เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๑๒ พ.ค. ๒๕๖๑

 

เทศน์เช้า วันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๑
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

 

ตั้งใจฟังธรรมะนะ ตั้งใจฟังธรรม สัจธรรม ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประเสริฐมาก มีคุณค่ามาก มีคุณค่ากับชีวิตของตน ถ้ามีคุณค่ากับชีวิตของตน คุณค่ากับชีวิตของตนจะไม่มีค่าเลย

 

เวลาเรามาเกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา เวลาพระพุทธศาสนา ศาสนาเป็นเรื่องของพระ เป็นเรื่องของนักประพฤติปฏิบัติ มนุษย์เราก็มีหน้าที่หาเลี้ยงชีพ ทำหน้าที่การงานของเรา ทำหน้าที่การงานของเรานะ แต่ทำงานของเรา นั่นน่ะจิตใจของคน ถ้าจิตใจของคนถ้ามันมีมาตรฐานนะ จิตใจของเขาสูงขึ้น เขาจะสงสัยในชีวิตว่าชีวิตนี้มันคืออะไร เกิดมาทำไม แล้วเกิดมาเพื่ออะไร ทุกข์ทั้งนั้นน่ะ แต่คนที่มีสติปัญญายั้งคิดได้ ยั้งคิดได้นะ

 

สมณะ สมณะเป็นที่พึ่ง สมณะเป็นผู้สงบระงับแล้ว ถ้าสมณะเป็นผู้สงบระงับแล้ว ทำไมท่านถึงสงบระงับได้ เราเกิดเป็นมนุษย์ต้องมีหน้าที่การงานของเรา ถ้ามีหน้าที่การงานของเรา เราอาบเหงื่อต่างน้ำเลี้ยงชีพแล้วมันยังทุกข์ยังยากอยู่นี่ แล้วสมณะไม่ทำอะไรเลย มันจะมีความสุขได้อย่างไร สมณะไม่ทำสิ่งใดเลย

 

สมณะเขาทำ เขาทำด้วยหัวใจเขา ถ้าหัวใจของเขานะ เวลาประพฤติปฏิบัติ จิตตภาวนาๆ ถ้าจิตตภาวนา ถ้าเขาค้นคว้าหาจิตใจของเขาได้ เขาจะมีการภาวนาของเขา ถ้าเขาค้นคว้าหาจิตของเขาไม่ได้ เขาก็อยู่แบบเรา อยู่แบบโลกๆ แบบโลกๆ อาบเหงื่อต่างน้ำเพื่อหาเลี้ยงชีพขึ้นมา ขาดตกบกพร่องก็มีแต่ความทุกข์ความยากทั้งนั้นน่ะ เวลาบวชไปแล้ว เวลาจะประพฤติปฏิบัติขึ้นมาก็ทำแบบโลกๆ ไง ทำแบบโลกๆ ก็เป็นธุรกิจการค้าไง ธุรกิจซื้อมาขายไป ขาดทุนกำไร

 

เวลาบวชเป็นพระ บวชเป็นพระขึ้นมา เวลาขาดทุนกำไร เวลาบิณฑบาตขึ้นมาแล้ว คุณโยมใส่บาตรน้อยนี่ขาดทุน ถ้าวันไหนโยมใส่บาตรมาก อู้ฮู! ฉันมีบุญกุศล ฉันทำบุญมา

 

มันเป็นศรัทธาของเขาทั้งนั้นน่ะ เป็นศรัทธาเป็นความเชื่อของเขา เขาเกิดมาเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา เขาปรารถนาบุญกุศลของเขา เขาเป็นผู้ที่ฉลาด เขาเป็นผู้ที่ฉลาด เขารู้จักเสียสละทานของเขา เสียสละทาน ศีล ภาวนา เขาจะค้นคว้าหาหัวใจของเขา เขาเป็นผู้ที่ฉลาด เขาเป็นผู้ที่เสียสละไง

 

ไอ้เรามาบวชเป็นพระ บวชเป็นพระเป็นนักรบ นักรบขึ้นมาแล้วไปบิณฑบาต ถ้าบิณฑบาตใส่มาน้อยแล้วก็ขาดทุน ถ้าใส่มามากก็กำไร แต่หัวใจของเรามันเป็นโลกๆ เป็นธุรกิจ ซื้อมาขายไป ขาดทุนกำไร

 

