เทศน์เช้า วันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๐
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต
ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
ตั้งใจฟังธรรมะเนาะ วันนี้วันสำคัญของชาติ เป็นวันแม่แห่งชาติ เรามาขวนขวายมาทำบุญกุศลกันเพราะอะไร เพราะวันนี้เป็นเครื่องหมายของการเกิด การเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย เกิดแก่เจ็บตายนี้เป็นหลักธรรมของพระพุทธศาสนา แต่ถ้าวันเกิดนะ วันแม่แห่งชาติ เพราะวันแม่แห่งชาติ เพราะแม่คุ้มครองดูแลชาติไง
ดูแลชาติ เราเกิดมาในชาตินี้ เวลาในชาติเรามีความขัดแย้ง เรามีแต่ความเดือดร้อน แต่ชาติร่มเย็นเป็นสุข พลเอกเปรมพูด จำมาจนป่านนี้ เราเป็นหนี้แผ่นดิน เราเป็นหนี้แผ่นดินไง แผ่นดินในการเกิด หนี้แผ่นดินนะ เกิดในประเทศอันสมควรไง แต่เวลาพระอรหันต์ของลูก เกิดจากพ่อจากแม่ พ่อแม่ให้การเกิดๆ ฉะนั้น ในพระพุทธศาสนาถึงบอกมีบุญมีคุณมาก พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก
วันนี้เป็นการเกิด เกิดมาคือสิ่งมีชีวิต สิ่งมีชีวิตพอเกิดมาแล้วมีปัญญามาก พ่อแม่เป็นเต่าล้านปี ไอ้เรานี่เป็นปัญญาชน นี่พ่อแม่เลี้ยงมาไง เวลาเด็กน้อยมันจะพูดเลย มันจะรำคาญมาก อาบน้ำร้อนมาก่อนๆ เขามีประสบการณ์ชีวิตนะ ประสบการณ์ชีวิตสำคัญมาก เวลาเรามีการศึกษามา ศึกษามามีความรู้ แต่ความรู้มาทำงานแล้ว ทำงานแล้วมันต้องใช้อยู่กับสังคม พออยู่กับสังคม มันต้องอะลุ่มอล่วย มันต้องมีสติปัญญา การใช้คนๆ ผู้ที่บริหาร การใช้คน การปกครองคนมันสำคัญมากนะ เพราะคนมันแตกต่างหลากหลาย
ลูกในบ้านเราก็เหมือนกัน ลูกว่าพ่อแม่ลำเอียงๆ พ่อแม่ก็ดู ลูกคนไหนมีจุดเด่นอย่างใด ลูกคนไหนมีความบกพร่องอย่างใด จะดูแลรักษาให้ทุกคนมีที่ยืนในสังคมไง ถ้าลูกประสบความสำเร็จ พ่อแม่จะมีความสุขไง พ่อแม่มีความสุขเพราะลูกประสบความสำเร็จในชีวิตเท่านั้นน่ะ พ่อแม่ไม่มีความสุขว่าลูกขนสมบัติมาให้หรอก พ่อแม่ก็ปัจจัย ๔ เท่านั้นน่ะ พ่อแม่ เห็นไหม
แล้วพอพ่อแม่ นี่การเกิด วันนี้วันสำคัญ การเกิด พอการเกิดขึ้นมา วันนี้วันแม่แห่งชาติๆ ใช่ เราก็มีพ่อมีแม่ในบ้านของเราเหมือนกัน แต่พ่อแม่ในบ้านของเราก็ดูแลครอบครัวของเรา วันแม่แห่งชาติๆ เขาดูแลประเทศชาตินะ ประเทศชาติอยู่ในสังคมโลกนะ สังคมโลกมีการต่อรอง มีการประชาสัมพันธ์กัน เราต้องมีแต่ความฉลาดทั้งนั้นน่ะ ถ้าผู้ที่ฉลาดๆ ดูสิ อาณาจักรทุกอาณาจักรที่ล่มสลายไปเพราะอะไร เพราะผู้นำที่อ่อนแอไง ผู้นำที่ว่าไม่รอบคอบ นี่ถ้าผู้นำ
