เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๑๓ เม.ย. ๒๕๖๑

 

เทศน์เช้า วันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๖๑
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

 

ตั้งใจฟังธรรมะนะ วันนี้วันสงกรานต์ วันสำคัญของชาติไทย แต่ไม่ใช่วันสำคัญในพระพุทธศาสนา ในพระพุทธศาสนาถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เท่านั้น ในพระพุทธศาสนาถืออริยสัจ แต่วันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวไทยเราไง

 

ถ้าวันขึ้นปีใหม่ของชาวไทย ชาวไทยเรานะ คนเฒ่าคนแก่ของเราเป็นผู้ฉลาด ให้นับถือพระพุทธศาสนา ให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ เราก็ดิ้นรนกันน่าดูเลย จะให้เป็นศาสนาประจำชาติ

 

แต่เวลาหลวงตาท่านบอกศาสนาประจำหัวใจ ประจำหัวใจของสัตว์โลก สัตว์โลกที่มีความทุกข์ความยากอยู่นี่ ถ้ามีความทุกข์ความยากอยู่นี่ มีธรรมโอสถเป็นที่บรรเทา ถ้าเป็นที่บรรเทา มันจะมีบุญกุศล

 

รู้จักบุญกุศลไหม คำว่า “บุญๆ” รู้จักหรือเปล่า ถ้ามันรู้จักคำว่า “บุญ” จิตที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ จิตที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะเวลามาเกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา การเกิดเป็นมนุษย์เป็นอริยทรัพย์ เพราะการเกิดเป็นมนุษย์มามีกฎหมายคุ้มครอง เวลาเกิดมาเป็นสัตว์ เกิดมาเป็นสัตว์โดนเขาล่า เกิดเป็นสัตว์ เกิดมาเป็นอาหารของเขา

 

ดูสิ ดูเมล็ดพันธุ์พืช เมล็ดพันธุ์พืชที่มันปลิวไปตกที่ไหน ถ้าปลิวไปตกในกองไฟ โดนไฟไหม้ไป ตกไปในน้ำ ไปแช่น้ำเน่าหมด นี่เมล็ดพันธุ์พืชมันไปตกลงที่ไหน ถ้าเมล็ดพันธุ์พืชไปตกที่ไหน เวลาตกที่ไหนนะ ถ้าดินดีอุดมสมบูรณ์มันก็ได้เกิดงอกงามขึ้นมา เมล็ดพันธุ์พืชมันก็เปรียบเหมือนหัวใจของเรา เพราะเมล็ดพันธุ์พืชมันเป็นสิ่งมีชีวิต สิ่งมีชีวิตมันต้องผสมพันธุ์ ผสมพันธุ์แล้ว มันแก่ขึ้นมาแล้วมันถึงจะงอกขึ้นมาได้

 

จิตของเรามีเวรมีกรรมมาในหัวใจ มีเวรมีกรรมในหัวใจ เห็นไหม เมล็ดพันธุ์พืชนั้นถ้าช้างมันกิน เวลาช้างมันไปขี้ โอ้โฮ! เวลามันงอกขึ้นมานะ มันมีปุ๋ย โอ้โฮ! มันแข็งแรงเต็มที่เลย

 

นี่ก็เหมือนกัน จิตของคน จิตของคนที่มันทำบุญกุศลมาไง เกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา เกิดเป็นมนุษย์มีคุณค่ามาก เวลามีคุณค่า มันเกิดมาทุกข์มายาก เกิดมานี่ไหนว่ามีคุณค่าไง ไหนว่าเป็นอริยทรัพย์ไง ทำไมมันทุกข์มันยากขนาดนี้ไง ถ้ามันทุกข์มันยากขนาดนี้

 

ดูนก นกเวลามันย้ายถิ่น นกมันอพยพเพราะอะไร อพยพเพราะมันไม่มีอาหารจะกิน นี่ก็เหมือนกัน หมีขั้วโลก เวลามันถึงเวลาหน้าฤดูร้อน มันล่าเหยื่อ ล่าเหยื่อเพื่ออะไร เพื่อมันจะจำศีล เวลามันจำศีลน่ะ สัตว์มันจำศีลเพราะมันไม่มีอาหารจะกินไง ฤดูกาลของมันไง เขาบอกธรรมชาติของมัน ธรรมชาติของมันก็พันธุกรรมของมันไง มันตัดแต่งของมัน มันปรับปรุงในพันธุกรรมของมันใช่ไหม