แต่ผู้ที่เขามีบุญกุศลของเขา ทานเขายิ่งใหญ่ไง ถ้าทานเขายิ่งใหญ่ เขาทำเพื่ออะไร เขาทำเพื่อบุญกุศลขึ้นมา นี่บุญกุศลขึ้นมา สิ่งที่เป็นบุญกุศลมันเป็นเรื่องของหัวใจนะ ถ้าเป็นวัตถุสิ่งของ ข้าวของมันเก็บไว้มันต้องมีที่เก็บที่รักษา

 

บุญกุศลของคนจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน พระโพธิสัตว์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๔ อสงไขย ๘ อสงไขย ทำมาบุญมหาศาล บุญจนเต็มล้นหัวใจไง พอล้นหัวใจขึ้นมา จนมาเกิดเป็นเจ้าชายสิทธัตถะไง เวลาประพฤติปฏิบัติขึ้นมาถึงได้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไง

 

ไอ้ของเรานะ เราเกิดมาเป็นมนุษย์ไง แต่เวลามันขาดตกบกพร่องขึ้นมามันก็จะหาสิ่งที่สนองตอบตัณหาความทะยานอยากของตน ก็อยากร่ำอยากรวย อยากมีชื่อเสียง อยากมีเกียรติศัพท์เกียรติคุณ อยากให้คนนับหน้าถือตา ทุกข์ทั้งนั้น มันเป็นคนอื่นยื่นให้ไง มันต้องซื้อใจเขา ต้องซื้อหัวใจเขา

 

แต่หลวงตาเวลาท่านออกโครงการช่วยชาตินะ ท่านบอกไปเอาใจคน ไปเอาหัวใจของคน ไปเอาหัวใจของคนที่เขารู้จักเสียสละ เอาหัวใจของคนที่ยิ่งใหญ่ คนที่ยิ่งใหญ่เขาทำเพื่อบุญกุศลของเขา

 

เวลาเรานักประพฤติปฏิบัติ ดอกบัวเกิดจากโคลนตม ดอกบัวเกิดจากโคลนตม ร่างกายของคนเป็นสิ่งที่เน่าเหม็น สิ่งที่เป็นอสุภะมันไม่น่ารื่นรมย์เลย นี่ร่างกายของมนุษย์ๆ ดอกบัวเกิดจากโคลนตมก็เกิดจากร่างกายของมนุษย์นี่ไง ร่างกายของมนุษย์มันมีหัวใจ ถ้าดอกบัวดอกนั้น พุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ดอกบัวเกิดจากโคลนตม

 

ถ้าดอกบัวนะ ถ้าจิตใจมีสติปัญญาที่ยิ่งใหญ่ ถ้าดอกบัวเกิดจากโคลนตมมันเป็นประโยชน์กับใคร มันเป็นประโยชน์กับหัวใจดวงนั้นไง ถ้าหัวใจดวงนั้นเป็นผู้ที่ฉลาด นี่โคลนตมๆ ดูสิ ต้นไม้เวลาปลูกขึ้นมา ปลูกลงที่ดิน ที่ดินอุดมสมบูรณ์ขึ้นมา ต้นไม้จะเจริญงอกงามขึ้นมา จิตใจของคนอยู่ในร่างกายสิ่งใดไง จิตใจของคนเวลาเกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนาไง ถ้าจิตใจเขายิ่งใหญ่ เขารู้จักประพฤติปฏิบัติ รู้จักค้นคว้า รู้จักรักษา เขาจะเกิดจากร่างกายอันนั้นไง ดอกบัวเกิดจากโคลนตมๆ เห็นไหม

 

แต่ในปัจจุบันนี้ดอกบัวเขาเอามาบูชาพระ ดอกบัวเป็นสัญลักษณ์ของคุณงามความดี เวลาเขาบูชาพระๆ ทางธุรกิจมันก็ทำดอกไม้ประดิษฐ์ กลิ่นมันก็ใส่น้ำหอม หอมฉุยเลย แต่มันไม่มีชีวิต มันไม่มีคุณค่า มันไม่เหี่ยวเฉาไง

 

แต่ดอกบัวแท้ๆ มันเหี่ยวมันเฉาของมันนะ มันเป็นสิ่งมีชีวิต มันเติบโตขึ้นมาได้นะ เวลาดอกบัวได้แสงอาทิตย์มันจะบานตอนเช้า สิ่งที่เป็นสัจจะความจริงๆ ไง ถ้าสัจจะความจริงมันเกิดจากเรา ดอกบัวเกิดจากโคลนตม เกิดจากจริตนิสัย เกิดจากกิเลสตัณหาความทะยานอยากในทุกข์ในหัวใจนี่แหละ แต่ถ้ามันทำของมันขึ้นมาได้ มันพัฒนาขึ้นมา จากความทุกข์ความยากเป็นความสุขไง สุขอื่นใดเท่ากับจิตสงบไม่มี โอ้โฮ! จิตมันสงบระงับเข้ามา มันแปลกประหลาด มันมหัศจรรย์