ในวัชชีบุตร องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนแคว้นเล็กๆ แต่แคว้นเล็กๆ แต่เวลามาเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนไว้ ให้เคารพผู้ใหญ่ ให้เคารพบูชา ให้มีสภา ให้ประชุมสภาเป็นผู้ที่เป็นบัณฑิต ถ้าที่ไหนไม่มีบัณฑิต ที่นั่นไม่ถือว่าสภา มีการประชุมพร้อมเพรียงกัน อชาตศัตรูจะไปตี ตีอย่างไรก็ตีไม่แตก ต้องส่งวัสสการพราหมณ์เข้าไปยุไปแหย่ นี่ไปยุไปแหย่
แคว้นเล็กๆ แต่เขามีความสามัคคีกัน เขาเคารพผู้เฒ่าผู้แก่ ผู้เฒ่าผู้แก่เป็นผู้ที่ผ่านโลกมามาก รู้ถึงกลศึก รู้ถึงการหลอกล่อ รู้ไปหมด แล้วรู้ไปแล้ว แล้วเวลาประชุมกัน ไอ้คนเด็กๆ ก็แหม! รำคาญ อาบน้ำร้อนมาก่อนๆ รำคาญ แต่ความจริงประสบการณ์ชีวิตนะ ประสบการณ์ที่เขาเห็นมา เห็นอาณาจักรทุกอาณาจักรมันล่มสลายมาเพราะอะไรล่ะ เพราะว่าผู้นำที่อ่อนแอ เวลาพูดถึงของเรา อยุธยาๆ มันเสียเพราะอะไร เสียเพราะข้างในอ่อนแอไง ข้างในไม่สามัคคีกันไง นี่เวลาพูดถึงการเสียประเทศๆ เขาจะพูดถึงตอนว่า ขาดความสามัคคี ชิงดีชิงเด่นไง แล้วมันไม่ใช่เฉพาะอยุธยานะ มันทุกรัฐ ทุกรัฐถ้าผู้นำที่ดีนะ เขาจะเข้มแข็ง ผู้นำที่ดีนะ เขาจะพารัฐของเขาเข้มแข็ง แล้วเขาจะดูแลปกครองที่ดี
แต่มันเป็นเวรเป็นกรรม สภาคกรรมๆ เกิดร่วมสมัยกับใครล่ะ ถ้าเราเกิดร่วมสมัย เวลาผู้นำที่เข้มแข็งนะ อาณาจักรกว้างไกลเลย พอผู้นำที่อ่อนแอนะ โดนตัดไปเรื่อยๆ แล้วก็หมด แล้วเราเกิดในยุคใดล่ะ เกิดผู้นำที่เข้มแข็ง เรามีความสุขมีความสงบ เราประกอบสัมมาอาชีวะด้วยความสุขสบาย แต่ถ้าผู้นำที่อ่อนแอ โอ๋ย! เราระแวงไปหมด สมบัติจะไปซ่อนที่ไหน ขุดฝังดินไว้ ฝังไหไว้ ขุดไว้เลย เวลาไปแล้วเดี๋ยวมันมาขุดเอาไปเอง
นี่ก็เหมือนกัน นี่ไง ที่ว่าวันแม่แห่งชาติๆ คำว่า แห่งชาติ คุ้มครองดูแลทั้งประเทศนะ ถ้าคุ้มครองดูแลทั้งประเทศ มันต้องมีอำนาจวาสนาบารมี แต่คน คำว่า คนนะ มันก็มีการบกพร่องเป็นเรื่องธรรมดา คนทุกคนจะให้มีความดีไปทั้งหมด ไม่มีความบกพร่องเลย องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นศาสดาของเรานะ อาการ ๓๒ โอ้โฮ! สวยงามมาก พุทธวิสัยนะ พุทธลักษณะ แล้วจะสร้างบุญกุศลมา แล้วสร้างมา ๔ อสงไขย ๘ อสงไขย ๑๖ อสงไขย แต่เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเผยแผ่ธรรมๆ เวลาไปเจ้าลัทธิต่างๆ เขายึดครองไว้หมดแล้วไง มีชั้น มีวรรณะ มีร้อยแปด องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เสมอภาค ผู้หญิงก็บวชได้ ผู้ชายก็บวชได้ เวลาบวชมาเป็นพระแล้วไม่มีชนชั้น พระเราศีล ๒๒๗ เท่ากัน เสมอกัน เวลาเผยแผ่ไป มันไปทำลายลาภสักการะ ทำลายความเชื่อมั่นของเขา
