เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๗ เม.ย. ๒๕๖๑

 

เทศน์เช้า วันที่ ๗ เมษายน ๒๕๖๑
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

 

ฟังธรรมะนะ ไอ้เมื่อกี้นั่นอารมณ์บูด ธรรมะนี้เป็นธรรมโอสถ ธรรมโอสถนะ มันมาชโลมหัวใจของคนนะ เหมือนฝนตก เวลาฝนตกแดดออกนี่นะ มันเป็นประโยชน์กับโลกมากๆ เลย ถ้าไม่มีแดดนะ พืชพรรณธัญญาหารเราไม่มีจะกิน เวลาจะกิน เพราะมันสงเคราะห์อาหารของมันนะ ฝนตกแดดออกจะมีประโยชน์มากเลย

 

ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านะ ไปทั่ว ๓ แดนโลกธาตุ อย่าว่าแต่โลกธาตุนี้เลยนะ ๓ แดนโลกธาตุ เทวดา อินทร์ พรหมยังต้องมาฟังเทศน์องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอินทร์นะ ยังมาใส่บาตรพระกัสสปะเพื่อเอาบุญกุศลนะ

 

ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสุดยอดมาก สุดยอดมาก แล้วมันเป็นประโยชน์มาก เป็นประโยชน์ตั้งแต่เด็กในครรภ์ เป็นประโยชน์ตั้งแต่ทารกน้อย เป็นประโยชน์กับทุกๆ คนเลยนะ ถ้าเป็นธรรมๆ นะ เพราะอะไร เพราะธรรมะมันรู้จักผิดชอบชั่วดีไง

 

ถ้าพ่อแม่ที่ดีเลี้ยงลูกที่ดีนะ ดูแลดีนะ ลูกที่ดีเลี้ยงง่าย ลูกที่ดีนะ สังคมเป็นที่พึ่งพาอาศัย สังคมที่มีน้ำใจต่อกันนะ นักบวชบวชแล้วประพฤติปฏิบัติขึ้นมาเพื่อชำระกิเลสในหัวใจของตนนะ เวลาชำระกิเลสในหัวใจของตน

 

นั่นน่ะบุพเพนิวาสานุสติญาณ รู้ว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอดีตชาติเป็นพระเวสสันดร เป็นต่างๆ ทำไมถึงมาเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กว่าจะเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สร้างสมบุญญาธิการมาเป็นพระโพธิสัตว์มามากน้อยแค่ไหน ถ้ามากน้อยแค่ไหน ใครๆ ก็เกิด ทุกคนเกิดเป็นมนุษย์ทุกๆ คน ใครๆ ก็เป็นพระพุทธเจ้าได้น่ะหมดสิ

 

มันเป็นพระพุทธเจ้าไปไม่ได้ เพราะไม่มีบุญญาบารมีขนาดนั้นที่จะทำตนให้เป็นพระพุทธเจ้าได้ เวลาเป็นพระพุทธเจ้าขึ้นมาแล้ว พระพุทธเจ้าทำลายอวิชชาในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสวยวิมุตติสุขๆ สุขอันนั้นมันเลอเลิศเหนือโลกเหนือสงสาร เหนือวัฏฏะ มันเหนือวัฏฏะ มันเหนือวัฏฏะนะ ธรรมะมันมีคุณค่ามากมายมหาศาลขนาดนั้นนะ

 

แต่เวลาเราใช้ธรรมะ เวลามันพูดนะ อิทปฺปจฺจยตา มันก็เป็นเช่นนั้นเอง กูจะโกงมึงน่ะ มันก็เป็นเช่นนั้นเองให้กูเหยียบย่ำหัวมึงน่ะ มันจะเป็นเช่นนั้นเองว่ากูจะเบ่งกล้ามน่ะ

 

ธรรมะมันควรจะเป็นประโยชน์ไง มันมาเสริมกิเลสให้คนถือเนื้อถือตัว มาส่งเสริมทิฏฐิมานะของคน ทั้งๆ ที่ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อมากำราบทิฏฐิมานะของตน เพื่อมาเข่นขนาบทิฏฐิมานะของตน มาข่มขนาบกิเลสตัณหาความทะยานอยากในใจของตน ไปวัดๆ ไปวัดหัวใจ ข้อวัตรๆ ข้อวัตรของใจ ธรรมะของหลวงปู่ฝั้น ข้อวัตรๆ วัตรปฏิบัติๆ สิ่งที่วัตรปฏิบัติก็ไปวัดหัวใจของตนๆ หัวใจนี้สำคัญมาก ถ้าหัวใจสำคัญมาก

