลชีวิต

ฉะนั้น เรายังทำของเราไม่ได้ เราก็ฝืนพยายามของเรา นี้คือเป้าหมายไง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระพุทธคือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมคือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรม พระสงฆ์คือสิ่งที่บรรลุธรรม

ฉะนั้น พระธรรม พระธรรมอันนี้ เราอยากได้สัจธรรมอันนี้ ถ้าเราอยากได้สัจธรรมอันนี้เป็นมงคลชีวิตของเรานะ ชีวิตนี้จะมีคุณค่า

วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา นี้เป็นวันสำคัญที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิด ตรัสรู้ และปรินิพพานในวันนี้ แต่เราเป็นชาวพุทธ สิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสร้างสมบุญญาธิการมา ๔ อสงไขย ๘ อสงไขย ๑๖ อสงไขย การค้นคว้า การมุมานะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจนได้เสวยวิมุตติสุข สุขแท้ๆ ในพระพุทธศาสนา สุขแท้ๆ ที่มันมีอยู่ในพระพุทธศาสนาเท่านั้น

หลวงตาท่านบอกว่า คนไม่มีอำนวจวาสนาไม่มีโอกาสนับถือศาสนาพุทธ ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่เป็น อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ตนต้องขวนขวาย ตนต้องกระทำ เพราะตนจะต้องเป็นผู้สิ้นกิเลสเอง ไม่มีการอ้อนวอน ไม่มีการร้องขอ ไม่มีการให้ใครทำให้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าชี้ทาง ชี้ทางให้เรากระทำ นี่พระพุทธศาสนา

เพราะเราเกิดเอง เกิดจากกรรมไง จิตที่มันทำมามันมีกรรมอยู่ในหัวใจนี้ไง มันมีเหตุ มันก็ต้องไปของมันไง แล้วเราพยายามประพฤติปฏิบัติขึ้นมา ชำระล้างจนให้มันสิ้นไปไง พอมันจบสิ้นไปแล้ว นิพพานเที่ยง ธรรมะในหัวใจนี้ประเสริฐ มีอยู่เฉพาะในพระพุทธศาสนา เพราะศาสนาไหนไม่มีมรรค ศาสนานั้นไม่มีผล

ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีเหตุและมีผล เราต้องทำเหตุนั้นให้สมบูรณ์ ถ้ามีเหตุแล้วผลมันจะตามมา ผลมันจะเป็นผลของเรานะ แล้วผลเกิดขึ้นมาแล้ว เห็นไหม อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เอวัง