ฉะนั้น คำว่า ทำลายๆ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยธรรมๆ ไม่ได้ทำลาย ด้วยเหตุด้วยผล ด้วยข้อเท็จจริงไง ทีนี้คนก็ศรัทธา ศรัทธาเพราะอะไร เพราะมันเป็นธรรม ดูสิ เราเกิดมาเป็นคน มีความเสมอภาค เราเกิดมาเป็นคน มีน้ำใจต่อกัน เราเกิดมาเป็นคน มีการดูแลกัน เราเกิดมาเป็นคนๆ มันมีแต่ความไว้วางใจกันน่ะ มันก็ดีไปหมด พอดีไปหมดนะ เขาก็ต้องทำลายๆ ฉะนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงโดนเรื่องอย่างนี้มาก เวลาท่านถึงพูดในพระไตรปิฎกนะ ภิกษุทั้งหลาย ถ้าพวกเธอโดนโลกธรรม โลกธรรมคือการติฉินนินทารุนแรง ให้ระลึกถึงเรา ระลึกถึงเรา เราโดนมากกว่านั้น
คำว่า โดนมากกว่านั้น ไม่มีใครโดนโลกธรรมรุนแรงเท่ากับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งๆ ที่เป็นศาสดา ทั้งๆ ที่เป็นพระอรหันต์ ทั้งๆ ที่เมตตารื้อสัตว์ขนสัตว์ ทั้งๆ ที่จะมากวาดมาต้อน แต่คนที่ไม่เห็นด้วยเขาโจมตี เขาทำลายนะ นี่พูดถึงว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นศาสดาของเรานะ แล้วเราเกิดเป็นมนุษย์ เป็นปัญญาชนต่างๆ มันก็มีความบกพร่องเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องธรรมดาทั้งนั้นน่ะ แต่ดูถึงส่วนรวมสิ ดูถึงความเป็นไปทางความเป็นอยู่ ไอ้นี่มันร่มเย็นเป็นสุข
แล้วเราดูสิ ก่อนหน้านั้นคนที่เกิดภายหลังก็ไม่เห็นใช่ไหม สมัยที่คอมมิวนิสต์ล่อประเทศไทยเต็มไปหมดเลย ยึดครอง ทำลาย ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ฆ่าทำลายกันทั้งนั้นเลย บ้านแตกสาแหรกขาด มีประเทศเราประเทศเดียวสุขสบาย คำว่า สุขสบาย มันก็เสียวใช่ไหม แต่ผู้นำที่ดีพาชาติรอดๆ นี่พูดถึงชาติรอด นี่คือการปกครอง เราถึงทำบุญกุศล นี่บุญกุศล เป็นหนี้ของแผ่นดิน เป็นหนี้แผ่นดิน เพราะแผ่นดินของเราสงบระงับ แผ่นดินของเรามีความสุขนะ
เกิด แก่ เจ็บ ตาย เราเกิดมาแล้วเราจะทำสัมมาอาชีวะของเรา เรามีการศึกษาของเรา เราโตมาแล้วดูแลพ่อแม่ของเรา ใครมีบุญมีคุณต่อเรา เรามีน้ำใจต่อเขา การมีน้ำใจต่อกัน สังคมร่มเย็นเป็นสุขนะ ใครทำคุณงามความดีกับเรา จำไว้ ใครทำอะไรที่บาดหมางนะ เราไม่รับรู้ แต่เขายังทำอยู่อย่างนั้นน่ะ มันเรื่องของเวรของกรรม ถ้าใครทำสิ่งใดที่ไม่ถูกใจเราสิ่งใด วางไว้ๆ เพราะเราไม่ทำตอบโต้ เราไม่ตอบโต้ ไม่ทำสิ่งใดทั้งสิ้น แต่มีปัญญานะ รู้ ไม่ใช่ขอนไม้ตายซาก ไม่รู้อะไรเลย รู้ แต่รู้ด้วยสติปัญญาไง แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมารไง
คำว่า แพ้เป็นพระ เราเท่าทันกิเลสของเราไง ถ้าเราโดนกระทบโดนกระเทือน เรามีความโกรธไหม เรากระทบกระเทือน เรามีความรู้สึกไหม มีทุกคนแหละ แต่เราเกิด แก่ เจ็บ ตาย เกิดมาแล้วไง การชราค่ำคร่าของร่างกาย ใครทำสิ่งใดเป็นเรื่องเวรเรื่องกรรม ถ้าเขาทำของเขาด้วยขาดสติของเขา เขาทำของเขา นั่นน่ะยกให้กรรมของเขา เราพยายามรักษาหัวใจของเรา เรารักษาหัวใจของเรา เรามีสติปัญญาขึ้นมา รักษาหัวใจ ๑.ไม่ทุกข์ ๒.ไม่เครียด ๓.ไม่มีอาฆาตมาดร้าย ๔.ไม่ต้องวางแผนไปทำลายเขา ให้อภัยเขาไป มันเป็นเวรเป็นกรรมของเขา เราจะทำคุณงามความดีๆ
หลวงตาท่านสอนประจำ โลกนี้จะดีจะชั่ว เรื่องของเขา เราจะทำคุณงามความดีกันว่ะ เราจะทำคุณงามความดีกันว่ะ ทำคุณงามความดีถวายใคร ทำคุณงามความดีถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำคุณงามความดีเพื่อพุทธะในหัวใจของเรา ทำคุณงามความดี นี่ไง เรื่องนั้นเรื่องของเขา ถ้าเราทำคุณงามความดีของเรา กลิ่นของศีลกลิ่นของธรรมหอมทวนลมใช่ไหม เราโดนกระทำขนาดไหน มีคนเขาเห็นทั้งนั้นน่ะ สังคมก็เห็น เจ้าหน้าที่ก็เห็น ถึงเวลาแล้วมันทำรุนแรงเกินไป เดี๋ยวเจ้าหน้าที่เขาก็จัดการของเขาเอง กฎหมายมันให้ผลของมัน เขาต้องติดคุกติดตารางของเขาไป คนเก่งๆ อยู่ในคุกหมดแหละ คนดีๆ มาบวชเป็นพระหมดเลย คนที่เสียสละหมดไง คนเก่งๆ อยู่ในคุกทั้งนั้นน่ะ แล้วเราจะไปแข่งดีกับเขาหรือ อยากเข้าคุกหรือ เราไม่ต้องการ แต่เราไม่ต้องการ เราจะมีธรรมะอะไรที่จะมาหล่อเลี้ยงหัวใจของเราล่ะ เราจะมีธรรมะอะไรทำให้หัวใจเราร่มเย็นล่ะ
เราเกิด แก่ เจ็บ ตาย องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนถึงการเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย แล้วที่จะไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตายไง เวลาไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตายก็ธรรมโอสถไง ธรรมโอสถมันอยู่ที่ไหนล่ะ มันก็อยู่ในตู้พระไตรปิฎกนี่ไง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมขึ้นมา สิ่งที่ตรัสรู้ธรรม เวลาจะสอนไง สอนต้องมีกิริยาใช่ไหม เวลาเขาจะซ่อมรถ เขาต้องมีเครื่องมือของเขาเพื่อจะเอาเครื่องนั้นออกมาซ่อมใช่ไหม
นี่ก็เหมือนกัน หัวใจเวลาจะรักษา มันต้องมีอะไรไปรักษา ศีล สมาธิ ปัญญาไง ถ้าไม่มีเครื่องมือไปรักษามัน เราจะไปรักษาอะไร หัวใจที่เป็นนามธรรมใครก็จับต้องไม่ได้ เวลาจับต้องไม่ได้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงธรรม แสดงธรรมถึงฆราวาส อนุปุพพิกถา ให้เขาเสียสละทาน การเสียสละทานมีน้ำใจต่อกัน ถ้ามีน้ำใจต่อกัน มันเสียสละมาจากไหน เสียสละมาจากหัวใจ ถ้าหัวใจมันตะหนี่ถี่เหนียว มันเสียสละไม่ได้ ของของเรา ของของเราเอามามันจะไปเก็บซ่อนไว้ เก็บซ่อนไว้ก็ไม่ได้ใช้ไม่ได้จ่าย เก็บซ่อนให้ตุ๊กแก ให้หนูมันเอาไปแทะ ตัวเองไม่ได้อะไรมาเลย ของของเรา ของของเราด้วยทิฏฐิมานะ ด้วยความเห็นผิดไง