 

คนเรานะ ถ้ามันรู้จักผิดชอบชั่วดี แค่รู้จักผิดชอบชั่วดีนั่นแหละ แล้วความดีๆ ความดีที่มันจะมีมากไปกว่านี้ยังมีมหาศาล ความดีที่มีมากไปกว่านี้นะ

 

พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก เราเลี้ยงดูพ่อแม่ของเรามา พ่อแม่เลี้ยงดูเรามา แล้วเติบโตขึ้นมา เราจะเลี้ยงดูแลพ่อแม่ของเรา เห็นไหม พ่อแม่เป็นสัมมาทิฏฐิ เลี้ยงง่าย ดูแลง่าย เวลาพ่อแม่เป็นมิจฉาทิฏฐิ มันจะมีปัญหากันในบ้านไง ในบ้านนะ ไอ้คนนั้นก็จะไป ไอ้คนนี้ก็จะมา มันมีความขัดแย้งกัน นี่มาแล้วไง มันมาแล้ว

 

กรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กัน เวลากรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กัน เวลาเกิดมา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บุพเพนิวาสานุสติญาณ จุตูปปาตญาณ อาสวักขยญาณ มาจากไหนๆ มาตั้งแต่อดีตชาติ แล้วอดีตชาติ กรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กัน ใครบ้างไม่เคยทำเวรทำกรรมต่อกันมา

 

เวลาย้อนอดีตชาติไปนะ เวลาผู้ที่ประพฤติปฏิบัติได้จริงนะ เวลาย้อนอดีตชาติไป มันเป็นข้อเท็จจริงในใจของผู้ที่ประพฤติปฏิบัติ แต่เวลาหลวงตาท่านพูดนะ “ตบปากๆ” ท่านไม่ให้พูดนะ ท่านให้เก็บไว้ในใจนะ เพราะว่าใครจะรู้เห็นอย่างไรมันจริงหรือไม่

 

แต่ถ้าเป็นความจริงๆ มันย้อนอดีตชาติไป คนมันจะเห็นนะ พระอรหันต์ต้องสร้างบุญกุศลมาแสนกัป ต้องทำคุณงามความดีมาต่อเนื่องๆ จนจิตใจมันเป็นสิ่งที่ดี จิตใจมันคิดแต่เรื่องดีงาม จิตใจมันคิดแต่เสียสละ ถ้าจิตใจอย่างนั้นมีโอกาสประพฤติปฏิบัติ

 

ถ้าจิตใจคนเห็นแก่ตัว จิตใจคนที่คับแคบ จิตใจคนที่เอาชนะคะคานคนอื่น มันมีกิเลสตัณหาทั้งนั้นน่ะ มันไปกว้านเอามาเป็นสมบัติของมัน เห็นไหม บุพเพนิวาสานุสติญาณ ถ้ามันมีอดีตชาติมาอย่างนั้น ถ้าอดีตชาติมา เวรกรรมไง

 

ฉะนั้น พอถึงที่สุดองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนมาที่ปัจจุบันนี้ เวลาปัจจุบันนี้นะ มันมีเวรมีกรรมต่อกันมา ถ้ามันมีเวรมีกรรมต่อกันมา เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ถ้าเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ครูบาอาจารย์ที่ท่านมีเวรมีกรรมท่านถึงยอมรับสภาพนั้นไง

 

คำว่า “ยอมรับสภาพนั้น” มันไม่ใช่ยอมรับเพราะยอมจำนนนะ ยอมรับเพราะว่ามันเป็นความจริงอย่างนั้น มันเป็นความจริงอย่างนั้น เราเป็นคนสร้างมาเอง เราเป็นคนทำเอง ในประวัติหลวงปู่ชอบ ประวัติของครูบาอาจารย์ท่านยอมรับๆ ทั้งนั้นน่ะ

 