 

แต่ในปัจจุบันนี้เพราะความรู้มันเยอะเกินไป ว่างๆ ว่างๆ ไม่มีอะไร โยนทิ้งให้หมด สิ่งใดก็ไม่ต้องไปรักษามัน อะไรก็ไม่เอา คือความว่าง ความว่างคืออากาศ สติปัญญาก็ไม่ต้องสนใจ ว่างๆ นี่ไง ดอกไม้ประดิษฐ์

 

ดอกไม้ประดิษฐ์ขึ้นมา เขาทำขึ้นมาจนล้นโกดัง เขาเที่ยวไปแจก ไม่มีใครสนใจ เวลาเขาเก็บไว้ไม่ดี ไฟฟ้าลัดวงจรมันเผาไหม้หมดเลย นี่ก็เหมือนกัน ว่างๆ ว่างๆ มึงไม่ต้องทำหรอก อากาศมันมีอยู่ในทั่วโลก ในจักรวาลก็มี นี่ไง ดอกไม้ประดิษฐ์ ดอกไม้ประดิษฐ์มันประดิษฐ์ขึ้นมาแล้วมันเป็นสิ่งที่ไม่มีคุณค่าสิ่งใดเลย

 

นี่ก็เหมือนกัน เวลาปฏิบัติพอเป็นพิธีๆ เพราะความรู้มันเยอะเกินไป เรียนมามาก รู้ไปหมด รู้ทุกอย่างเลย ว่าง

 

นี่ไง ดอกบัวเกิดจากโคลนตม โคลนตมนะ คนที่เป็นผู้ดีขึ้นมาเขาไม่ต้องการอย่างนั้น มันเป็นสิ่งสกปรก แต่ชาวไร่ชาวนาเขาปรารถนามาก เขาอุตส่าห์เอารถไปขนกันมานะ ขนมาเพื่อไร่ เพื่อสวน เพื่อนาของเขา เพื่อความอุดมสมบูรณ์ในเนื้อนาของเขา

 

นี่ก็เหมือนกัน ปุ๋ยคอกๆ เขาเอามาเพื่อประโยชน์กับสวนของเขา กับไร่ของเขา หัวใจของเราก็เหมือนกัน นี่ไง สิ่งที่มันทุกข์มันยากๆ ไม่กล้าทำสิ่งใดเลย ว่างๆ ว่างๆ อยากได้ดอกไม้ประดิษฐ์ไง

 

ดอกบัวเกิดจากโคลนตม มีการกระทำของเรา เราเกิดขึ้นมาจากโคลนจากตม เกิดขึ้นมาจากความทุกข์ความยากของเรา เกิดขึ้นมาจากการกระทำของเรา ถ้าการกระทำมันเป็นความจริงขึ้นมา มันเป็นประโยชน์กับเรา ถ้าเป็นประโยชน์กับเราขึ้นมา ไอ้นี่มันจะเอามาจากปัญญาของเขา ดอกไม้ประดิษฐ์ อุตสาหกรรมทำของเขาไป มันเป็นเพราะอะไรล่ะ เป็นเพราะคนมันไร้ที่พึ่ง พอคนไร้ที่พึ่งเขาก็หาที่พึ่งที่อาศัย พอหาที่พึ่งที่อาศัยขึ้นมา ด้วยวุฒิภาวะที่อ่อนด้อยไง ก็ว่าสิ่งนั้นจะเป็นจริงๆ

 

เวลาปฏิบัติไปแล้วนะ แล้วครูบาอาจารย์ท่านสังเวช สังเวชขึ้นมานะ จิตมันด้าน จิตของคนถ้ามันดื้อมันด้านแล้วนะ มันไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น เราดูสิ ดูเด็กใจแตก เด็กใจแตก เด็กที่เสียหายไปเพราะอะไรล่ะ เพราะเขาเชื่อสิ่งนั้น เขาเป็นอย่างนั้นไง แล้วกว่าเราจะมีเหตุมีผลอธิบายให้เขาเข้าใจได้ กว่าเราจะมีเหตุมีผลให้เขาสำนึกได้ โอ๋ย! มันยาก มันลำบาก