แต่ถ้ามีสติปัญญา มันของของเราๆ เราหามาเป็นน้ำใจของเรา เป็นสติปัญญาของเรา เป็นน้ำพักน้ำแรงของเรา เราเสียสละเพื่อสังคม เสียสละเพื่อมนุษย์ เสียสละเพื่อต่างๆ นั่นน่ะบุญกุศลเกิดที่นั่นไง นี่ไง เวลาบวชขึ้นมา อนุปุพพิกถา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนให้เสียสละทาน เวลาเสียสละทานแล้วมันได้อะไรขึ้นมา เวลาทานขึ้นมา เวลาเขาเกิดบนสวรรค์ บนสวรรค์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ถือเนกขัมมะ ถือศีล พอถือศีล เวลาจิตมันควรแก่การงาน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงแสดงอริยสัจ แสดงอริยสัจคือทุกข์ไง แต่พวกเราจะเอาสุขไง บอกทุกข์นิยมๆ...ไม่ใช่
สัจจะนิยม ทุกข์คือความทนอยู่ไม่ได้ นั่งอยู่ก็ทุกข์ นอนนานๆ ก็ทุกข์ ทำอย่างไรก็ทุกข์ ทุกข์คือความทนอยู่ไม่ได้ เราทนอยู่ได้โดยกิริยาอันเดียวได้ไหม ไม่ได้ แต่ด้วยสัญชาตญาณ เราเคลื่อนไหวตลอดเวลาไง นี่ไง สิ่งที่ทุกข์คือความทนอยู่ไม่ได้ ทนอยู่ไม่ได้ คือสถานะของมนุษย์มันทนอยู่ไม่ได้ มันถึงเวลาต้องสิ้นไปๆ
เราเกิดเป็นมนุษย์ เกิด แก่ เราเกิดมาต้องชราคร่ำคร่า ชีวิตต้องสิ้นไป ถ้าสิ้นไป เราจะทำสิ่งใดให้เป็นประโยชน์กับเรา เราเกิดมาในประเทศอันสมควร ประเทศอันร่มเย็น วันแม่แห่งชาติๆ วันพ่อแห่งชาติ ท่านดูแลรักษามา มันเป็นโอกาสนะ ๗๐ ปี ๘๐ ปีนี้ประเทศไทยร่มเย็นมาก ต่อไปจะเป็นอย่างไรไม่รู้
ถ้าต่อไปนะ ถ้าผู้บริหารผู้จัดการท่านอยู่ในศีลในธรรมใช่ไหม ไอ้พวกเราก็ร่มเย็นเป็นสุขไปด้วยไง แต่เรื่องการแข่งขันๆ มันเรื่องธรรมดา มันเรื่องของโลก เรื่องธรรมดา เกิด แก่ เจ็บ ตาย เวลาชราคร่ำคร่า เกิดเป็นมนุษย์ มนุษย์ทำอะไร ทำหน้าที่การงานขึ้นมาหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง พ่อแม่ก็หาได้ คนพิการ คนชราภาพ เขาก็มีเบี้ยยังชีพ เขาทำให้ได้ทั้งนั้นน่ะ แต่หัวใจๆ หัวใจนี้ใครจะเลี้ยงมัน หัวใจนี้ใครจะดูแลมัน พระพุทธศาสนาสอนลงที่นี่ไง ถ้าพระพุทธศาสนาสอนลงที่นี่ไง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนเรื่องนามธรรม นามธรรมในหัวใจ เห็นไหม ถ้าในหัวใจขึ้นมาทาน ศีล ภาวนา มาวัดมาวากันมาภาวนา พระพุทธศาสนาสอนที่นี่ ไม่ต้องเชื่อใครทั้งสิ้น