คำว่า “ยอมรับ” ไม่ใช่ยอมรับเพราะยอมจำนน ยอมรับเพราะความเป็นจริง ยอมรับเพราะข้อเท็จจริง แต่ใครจะไปยอมจำนน ใครไปยอมอะไร ไม่มีใครยอมทั้งนั้นน่ะ แต่ในเมื่อมันเป็นสัจธรรม มันเป็นสัจธรรมใช่ไหม ในเมื่อเป็นสัจธรรม เราเชื่อกรรม กรรมการกระทำมาแล้วเราจะปฏิเสธได้อย่างไร

 

แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนในปัจจุบันนี้ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร เราไม่จองเวรจองกรรมใครทั้งสิ้น แต่เหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้น เหตุการณ์ที่มันเป็นสาธารณะ ใครจะมาเหยียบย่ำใคร ผู้ที่เป็นหัวหน้าไง

 

ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านะ ต้องยกย่องสรรเสริญคนที่ควรยกย่อง คนที่ทำดีงาม คนที่ทำถูกต้องตามกฎกติกา คนคนนั้นต้องยกย่อง

 

ควรกดคนที่ควรกด คนที่ระราน คนที่ทำแตกแยก คนที่เห็นแก่ตัว ต้องกด กดคนที่ควรกด ทำโทษคนที่ควรทำโทษ ต้องยกย่องเชิดชูคนที่ทำความดี

 

แต่เราทำความดีกัน เราไม่กล้า เพราะทำความดีแล้วมันไปขัดแย้งกับพวกมาร แล้ววิชามารๆ มันเยอะ เราอยู่กับโลกมันมีแต่วิชามาร ถ้าวิชามาร คนเราต้องมีสติปัญญาเอาตัวเราให้หลุดพ้นออกไปจากการจองล้างจองผลาญของพวกมาร ถ้าพวกมารขึ้นมา เอ็งอย่าไปช่วยนะ เอ็งอย่าเชิดชูนะ เดี๋ยวกูล่อมึงนะ เดี๋ยวกูล่อ

 

ยอมจำนนไปหมดเลย เพราะยอมจำนนไปหมดอย่างนี้ นี่จิตใจที่อ่อนแอไง จิตใจที่ไม่ได้สร้างบุญกุศลมามากไง จิตใจที่อ่อนแอ จิตใจที่ไม่ได้สร้างบุญกุศลมามาก มันไม่มีขันติธรรมไง มันไม่มีจุดยืนของมันไง

 

สิ่งที่เป็นคุณงามความดี ผิดชอบชั่วดีเราก็รู้อยู่แก่ใจ คนไหนทำดี เราก็รู้ คนไหนทำชั่ว เราก็รู้ ถ้าคนทำความดีทำไมไม่ปกป้องเขา ไม่เชิดชูเขา ไม่ดูแลเขา เวลาคนทำชั่วๆ เวลาสอนกันนะ ธรรมะนะ อย่าไปยกมือไหว้คนชั่วนะ...มันเดินมามันมีตังค์ ยกมือไหว้มันเลย ยกมือไหว้แป๋เลย นี่ไง จิตใจที่มันอ่อนแอไง

 

จิตใจอย่างนี้เขามาวัดกันที่การภาวนา ถ้าจิตใจที่มันเข้มแข็ง ถ้ามันทำสิ่งใดได้นะ เวลาภาวนา เวลาเดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา มันจะทุกข์มันจะยากขนาดไหนนะ มันจะมีจุดยืนของมัน ถ้ามันจะมีความกดดันในหัวใจขนาดไหน มันจะต่อสู้กับความคิดในหัวใจของมันได้

 

แต่คนที่มันอ่อนแอ อ่อนไหวไปกับโลก เวลามันภาวนาขึ้นมา ที่นั่นก็จะดี ที่นี่ก็จะดี มันจะชักไปข้างนอกหมด เวลาทำอยู่ปัจจุบันนี้ ปัจจุบันนี้เอ็งเดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา ถ้าเอ็งทำดี เอ็งจะได้ดีในปัจจุบันนี้นะ ถ้ามันสงบมันก็สงบที่นี่นะ ถ้ามันเกิดปัญญามันก็เกิดปัญญาในหัวใจดวงนี้นะ

 