 

นี่ก็เหมือนกันนะ หัวใจของเรา หัวใจของเราไง ถ้าหัวใจของเรานะ สัตว์มันยังรู้จักจำศีล นี่ไง วันนี้วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ถ้าวันสำคัญทางพระพุทธศาสนานะ เขาก็ให้ไปทำบุญกุศลวันสงกรานต์ ทำบุญกุศลเพื่อปู่ย่าตายายของเรา ระลึกถึงผู้มีบุญมีคุณกับเรา ถ้ามีบุญกับเรานะ มันเป็นกระแสหลัก แล้วกระแสหลักขึ้นมาแล้ว ทางโลกๆ เขาก็แข่งขันกันไง แข่งขันกันว่าที่ไหนมันรื่นเริง ที่ไหนมันมีการละเล่น

 

เราจะทำบุญของเรานะ เราไปวัดใกล้บ้าน วัดที่ไหนเงียบสงบ วัดที่ไหนนะ เพราะเราจะทำบุญกุศลเพื่อญาติโกโหติกาของเรา เราไม่ใช่ไปเล่นครึกครื้นกับใครทั้งสิ้น เราจะไปหาที่เงียบที่สงบ ที่ระลึกถึงบุญถึงคุณไง ที่เงียบที่สงบที่เราพร้อมเพรียง พร้อมหน้าพร้อมตา ที่มันพร้อมหน้าพร้อมตา มันระลึกถึงคนในบ้านของเรา เห็นไหม

 

ทำบุญที่ไหนก็ได้ จะทำบุญที่มันเงียบที่สงบที่สงัด กระแสหลักๆ ไง วันสงกรานต์ๆ เราก็ต้องเล่นอึกทึกคึกโครมกันไง ที่ไหนไม่อึกทึกครึกโครม ที่นั่นไม่รื่นเริงไง ที่มันรื่นเริง เห็นไหม

 

สัตว์มันรู้จักจำศีลนะ เรานะ เราเป็นคน เกิดมาเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ เราได้ผ่านโลกมามากแล้วนะ สิ่งใดที่เราผ่านโลกมามากแล้ว เราจะมีหลักเกณฑ์ของเรา เราจะละวางของเรา ถ้าเราละวางของเรา เราจะยับยั้งไอ้พวกวัยรุ่น ยับยั้งคนที่มันออกนอกลู่นอกทาง นี่ผู้รัตตัญญู ผู้รู้ราตรีนาน เราเป็นแบบอย่างของเขา เราจะเป็นแบบอย่างของเขา เราได้ผ่านโลกนี้มาแล้ว เราได้ผ่านโลกนี้ เราได้เห็นมาหมดแล้วใช่ไหม เห็นมาหมดแล้วเราวางไง ไม่ใช่เห็นมาหมดแล้วเราก็ยึดติดยึดมั่นไง พอยึดมั่น ต้องเป็นอย่างนี้ๆ ไง

 

สรรพสิ่งในโลกนี้เป็นอนิจจัง มันแปรสภาพของมันไปตลอดแหละ มันอุดมสมบูรณ์ไหม อุดมสมบูรณ์ด้วยวัย อุดมสมบูรณ์ด้วยระบบเศรษฐกิจ อุดมสมบูรณ์ด้วยชุมชน มันอุดมสมบูรณ์ไหม ถ้ามันอัตคัดขาดแคลนบ้าง มันจะขาดตกบกพร่องบ้าง มันจะเป็นอะไรไป มันไม่เป็นอะไรไปหรอก เพราะอะไร เพราะเราเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ใช่ไหม เราละวางของเราไง

 

บุญกุศล รู้จักบุญไหม รู้จักบุญไหม บุญมันคืออะไร นี่ไง เมล็ดพันธุ์พืชที่มันตกไปในสถานที่มันสมบูรณ์ของมัน เมล็ดพันธุ์พืชสิ่งที่มีชีวิต นี่ก็เหมือนกัน สิ่งที่เราได้สร้างมาๆ มนุษย์เกิดมาจากไหน มนุษย์เกิดมาจากการกระทำของตนเอง มนุษย์เกิดมาจากกรรม กรรมคือการกระทำ ทำดี ทำชั่ว

 