เวลาลัทธิศาสนาอื่น เชื่อพระเจ้า ให้พระเจ้าไปตัดสิน พระเจ้าจะมาตัดสินโลก แล้วตายไปแล้วก็รอให้พระเจ้ามาตัดสิน ไอ้ของเรามันจะตัดสินเดี๋ยวนี้ไง เวลาทุกข์ ทุกข์เดี๋ยวนี้ไง ถ้าเวลาพิจารณาไปแล้วมีศีล มีสมาธิ มีปัญญา ถ้ามันตัดกิเลส มันบรรลุธรรมเดี๋ยวนี้ไง มันจะเอาพระเจ้าที่ไหนมาตัดสิน ศีล สมาธิ ปัญญาของเราตัดสินที่นี่ เดี๋ยวนี้ ถ้าเดี๋ยวนี้มันอยู่ที่ไหนล่ะ
นี่ไง เราถึงมาทำบุญกุศลกันไง ทำบุญกุศลให้หัวใจมันผ่องแผ้ว ทำหัวใจให้มันคิดเป็นไง ถ้าหัวใจมันคิดเป็นนะ มันแสวงหานะ มันอยากกระทำนะ ถ้าหัวใจมันคิดไม่เป็นนะ มนุษย์ มนุษย์เพราะมีศีลมีธรรม มนุษย์ถึงต่างจากสัตว์ สัตว์มันก็รักลูกรักครอบครัวมันนะ ดูเสือ ดูสิงโตสิ เวลามันมีลูก มันต้องปกป้องลูกมันนะ แล้วมันก็ไปล่า ล่าเหยื่อมาเพื่อให้ลูกมันกิน เห็นไหม มันไปฆ่าชีวิตหนึ่งเพื่อเอาชีวิตนั้นมาเพื่อชีวิตของลูกๆ มันไง นี่นักล่า
สัตว์มันก็รักครอบครัวของมัน รักลูกของมัน มันรักของมันทั้งนั้นน่ะ แต่มนุษย์มีศีลมีธรรม มนุษย์ต่างจากสัตว์ ต่างเพราะศีลเพราะธรรมไง แล้วมนุษย์มีสมองนะ มนุษย์สามารถจะเอาตัวเราไว้ให้ได้นะ ดูสิ เขาสนุกเพลิดเพลินไป ที่ไหนมีมหรสพสมโภช ไปที่นั่น นักเลงเที่ยวกลางคืน นักเลงการพนัน นักเลงทั้งนั้นน่ะ แต่เรามีศีล พอมีศีล โอ้โฮ! จืดชืด ไม่อยากไปหรอกสวรรค์ ว่างเปล่า ไปนรกดีกว่า แน่นเอี๊ยดเลย มันจะลงนรกกันทั้งนั้นน่ะ นรกทั้งในบ้านไง ติดการพนันนะ ไฟไหม้บ้านมันยังเหลือนะ ติดการพนันมันขายหมดเลย ติดทุกอย่าง ติดทางโลก
ถ้ามีศีลขึ้นมาเราไปติดอะไร ร่างกายมันต้องการอย่างนั้นหรือ เราโตมา พ่อแม่เลี้ยงเราด้วยอะไร พ่อแม่เลี้ยงเรามาด้วยศีลด้วยธรรมทั้งนั้นน่ะ พ่อแม่สอนมาตลอด ของเขาอย่าไปลักนะ มีสิ่งใด ถ้ามีเพื่อน เราเจือจานเขานะ เราต้องคอยดูแลเพื่อนที่อ่อนแอกว่านะ ถ้าเราเติบโตขึ้นมา พ่อแม่ก็สอนดีๆ ทั้งนั้นน่ะ นี่ไง ถ้ามันมีสติปัญญา เราโตขึ้นมาเป็นตัวเราเองแล้วแหละ พอตัวเราเอง มันสติปัญญาขึ้นมา แล้วหัวใจเราล่ะ หัวใจปล่อยมันทิ้งไปใช่ไหม เวลาปรารถนาความสุขๆ ก็แสวงหากันความสุข ความสุขตะครุบเงาไง มันเป็นอามิสทั้งนั้นน่ะ สุขจากการเสพ สุขจากการแสวงหา
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนถึงสุขอื่นใดเท่ากับจิตสงบไม่มี จิตที่มันสงบระงับมันไม่ต้องการสิ่งใดเลย ต้องการลมหายใจ หายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ ถ้าใครมีสติปัญญาสามารถรั้งไว้ได้ สามารถรั้งไว้ได้ ถ้าจิตมันสงบเข้ามา สุขอื่นใดเท่ากับจิตสงบไม่มี สุขอื่นใดเท่ากับจิตสงบไม่มี ในโลกนี้ไม่มี ซื้อขายไม่มี ที่ไหนไม่มีการซื้อขาย สำนักปฏิบัติไหนก็ให้ไม่ได้ สำนักปฏิบัติไหนเขาเก็บตังค์ทั้งนั้นน่ะ แต่ไปวัดปฏิบัติไม่เสียตังค์ เอาหัวใจมาๆ