แต่กิเลสมันบอกว่าที่นู่นจะดีกว่า คำว่า “ดีกว่า” คืออนาคต ถ้าลองจิตใจมันคิดไปอนาคตแล้ว ปัจจุบันมันอยู่ไหน เพราะอะไร เพราะปัจจุบันนี้มันทุกข์มันยากไง เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนามันลงไม่ได้ไง มันส่งไปอนาคตแล้วนะ คือว่ามันจะมาหลอกไง มันจะมาหลอกให้การกระทำนั้นล้มเหลว มันจะหลอกให้เราเลิกจากปัจจุบันนี้ไง ทั้งที่ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนที่ปัจจุบันนี้ไง ถ้าปัจจุบันนี้เข้มแข็ง ใครมีความสามารถ มีความอดทนนะ ขันติธรรมๆ นี่ไง สัมโพชฌงค์ไง อินทรีย์แก่กล้าไง

 

ปัญญาอินทรีย์ สตินทรีย์ สติแก่กล้า ปัญญาแก่กล้า ถ้ามีสัมโพชฌงค์ มันมีวิริยะ มีการวิเคราะห์วิจัย วิเคราะห์วิจัยในสัจธรรมที่มันเกิดขึ้น ในสิ่งที่มันเกิดขึ้นในหัวใจนี้ที่มันเป็นสิ่งที่เร่าร้อน ในสิ่งที่มันเกิดขึ้นที่เป็นคุณงามความดีที่ฝนตกฟ้าร้อง สิ่งที่ดีงาม มันก็วิเคราะห์วิจัยเพื่อประโยชน์ไง ฝนตกฟ้าร้องขึ้นมา ชาวไร่ชาวนาเขาได้ประโยชน์นะ ไอ้คนทำธุรกิจเขาไม่ได้ประโยชน์ของเขา ถ้าทำธุรกิจ เขาต้องการให้มันร่มรื่นเพื่อทำธุรกิจของเขา ในการฝนตกฟ้าร้องมันก็มีการขัดแย้งกันในวิชาชีพของคน วิชาชีพของคน เราจะเลือกใช้ในฤดูกาลอย่างไร

 

ถ้าคนเขามีสติปัญญาของเขา ถ้าเราบอกว่า ไม่ให้ฝนตกเลย ไม่ให้ฟ้าร้องเลย เราจะทำแต่ธุรกิจของเรา ข้าวปลาอาหารราคามันก็จะสูงขึ้น โรคภัยไข้เจ็บมันก็จะมา คนเราก็จะตายหมด ถึงที่สุดแล้วมันก็ต้องมีปัจจัยเครื่องอาศัยใช่ไหม ถ้าเราแบ่งปันว่า ถึงฤดูกาลเขา เขาควรทำพืชไร่ขึ้นมาเพื่อเก็บไว้ มันก็เป็นอาหารของเราด้วยกัน นี่ถ้ามันคิดของมัน ถ้าคิดเป็นๆ ถ้ามันมีปัญญาขึ้นมา มีคุณธรรมขึ้นมาในหัวใจขึ้นมา ถ้ารู้จักผิดชอบชั่วดีไง สิ่งใดควรก็ควรทำ ทำแต่สิ่งที่ดีงามๆ ทั้งนั้นน่ะ

 

ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสุดยอดๆๆ สุดยอดจริงๆ นะ แล้วหลวงตาท่านพูดประจำ เหมือนห้างสรรพสินค้า ใครจะเข้าไปหยิบจับได้มากน้อยแค่ไหน

 

ไอ้พวกเราชาวพุทธตากแอร์ ไปเดินในห้างแล้วก็กลับ ไปตากแอร์กันเท่านั้นน่ะ ที่ไหนเฮก็เฮไปกับเขา ไปตากแอร์ มันเย็นดี นี่ก็เหมือนกัน วัดไหนเขามีส่งเสริมขึ้นมา โฆษณาชวนเชื่อ ไปแล้ว

 

นี่พูดถึงกรรมๆ เวลาพูดถึงเรื่องกรรมนะ กรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กันนะ มันไม่ใช่ความรู้สึกนึกคิด แล้วเวลาคนที่ไม่เชื่อพระพุทธศาสนาก็เขียนว่า นรกสวรรค์เอามาขู่กัน เอามากรรโชกทรัพย์กัน

 

มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ นะ คำว่า “จริงๆ” หมายความว่า พระที่เอาเรื่องนี้มาขู่เข็ญ เราเห็นมาเยอะ มีคนมาเล่าให้ฟังเยอะ วิชาที่จะหาเงินได้เลย โดนของ ไม่ปกติ ต้องมาแก้เวรแก้กรรม