คนที่ทำคุณงามความดี เมล็ดพันธุ์พืชเวลามันแตกจากต้นมันไป มันกระเด็นไป ไปตกในที่อุดมสมบูรณ์ของมัน ด้วยแรงดีดของมันไง แรงดีดมันไปตกในที่อุดมสมบูรณ์ไง เมล็ดของเรานะ เวลามันแตกจากต้น มันดีดไปอยู่บนลานหินน่ะ โอ้โฮ! แดดก็เผา โอ๋ย! ร้อนเกือบเป็นเกือบตาย

 

นี่ไง คนเกิดมาจากไหน ก็เกิดมาจากบุญของตน ทีนี้คำว่า “เกิดจากบุญของตน” บุญของตนคือการกระทำของตน การกระทำของตนมันได้สมความปรารถนาของตน ถ้าสมความปรารถนาของตน สมความปรารถนาของตนแล้วเกิดมาสมความปรารถนาไหม พ่อแม่ทุกคนสอนลูก มันฟังไหม มันเถียงทุกวันเลย สมความปรารถนาไหม

 

ไม่สมความปรารถนาเพราะอะไรล่ะ ไม่สมความปรารถนานะ กรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กัน เมล็ดพันธุ์พืช เมล็ดพันธุ์พืชนะ มันมีนะ ถ้าครอบครัวของเรา ลูกหลานของเรา อู้ฮู! มันสุดยอด มันดีไปหมดเลย นั่นน่ะอภิชาตบุตร บุตรที่มันดีกว่าพ่อกว่าแม่ บุตรที่ดีกว่าพ่อแม่นะ แล้วพ่อแม่ แล้วบุตรมีคนเดียวใช่ไหม มีหลายคนหรือมีคนเดียว มันมีหลายคนแล้วมันเหมือนกันไหม มันไม่เหมือนกันมันเป็นเพราะอะไร นี่ไง มันเกิดจากต้นไม้ต้นเดียวกันนะ มันเกิดมาจากท้องแม่เดียวกันนะ ทำไมมันคิดไม่เหมือนกัน ทำไมมันทำไม่เหมือนกัน นี่ไง กรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กัน การกระทำของเขา ด้วยการสะสม ด้วยบุญบาปของเขา ด้วยทัศนคติของเขา

 

เมล็ดพันธุ์พืช ถ้ามันลงดินแล้วมันเกิดขึ้นมาเป็นต้น เป็นดอก ลำต้นมันใหญ่โต คนเรา จิตเวลามันเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ เวลามันเกิดมาแล้วๆ ไง คำว่า “เกิด” บุญๆ บุญมาจากอะไร บุญคือการกระทำ บุญคือกรรมดีๆ ไง กรรมดี ทำคุณงามความดีของเรา ถ้าทำคุณงามความดีของเรา พันธุกรรมของจิตไง ย้ำคิดย้ำทำจนเป็นจริตเป็นนิสัย ย้ำคิดย้ำทำๆ สวดมนต์เย็นทุกวัน ทำวัตรทุกวัน เราทำของเราทุกวันๆ พอมันขาดไป เออ! วันนี้ขาดอะไรไปก็ไม่รู้ เริ่มต้นจะสวดมนต์ โอ้โฮ! มันดิ้นนะ มันจะไปเที่ยว เวลาสวดมนต์มันดีดมันดิ้น

 

ย้ำคิดย้ำทำๆ นี่ไง ทำแล้วทำเล่า นี่พันธุกรรมของมันๆ ไง ถ้าหัวใจมันทำคุณงามความดีของมัน นี่บุญๆๆ บุญคือทำความดี

 

เวลาจิตมันปฏิสนธิจิต ปฏิสนธิวิญญาณ ไม่ใช่ความรู้สึกของเรานี้นะ ความรับรู้ของเราเขาเรียกว่าอายตนะ วิญญาณผ่านอายตนะตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มันอายตนะกระทบเข้าไป มันมีพลังงานอีกตัวหนึ่ง พลังงานอีกตัวหนึ่งนั่นน่ะจิตเดิมแท้ จิตเดิมแท้พลังงานตัวนี้ ถ้ามันตายตัวว่าความรู้สึกของเราตายตัว พอเป็นเทวดามันไม่มีร่างกายนี้ให้รู้สึกนะ สวรรค์ไม่มีตลาด ไม่มีเซเว่น ทิพย์สมบัติ ใครทำอย่างใดได้อย่างนั้น สวรรค์นรกเป็นทิพย์สมบัติ