เวลาปฏิบัติ เอาร่างกายมา หัวใจทิ้งไว้บ้าน มานั่งอยู่วัดนะ คิดร้อยแปดเลย โอ้โฮ! ฉันจะได้บุญเยอะๆ ได้บุญ ในใจมีแต่ขยะ เวลามาปฏิบัติเอาหัวใจมาด้วย ร่างกายมันมาแล้ว ด้วยสติด้วยปัญญาพยายามบังคับมันมา พอบังคับมันมาแล้ว พอเรามานั่งภาวนา เอาหัวใจไว้ในร่างกายนี้ อย่าให้มันออกไป ถ้าหัวใจไว้ในร่างกายนี้ นี่สติปัญญา นี่เครื่องมือไง เครื่องมือแสวงหาไง
นี่ไง ถ้าวันนี้วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันสำคัญของชาติ แต่ของเรา เราก็มีความสำคัญในชีวิตเหมือนกัน ชีวิตเราก็สำคัญ เพราะเราเกิดมาด้วยอำนาจวาสนานะ อำนาจวาสนาของเราเกิดมาเป็นประชาชนของชาติไทย แล้วชาติไทยโบราณนับถือพระพุทธศาสนา เวลาวันสำคัญขึ้นมา เราก็มาทำบุญกุศลกันนี่ไง ทำบุญกุศล ฟังธรรมๆ ฟังธรรมตอกย้ำเข้ามาที่นี่ไง
ร่างกายได้ทำแล้ว สิ่งที่เสียสละ ได้เสียสละแล้ว เสียสละโดยเจตนา โดยสามัญสำนึกของมนุษย์ แต่เวลาปฏิบัติเข้าไปแล้วมันเข้าไปสู่ฐีติจิต มันเข้าไปสู่จิตเดิมแท้ที่วิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ได้ วิทยาศาสตร์มันยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าผีมีหรือไม่มี วิญญาณมีหรือไม่มี มันบอกเป็นพลังงาน เป็นไฟฟ้า วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้อย่างนั้นน่ะ ด้วยอุโมงค์ ด้วยจับ
แต่หลับตาสิ หายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธสิ แล้วเราจะไปจับค้นเอง ปัจจัตตัง สันทิฏฐิโก เราเป็นคนจับต้องเอง เราเป็นคนทุกข์คนยากเอง เราละไม่ได้เอง ใครจะละให้ เราเป็นคนทุกข์คนยากเอง เราเป็นคนเห็นเอง ถ้าเราไม่เห็นเอง เราจะแก้ได้อย่างไร สิ่งที่เป็นหัวใจของเราที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ ถ้าเราไม่รู้ไม่เห็น มันจะละได้อย่างไร สิ่งที่มันมืดมันบอด เพราะมันมืดมันบอดมันถึงเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ ถึงมานั่งอยู่นี่ไง แล้วนั่งอยู่นี่มีสติปัญญาขึ้นมาแล้วทำไมไม่พิสูจน์ นี่ไง ไหนว่าเป็นคนมีปัญญา ไหนว่ารักตัว เวลาชี้ไปข้างนอก ผิดหมดล่ะ เราเป็นผู้วิเศษ แต่ทำอะไรไม่ได้เลย ผู้วิเศษก็ยังตะครุบเงาไง
แต่ถ้าเอาจริงที่นี่นะ ผลของที่โยมทำ สิ่งที่เสียสละทาน มันก็เป็นบุญกุศลสมบูรณ์ ปฏิคาหกสมบูรณ์โดยการเสียสละทาน ทาน ศีล ภาวนา เสียสละทานแล้วเรามีความปกติของใจ มีรั้วรอบขอบชิดดูแลหัวใจของเรา สิ่งที่เราบังคับไว้ ดูแลไว้ เราเป็นผู้ชนะ แต่ถ้ากิเลสบอกมันเป็นผู้แพ้ คนอื่นเขามีแต่เหิมเกริม คนอื่นเขามีแต่ทำตามความพอใจของเขา ไอ้เราเป็นผู้ดี เราเป็นคนขาดทุน เป็นคนเสียเปรียบ นี่ไง เวลากิเลสมันคิด คิดอย่างนั้นไง แต่ถ้าเป็นปัญญานะ เราผู้ชนะ แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร เราเป็นผู้ประเสริฐ เราเป็นผู้ชนะกิเลสของเรา