 

แต่เด็กที่เป็นเด็กที่ดี เด็กที่ดีเขารู้จักผิดชอบชั่วดี เวลาเขาทำสิ่งใดก็เพื่อประโยชน์กับเขา ถ้าทำประโยชน์กับเขาขึ้นมา เด็กที่ดี นี่ไง หัวใจก็เหมือนกัน หัวใจที่มันมีพื้นฐานที่ดี เวลาทำสิ่งใดที่ดี ศีล สมาธิ ปัญญาขึ้นมา เป็นความจริงขึ้นมานะ มันจะมีความมหัศจรรย์ มหัศจรรย์ของมัน มันดีในตัวของเขา

 

นี่ก็เหมือนกัน ถ้าจิตมันด้านๆ จิตมันด้านเพราะอะไรล่ะ จิตมันด้านเพราะอะไร เพราะกิเลสตัณหาความทะยานอยากมันปิดกั้นอยู่แล้ว เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เวลาชนะมารๆ

 

พญามารมาทำลายบัลลังก์ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะทำลายทั้งนั้น จะทำลายทั้งนั้นน่ะ นี่ไง การชนะมารๆ การชนะตนเองมันง่ายดายขนาดไหน การชนะตนเอง การชนะกิเลสตัณหาความทะยานอยากของตน อันนั้นมันยิ่งใหญ่ แต่ความยิ่งใหญ่มันเกิดจากไหนล่ะ ดอกบัวเกิดจากโคลนตมๆ ไง เกิดจากหัวใจของตน เกิดจากกิเลสตัณหาความทะยานอยากที่ในหัวใจนั้นน่ะ

 

แต่ถ้าเป็นกิเลส กิเลสที่มันลุ่มมันหลง กิเลสที่วุฒิภาวะของธรรมมันอ่อนด้อย วุฒิภาวะของจิตที่มันอ่อนด้อย กิเลสมันยิ่งใหญ่ อยากดังอยากใหญ่ อยากมีอำนาจวาสนาไง ที่ไหนสังคมที่มันมีคนเยอะๆ สังคมที่มีคนชื่นชม ไปกับเขา ด้วยความอ่อนด้อย มันจริงหรือ

 

จริงๆ ตัวเองก็รู้ เราหาความจริง เราไม่ใช่หาที่พึ่งอาศัย นี่ไง ปัจจัย ๔ ที่เป็นที่พึ่งอาศัย สังคมอย่างนั้นสังคมที่ยิ่งใหญ่ สังคมคนที่นับหน้าถือตาไง คิดว่าเข้าไปอยู่ในสังคมนั้นมันจะปลอดภัยไง แล้วมันปลอดภัยหรือ แล้วบุญบาปมันปลอดภัยไหม เวลาบาปอกุศลมันปลอดภัยไหม ไม่มีที่ลับที่แจ้ง เวลาบุญกุศลมันปลอดภัยแน่นอน บุญกุศลมันปลอดภัยถ้ามันเป็นความจริงๆ ไง นี่ไง ถ้ามันอ่อนด้อยมันเป็นอย่างนั้นไง แต่ถ้ามันเป็นความจริง ความจริงมันมาจากการกระทำของเรา

 

ดอกบัวเกิดจากโคลนตม เป็นปัจจัตตัง เป็นสันทิฏฐิโก เราทำของเรา ถ้ามันจะทุกข์มันจะยากขนาดไหน เราก็พยายามของเรา ถ้าเรามีครูบาอาจารย์ที่ไว้ใจได้ ถ้าครูบาอาจารย์ที่ไว้ใจได้ท่านเป็นผู้ชี้ทาง ผู้ชี้ทางคือคนบอกทาง

 

เราหลงทาง ถ้ามีคนที่บอกเส้นทางที่ถูกต้อง เราพยายามกระเสือกกระสนเดินไปมันก็จะถึงเป้าหมายของเรา ถ้าเราเองเราก็ลุ่มหลงอยู่แล้ว เราเองก็หลงทางอยู่แล้ว ไอ้คนชี้บอกทางวนอยู่นั่นน่ะ วนรอบตัวเรานี่จะถึงแล้ว จากข้างหน้าก็เดินไปข้างหลัง จากข้างหลังก็เดินมาข้างหน้า ถึงพอดีเลย อู้ฮู! ชอบๆ นี่ไง ผู้ชี้ทาง ผู้ชี้ทางไง ถ้าผู้ชี้ทางเป็นอย่างนั้น นี่ไง ปฏิบัติพอเป็นพิธีไง

 

ดอกบัวเกิดจากโคลนตม เกิดจากความทุกข์ความยากของเรา เกิดจากการกระทำของเรา เกิดจากความเป็นจริงของเรา ถ้าเกิดจากความเป็นจริงของเรา ถ้ามันเป็นความจริงขึ้นมา ถ้าดอกบัวมันบานขึ้นมากลางหัวใจของเรา อ๋อ!