 

นรกอเวจี มันอยากจะพ้นของมัน มันโดนแผดเผา มันตายแล้วตายเล่า พอตายแล้วมันก็ฟื้นมาใหม่อยู่อย่างนั้นน่ะ มันไปไหนไม่ได้น่ะ นี่ไง ไม่มีเซเว่น ขอน้ำเย็นๆ ลูบสักที ไม่มี นี่ไง มันไม่มีร่างกายนี้ไง ฉะนั้น พอไม่มีร่างกายนี้ ถ้าพูดถึงอายตนะ ๆ เพราะเรามีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เราก็มีความรู้สึกนึกคิดแบบตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจใช่ไหม ลมพัดมาก็เย็นใช่ไหม เวลามันทุกข์มันยากขึ้นมา แล้วเวลาไปศึกษาธรรมะก็ศึกษาธรรมะด้วยอายตนะไง ศึกษาธรรมะด้วยขันธ์ ๕ ไง

 

ขันธ์ไม่ใช่จิต ถ้าขันธ์ไม่ใช่จิตๆ เวลาเราลืม เวลาเรานึกอะไรได้ แหม! วันนี้ปัญญาดีมาก แจ่มแจ้งไปหมดเลย นั่นน่ะมันชัดเจน เวลามันลืมล่ะ เวลาความคิดเราลืมล่ะ เงินยังลืมได้เลย บางทีข้าวของเก็บไว้จนลืม แล้วลืมทำไมไม่ตายล่ะ มันถึงไม่ใช่ไง ขันธ์ไม่ใช่จิต ความคิดไม่ใช่จิต มันเกิดจากจิต เราลืมแล้วจิตมันยังอยู่ เราทุกข์ขนาดไหน จิตมันก็ยังมีความรู้สึกอยู่ มันไม่เคยตายๆ เพราะมันไม่เคยตายอย่างนี้ไง เวลามันหมดอายุขัยขึ้นไป เวลาเกิดเป็นเทวดา เป็นอินทร์ เป็นพรหม ขันธ์ ๑ ขันธ์ ๔ ขันธ์ ๕ เทวดาไม่มีรูปร่าง ทิพย์สมบัติทั้งหมด แต่เป็นทิพย์ รู้ได้ด้วยความเป็นทิพย์ ถ้าเป็นพรหม พรหมขันธ์เดียว ขันธ์เดียวยิ่งละเอียดเข้าไปใหญ่ อาหารของพรหมคือผัสสาหาร คือการกระทบ วิญญาณาหาร กวฬิงการาหาร

 

นี่ไง มันถึงเวลาเกิดแล้ว มันเกิดเป็นมนุษย์ มันมีขันธ์ ๕ ขันธ์ไม่ใช่จิต พอขันธ์ไม่ใช่จิตขึ้นมา แล้วความรู้ในขันธ์ก็เหมือนกับความรู้สึกนึกคิดเรานี่ เราคิดสิ่งใด เราสะสมไว้ในความรู้สึกนึกคิดเรานี่แหละ แล้วมันไปกับจิตเราไหม ไป ไปเพราะอะไร เพราะนี่ไง อนุสัย มันสื่อถึงกันได้ แต่เราไม่รู้ไม่เห็น แต่ครูบาอาจารย์ที่ท่านประพฤติปฏิบัตินี่ชัดเจน ชัดเจนแจ่มแจ้ง ผู้ที่จะบรรลุธรรมต้องชัดเจนหมด ไม่มีความสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น ความสงสัยในเรื่องหัวใจของตนนะ ไม่ใช่ความสงสัยในเรื่องของโลกธาตุ ๓ โลกธาตุ เทคโนโลยีมันเปลี่ยนแปลงทุกวัน โทรศัพท์ พระใช้ไม่เป็นหรอก แล้วมึงเป็นพระอรหันต์ได้อย่างไร

 