ศีล สมาธิ สมาธิฝึกหัดๆ ขึ้นมา มันจะเกิดในใจของเราไง นี่ธรรมะเป็นอย่างนี้ เราเป็นผู้ดี สุขสงบในใจของเรา เราไม่ใช่คนถ่อย เที่ยวทำลายเขาไปทั่ว ยึดทรัพย์สมบัติของเขาไปแล้วว่ามีความสุข เราไม่ใช่คนพาลอย่างนั้น เราเป็นบัณฑิตไง บัณฑิตเราจะดูแลหัวใจของเรา เราไม่ใช่คนพาล คนพาลเที่ยวเหยียบย่ำทำลายคนอื่นไง เราเป็นบัณฑิต เราจะเหยียบย่ำกิเลสความคิดชั่ว ความคิดชั่ว ความคิดไม่ดี ความคิดที่ให้สร้างเวรสร้างกรรม เราจะกำราบปราบปรามมันด้วยมรรคด้วยผลไง เพื่อประโยชน์กับเราไง แล้วถ้าเพื่อประโยชน์กับเรา นี่หัวใจของเรา แล้วใครเป็นคนดูแลรักษา ก็สติสัมปชัญญะที่เกิดจากใจนั่นแหละดูแลรักษาหัวใจนั้น แล้วถ้าหัวใจนั้นเป็นธรรมขึ้นมา เราจะมีความจริงในใจของเราขึ้นมา
แล้วคนที่มีอย่างนี้ ดูหลวงตาเวลาท่านบรรลุธรรม กราบแล้วกราบเล่าๆ ถ้าใครถึงจุดนั้นแล้วจะกราบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทำไมมันสุดยอดขนาดนั้น พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทำไมมันเยี่ยมยอดขนาดนั้น แต่ตอนนี้ไม่เห็น ตอนนี้มีแต่ทุกข์ไง ถ้าเข้าไปรู้ไปเห็นขึ้นมา มันจะรำพึงขึ้นมากลางหัวใจเลย ทำไมมันสุดยอดขนาดนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ารู้มาได้อย่างไร องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอามาเผื่อแผ่เราได้อย่างไร
แต่ถ้าเรายังทำไม่ได้ ไม่มี โกหก เขียนเสือให้วัวกลัว ไม่มีทั้งสิ้น โกหกทั้งนั้น นี่เวลากิเลสมันยุมันแหย่ทำให้คนเสียคนไง แต่ถ้าธรรมะขึ้นมานะ มันจะปลุกปลอบหัวใจเราขึ้นมาให้รื่นเริง อาจหาญ ทะนงตน จะเผชิญหน้ากับกิเลสตัณหาความทะยานอยากในใจของตน
กิเลสตัณหาความทะยานอยากเป็นพญามาร ครอบครัวของมาร ครอบครองอาณาจักรคือหัวใจของเรา มีธรรมะขึ้นมาต่อต้านทำลายมัน มันจะเป็นประโยชน์กับเรา แล้วมันก็จะสรุปลงได้ว่า ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย
พระพุทธศาสนา เห็นไหม วันสำคัญของชาติ วันเกิด วันสิ่งมีชีวิต เกิด แก่ เจ็บ ตาย พระพุทธศาสนาสอนถึงสิ้นสุดแห่งทุกข์ ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย อยู่ที่ความจริงจังของเรา อยู่ที่ความแน่จริงในใจของเรา เพื่อพิสูจน์ความจริงอันนี้ขึ้นมาในใจของเรา เอวัง