 

เรื่องอย่างนี้มันจะมาแก้อะไรกัน เรามีสติปัญญาของเราไง มีสติปัญญา เจ็บไข้ได้ป่วยก็ไปโรงพยาบาล ถ้ามีปัญหาขึ้นมา ถ้ามันเป็นจริงขึ้นมาก็ฟื้นสติขึ้นมา ธรรมโอสถ ธรรมโอสถเอามาแก้กิเลส กิเลสคือพญามารในหัวใจของคน ถ้าหัวใจของคนนะ มันเป็นไปอย่างนั้นไง

 

เวลาเราพยายามจะให้คนเราให้มีจุดยืน อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ปัจจัตตัง สันทิฏฐิโก ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าไปสู่ในจิตใจของสัตว์โลกไง ถ้าจิตใจของสัตว์โลก ถ้ามีคุณธรรมขึ้นมา สัตว์โลก คนคนนั้นมันจะเป็นศาสนทายาท เป็นธรรมทายาท เป็นธรรมทายาท เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร เป็นที่ให้คนพึ่งพาอาศัย ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอย่างนั้นไง

 

นี่ธรรมโอสถ เวลาอย่างนั้นว่า อู๋ย! โดนของ ต้องใช้สมาบัติ โอ๋ย! ต้องแก้กรรม...บ้าบอคอแตก เพราะอะไร เพราะครูบาอาจารย์นะ ถ้าสิ่งที่เป็นมันก็เป็นกรรมของเขา เป็นเพราะสติปัญญาเขาอ่อนแอ ให้คนอื่นครอบงำ ให้คนอื่นหาประโยชน์ ชีวิตเราทั้งชีวิตต้องให้คนอื่นหาประโยชน์ใช่ไหม

 

เราเกิดมาเป็นพระสงบ ถ้ามันจะโดนของ มันจะตายตรงนี้ก็พระสงบตายไปมันจะเป็นอะไรไป ถ้าเราจะเป็นจะตายก็เราตายคนเดียว ไม่ต้องให้คนอื่นมาวุ่นวาย

 

นี่ก็เหมือนกัน พอโดนของ เดือดร้อนไปทั้งครอบครัว เดือดร้อนกันไปหมด ฉันจะเป็นจะตาย คนนั้นต้องคุ้มครอง คนนั้นต้องดูแล คนนั้นต้องช่วยเหลือ

 

แต่ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นี่ไง อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ถ้าพระสงบโดนของก็ให้พระสงบตายไปเดี๋ยวนี้เลยก็จบ นี่ไง ง่ายๆ

 

แต่ถ้ามันมีสติปัญญา ของอะไร ศีลคุ้มครองไง ผู้ใดปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ธรรมะจะคุ้มครองสัตว์โลก ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะปกป้องคุ้มครองดูแลหัวใจของคนที่เข้มแข็ง ผู้มีศีลมีธรรม

 

มีศีล ให้มันปล่อยเข้ามา ของ ให้มันปล่อยเข้ามา ศีล ๕ คุ้มครองดูแลได้ ศีลคือความปกติของใจ ถ้าใจมันปกติ ใจมันเข้มแข็ง ใครมันจะยิงอะไรเข้ามา ยิงไม่เข้า ถ้ายิงไม่เข้า ฟันไม่ออก ยิงไม่เข้า เพราะฟันมันเหยิน ยิงไม่เข้า ฟันก็ฟันไม่ออก นี่ไง ถ้าจิตมันสงบนะ ผู้ใดปฏิบัติธรรม ธรรมะจะคุ้มครองผู้นั้นไง ผู้ที่มีศีล มีความปกติของใจ ถ้าใจมันเป็นปกติ ใจมันคุ้มครองดูแลของมัน อะไรจะเข้าไปหามันได้

 

บ้านของเรา เราได้ดูแลดีแล้ว เห็นไหม เวลาคาถาขอฝน ฝนจงตกมาเถิด ที่มุงที่บังของสมณะได้คุ้มครองดีแล้ว ตกมาเถิด นี่ก็เหมือนกัน ใจของเราที่มีศีลมีธรรมคุ้มครองดีแล้ว ของส่งมาเถิด ส่งมาเลย นี่พูดถึงถ้ามันเข้มแข็งอย่างนี้มันก็จบใช่ไหม ถ้าจบแล้วมันก็ไม่มี