เทคโนโลยีเรื่องหนึ่ง พระอรหันต์ลืมในอะไรได้ ลืมในสมมุติบัญญัติได้ แต่ไม่ลืมในอริยสัจ ไม่ลืมในสัจจะความจริง สัจจะความจริงนั้นเป็นอันเดียวกับใจนั้น อันเดียวกับใจนั้นมีอริยสัจอยู่ มันจะแตกแยกไปได้อย่างไร มันแตกแยกจากใจไปไม่ได้เพราะมันเป็นอันเดียวกัน แต่ขันธ์ไม่ใช่จิต มันคนละอัน ความรู้สึกนึกคิดนี้ เพราะความรู้สึกนึกคิดอันนี้ เราอยู่กับความรู้สึกนึกคิดอย่างนี้ เราอยู่กับความรู้สึกนึกคิดอย่างนี้มันเลยสงสัยไปหมดไง

 

ความสงสัย เราถึงบอกรู้จักบุญไหม บุญน่ะ บุญ ที่เรามาทำกันอยู่นี่ เรามาทำบุญ ของที่สละไปนี้หรือเป็นบุญ ถ้าของที่สละไปนี้เป็นบุญ โกดังสินค้า โอ้โฮ! บุญมันมากที่สุดนะ ท่าเรือคลองเตยมันมีบุญมากที่สุดเลย เพราะในโกดังแน่นไปด้วยสินค้าเลย

 

แต่เพราะมีเจตนา เพราะหัวใจของคน หัวใจของคนที่เกิดมา เกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา เพราะการเกิดนี้มีบุญกุศล การกระทำของจิต มโนกรรมๆ ความรู้สึกนึกคิด ความปรารถนา เจตนาที่การกระทำนั้น แล้วเราได้ทำหน้าที่การงานของเรามา สิ่งที่ได้มา เราไปแลกเปลี่ยนมาเป็นปัจจัยเครื่องอาศัย เป็นปัจจัย ๔

 

ปัจจัย ๔ นี้ให้กับผู้ทรงศีล ผู้ทรงศีลที่ท่านไม่มีอาชีพ ผู้ทรงศีลไม่ประกอบอาชีพแบบคฤหัสถ์ ภิกษุ การดำรงชีพต่างจากคฤหัสถ์ คฤหัสถ์ทำอย่างไร ภิกษุทำอย่างนั้นไม่ได้ ถ้าภิกษุทำอย่างนั้นไม่ได้ ภิกษุเลี้ยงชีพด้วยปลีแข้ง แล้วสิ่งนั้นไปเสียสละ เสียสละเพื่อดำรงชีพของท่าน สิ่งที่สละข้าว ๑ ทัพพีเพื่อดำรงชีพของสมณะ ได้บุญไหม ได้บุญเพราะอันนั้นไง เพราะชีวิตนั้นไง ชีวะ สิ่งนี้เป็นบุญ เป็นบุญมันเกิดตรงนี้

 

นี่ไง เหมือนกับเรา เราจะประพฤติปฏิบัติ ดูพัดลมสิ พัดลมเวลาเปิด แอร์เปิดทั้งวันเลย ไม่เป็นอานาปานสติ แต่ถ้าเราตั้งใจ หายใจเข้านึกพุทพร้อมกับสติสัมปชัญญะนะ ถ้าเรานั่งกันอยู่นี่ เราหายใจทิ้งเปล่าๆ ไม่ใช่อานาปานสติ หายใจไปหายใจมาไม่ใช่อานาปานสติ

 

แต่มีสติแล้วระลึกรู้ ลมหายใจเข้าและลมหายใจออกเกิดจากจิตไง จิตที่เป็นผู้รับรู้ นี่ไง เมล็ดพันธุ์พืชที่มันแตกมันกระจายไปไง ถ้าเมล็ดพันธุ์พืช มันจะเข้ามาตัดแต่งในตัวมันแล้ว เมล็ดพันธุ์มันจะเข้ามาที่มัน เราถึงจะต้องหายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ ถ้าทำไม่ได้เลย มันเป็นสิ่งที่บางคนทำไม่ได้เลย ทำไม่ได้เลยก็จริตนิสัยไง เมล็ดพันธุ์พืชมันไปตกอยู่บนลานหิน แล้วมันไม่มีดินเลยอย่างนี้ จะทำอย่างไร

 

นี่ก็เหมือนกัน จริตนิสัยที่มันไม่เป็นเลย เขาถึงใช้ปัญญาอบรมสมาธิ คำว่า “ปัญญาอบรมสมาธิ” ก็พุทโธนี่แหละ ก็คือลมหายใจเข้าออกนี่แหละ เพราะอะไร เพราะมันจะเข้าไปสู่ใจของมัน ขันธ์ ๕ ไม่ใช่จิต จิตไม่ใช่ขันธ์ ๕ พิจารณาไปๆ มันปล่อยๆๆ ปล่อยเข้ามามันไปไหน มันเข้าไปสู่ฐีติจิต ไปสู่จิตดวงนั้น ถ้าไปสู่จิตดวงนั้น นั่นมันก็เป็นสมาธิไง มันก็แค่นี้แหละ ปัญญาอบรมสมาธิไง มันไม่ใช่วิปัสสนาไง ถ้าวิปัสสนามันต้องเกิดจากจิตไง เวลาเกิดจากจิต เห็นไหม

 

เรายังยืนยันตัวตนเราไม่ได้ เราต้องใช้เอกสารใช่ไหม เซ็นรับรองเอกสาร นี่ก็เหมือนกัน เรายังหาจิตเราไม่ได้ เราไม่มีความสามารถสิ่งใดๆ เลย แล้วจะทำอะไร ไม่มีสิทธิ์ ยิ่งคนไร้รัฐ ไม่มีสิทธิ์ ยืนยันตัวตนได้หรือเปล่า

 

ยืนยันตัวตนได้คือยืนยันจิตของตนไง ถ้ายืนยันจิตของตนได้ มันภาวนาก็เป็นสมบัติของตนไง ถ้ายืนยันตัวตนไม่ได้ มันก็สมบัติสาธารณะไง สมบัติสาธารณะก็สมบัติของโลกไง แล้วเอ็งได้อะไร สิ่งที่ได้มาก็ได้มาจากการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ ได้มาจากบุญกุศลของเรานะ

 

บุญกุศลของเรา เกิดมาเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนา วันนี้วันสงกรานต์ จะไม่ได้อะไรเลยก็ได้สาดน้ำ ไม่ได้อะไรเลยก็ได้เที่ยวสงกรานต์ เพราะเป็นประเพณีวัฒนธรรมของชาติไทย เราก็ได้แค่นี้ เราได้มาพึ่งพิงอาศัยในวัฒนธรรมนี้ เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา พ่อแม่ปู่ย่าตายายของเรานับถือพระพุทธศาสนา พ่อแม่ปู่ย่าตายายของเรามีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง เราก็ได้อาศัย ได้อาศัยขึ้นมาก็ได้แค่นั้นแหละ แต่สมบัติของเราไม่มี สมบัติมันไม่เป็นของเรา มันไม่เป็นปัจจัตตัง สันทิฏฐิโกไง ไม่เป็นสัจจะความจริงขึ้นมาไง ฟังธรรมๆ เพื่อเหตุนี้ไง

 

นี่ไง วันนี้วันสงกรานต์ วันสงกรานต์เป็นวันสำคัญของชาติ ชาตินี้เพื่ออะไร เพื่อการปกครอง ชาติ ประชาชน มวลชนให้มีความร่มเย็นเป็นสุข รัฐบาลมันก็ปกครองได้ง่ายใช่ไหม มันก็เป็นความดีงามไปหมด วันสำคัญของชาติ

 

แต่ว่าวันสำคัญของศาสนา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พุทธ ธรรม สงฆ์รวมอยู่ในหัวใจ พุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน หัวใจของตนมันเป็นพุทธะ หัวใจของตนเป็นพุทธะ เราปรารถนา ดูสิ เวลาคนเขาไปสังเวชนียสถานทั้ง ๔ เขาไปเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิด แก่ เจ็บ ตาย เพื่อให้ระลึกถึงท่านไง แต่หัวใจของเราทำไมไม่ระลึกถึง

 

ถ้าพุทธะ ครูบาอาจารย์ของเราให้ระลึกถึงหัวใจของตนไง พุทธะอยู่ในหัวใจของตนไง ถ้าใครพยายามหายใจเข้านึกพุท หายใจอกนึกโธ ใช้ปัญญาอบรมสมาธิ ถ้าจิตมันสงบเข้าไป เราจะไปเฝ้าพุทธะในหัวใจของเราไง พุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

 

พุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน แล้วตอนนี้จิตใจเศร้าหมองไหม ตื่นไหม ง่วงเหงาหาวนอน สำมะเลเทเมา หลวงพ่อเทศน์ให้จบไวๆ จะไปเล่นสาดน้ำแล้ว ใจมันไปอยู่ที่ขันน้ำนู่นน่ะ นี่ไง มันตื่นไหม เขาแสดงธรรมอยู่นี่

 

การแสดงธรรม ดวงอาทิตย์มันส่งพลังงานของมันไปนะ ให้กับทุกบ้านเรือน พลังงานที่มันจะใช้ประโยชน์อันนั้นไง ไม่ต้องการไง มันจะไปสาดน้ำนั่นไง พอมันไปสาดน้ำ มันไปเรื่องความพอใจของมัน เห็นไหม

 

สภาวะแวดล้อม สภาวะแวดล้อมที่ไม่ดี สภาวะที่เสียหาย มันจะส่งผลไปทุกๆ เรื่องเลย อากาศเป็นพิษ ธัญญาหารจะไม่มีให้ได้กิน เวลามันเสียหาย มันเสียหาย ไม่ตื่น ไม่เบิกบาน หัวใจถ้ามันไม่ตื่น ไม่เบิกบาน ไม่แจ่มใส จบ มีแต่ความเศร้าสร้อย มีแต่ความหงอยเหงา มีแต่วัฒนธรรมไง

 

เราเกิดมา นี่ไง เกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา ก็ได้อาศัยวัฒนธรรมของชาวพุทธเท่านั้นแหละ แต่ถ้าเป็นความจริง ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เราจะทำความเป็นจริงของเราขึ้นมา ถ้าทำความเป็นจริงของเราขึ้นมา นี่แหละที่เกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาที่ได้ทรัพย์ที่แท้จริง ครูบาอาจารย์ท่านเน้นย้ำ เน้นย้ำที่นี่

 

แล้วถ้ามันเป็นที่นี่แล้วนะ แม้แต่ทางทฤษฏี ทางวิทยาศาสตร์ เราเข้าใจได้ เรายังท่องได้เลย เรารู้ได้หมดแหละ นี่ก็เหมือนกัน ทฤษฎีที่เราศึกษาในพระพุทธศาสนานะ เราได้มาด้วยวัฒนธรรม เราได้มาด้วยปู่ย่าตายายของเราเป็นผู้ที่ฉลาด ให้เลือกนับถือพระพุทธศาสนา แล้วเราได้เข้ามาพบได้เข้ามาเจอในพระพุทธศาสนา เราก็ได้อาศัยประเพณีวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ถ้ามันเป็นจริงๆ นะ มันเป็นจริงในหัวใจของเรานะ ถ้าเป็นจริงในหัวใจของเรา อันนั้น ความจริงอันนั้นน่ะ นี่ไง ที่พระพุทธศาสนามีคุณค่า มีคุณค่าที่นี่ไง

 

มีคุณค่าว่า พระพุทธศาสนาสอนเรื่องอะไร สอนเรื่องทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ทุกข์ดับ วิธีการดับทุกข์ ถ้าเราดับทุกข์ได้ตามความเป็นจริง เรามีคุณธรรมในหัวใจอันนั้น มันประเสริฐเลอเลิศไง พระพุทธศาสนาสมบูรณ์ไง พระพุทธศาสนามีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระพุทธมีพระพุทธเจ้า มีพระธรรม มีอริยสงฆ์ มีความจริงในหัวใจ มันเป็นความจริงขึ้นมา พระพุทธศาสนาถึงได้แวววาวมีค่ามากๆ

 

แต่พวกเราก็ได้แค่นี้ ได้ฟังแต่ข่าวลือเขาเล่าว่า แล้วก็ไม่เห็นได้อะไรเลย ไปวัดก็หลวงพ่อด่าอีกต่างหาก

 

อืม! ด่าแน่นอน ก็เอ็งเอากิเลสมาอวด กิเลส ไม่ต้องการ ต้องการคุณงามความดี คุณงามความดีนะ คุณงามความดีที่เป็นจริงอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่อหังการ ไม่ทำลายใคร ไม่เบียดเบียนใคร ไม่เบียดเบียนตนและผู้อื่น ไม่เบียดเบียนหัวใจของตน ทำชั่ว กรรมชั่วทั้งนั้น ทำดี กรรมดี ใจนี้ต้องการปรารถนาสิ่งที่ดีๆ มันจะไม่ทำกรรมชั่วแน่นอน เอวัง