 

เราเห็นแล้วเราสังเวช เราสังเวชมาก เพราะอะไร เพราะมันเป็นกระแสมานะ ไอ้คนนู้นก็โดนของ ไอ้นี่ก็โดนของ ไอ้นั่นก็ตาตกนะ ไอ้นี่ก็ต้องอาบน้ำมนต์นะ แล้วมันก็เลยไปอาบน้ำมนต์

 

ก็ไปอาบอบนวดก็จบไง เวลาอาบอบนวดไปจับมันนะ เวลาอาบน้ำนอนในวัดยิ้ม มีดอกไม้ธูปเทียนด้วย อาบน้ำเหมือนกัน มันจะมีอะไรมากมายขนาดนั้น

 

นี่พูดถึงว่ากระแสโลก ถ้าพูดถึงเวรกรรมแล้วมันก็ต้องไปแก้กรรมกัน...ไม่ใช่ กรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กัน พอกรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กัน มันก็มีวุฒิภาวะที่แตกต่าง วุฒิภาวะนี้เราก็มาเสริมเติม

 

เราเกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา เรามีวุฒิภาวะเป็นพื้นฐาน พื้นฐานแล้วเราก็ศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อความมั่นคง เพื่อความมั่นคงแล้วเราก็ศึกษา มีครูบาอาจารย์เป็นที่ปรึกษา เราพิจารณาวิเคราะห์วิจัย สัมโพชฌงค์ๆ ให้มันเข้มแข็ง ให้มันมีสติปัญญาเป็นของเราไง ถ้าให้มีสติปัญญาเป็นของเรานะ

 

หลวงตาท่านสอน ใครมีมีดอยู่ประจำตัว พอเจอสิ่งใด มีดเขาจะใช้ประโยชน์เพื่อประโยชน์คุ้มครองชีวิตเขา เพื่อหาอาหารของเขา เพื่อทำสิ่งใดได้ทั้งหมดเลย เราฝึกหัดใช้ปัญญาของเรา ปัญญาของเราคือมีดประจำตัวเรา ใครมีสติมีปัญญาก็มีมีด มีเครื่องคุ้มครองดูแลของเราไง

 

เราไม่มีมีดคุ้มครองดูแลเรา เราศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาจากพระไตรปิฎก อยู่ในตู้พระไตรปิฎก มีดของเราก็อยู่ในตู้พระไตรปิฎก เวลาเรามีเหตุการณ์ขัดข้องขึ้นมา เราก็จะวิ่งกลับไปหาตู้พระไตรปิฎก แล้วก็ไปไขกุญแจพระไตรปิฎก แล้วก็เอาหนังสือพระไตรปิฎกมาเปิดเอายาธรรมะนั้นเพื่อมาแก้ไข นี่คือการศึกษา การจำ มันจะค้นคว้าหาไปทั่ว

 

แต่ถ้าเรามีสติมีปัญญาของเรา เราจะมีมีดประจำตัวของเรา อะไรเกิดขึ้นมาเอามีดฟันเลย อะไรเกิดขึ้นมาเอามีดป้องกันตัวได้เลย นี่ไง สติปัญญา สติปัญญาที่เราฝึกฝนกันอยู่นี่ไง ถ้ามันฝึกฝนสติปัญญา นี่ธรรมทายาท องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรารถนาตรงนี้ ปรารถนาให้ทุกคนเจริญรุ่งเรือง เจริญรุ่งเรืองด้วยศีล ด้วยสมาธิ ด้วยปัญญาของคน ในหัวใจของคน นั่นจะเป็นธรรมทายาท เป็นศาสนทายาทในพระพุทธศาสนา

 

แต่ในเมื่อชีวิตเราเกิดมาเป็นมนุษย์ใช่ไหม มันก็มีสังคมใช่ไหม เราก็อยู่ในสังคมนั้น เราอย่าไปดูถูกเหยียดหยามใครนะ อย่าไปเย้ยหยันใครทั้งสิ้น มนุษย์เขามีความคิดของเขา เราอย่าไปแบ่งแยก เราต้องการความสงบระงับ เราต้องการคุณงามความดีของเรา แต่นี่เราพูดถึงพระพุทธศาสนา พุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เอวัง