 

เวลาหลวงตาท่านประพฤติปฏิบัติไปนะ เวลาท่านไปรู้ไปเห็นธรรมะ ท่านบอกว่าหลวงปู่มั่นเทศน์ไว้หมดแล้วแหละ หลวงปู่มั่นเทศน์ไว้หมดแล้วแหละ แต่เราเข้าถึงไม่ได้เอง พอเราเข้าถึงไม่ได้ เราก็พยายามกระเสือกกระสนของเรา แต่เวลาเรากระเสือกกระสนกระทำของเรา พอเข้าไปแล้วนะ หลวงปู่มั่นท่านรู้อยู่แล้ว หลวงปู่มั่นบอกไว้หมดแล้ว หลวงปู่มั่นบอกไว้แล้ว

 

คำว่า “บอกไว้หมดแล้ว” แล้วก่อนหน้านั้นน่ะ ก่อนหน้านั้นท่านก็บอกไว้แล้วใช่ไหม คำว่า “บอกไว้แล้ว หลวงปู่มั่นบอกไว้หมดแล้ว” เราปฏิบัติไป เราไม่ถึง เราก็ยังไม่รู้ใช่ไหม แต่พอเราไปรู้เข้า หลวงปู่มั่นบอกไว้หมดแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นไม่รู้มันก็ไม่รู้ แต่พอรู้ขึ้นมา หลวงปู่มั่นท่านบอกไว้แล้วๆ ไง

 

นี่ก็เหมือนกัน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าวางธรรมวินัยนี้ไว้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าชี้ทางไว้บอกแล้ว แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านนิพพานไปแล้ว มันก็มีแต่พระไตรปิฎกตำรับตำราใช่ไหม เวลาใครไปศึกษาขึ้นมาก็เข้าข้างตัวเอง “เหมือนกัน ใช่แน่นอน” ดอกไม้ประดิษฐ์ มันคิดขึ้นเอง มันทำเอง มันหวังเอง ไม่ใช่

 

แต่ถ้ามันเป็นจริงๆ ขึ้นมานะ เวลาหลวงตาท่านพูดถึงหลวงปู่มั่น หลวงปู่มั่นท่านไปบรรลุธรรมที่เชียงใหม่ เวลาถึงหนองอ้อ อ๋อ! เวลาถึงหนองอ้อ แล้วหลวงตาท่านบอกนะ หลวงปู่มั่นไปสำเร็จที่หนองอ้อ คนค้นหาหนองอ้อกันใหญ่เลยนะ หนองอ้ออยู่ที่นั่น หนองอ้ออยู่ที่นี่ แต่มันไม่รู้ว่า อ๋อ! ขึ้นมาในหัวใจนี้เลยนะ หนองอ้อๆ อ๋อ! นี่ไง ถ้ามันเป็นจริงๆ อ๋อ! โอ้โฮ! อย่างนี้เอง แต่ถ้า อู๋ย! เป็นอย่างนั้นๆ...ยังขี้โม้อยู่ นั่นน่ะดอกไม้ประดิษฐ์

 

ดอกบัวเกิดจากโคลนตมนะ คำว่า “ดอกบัวเกิดจากโคลนตม” รู้จักประหยัดมัธยัสถ์ สมถะ อ่อนน้อมถ่อมตน อย่าอหังการ ความอหังการนั่นกิเลสตัณหาความทะยานอยากทั้งนั้น

 

ครูบาอาจารย์ของเราท่านประพฤติปฏิบัติขึ้นมานะ คนที่ประพฤติปฏิบัตินะ ต้องจริตนิสัยเข้มแข็ง ครูบาอาจารย์ที่สำเร็จๆ ไปอ่านประวัติของท่านสิ ท่านสุดยอดทั้งนั้นเลย สุดยอดในความมีสัจจะ สุดยอดในการซื่อตรง สุดยอดในการปฏิบัติ แต่ภายนอกของท่านนุ่มนวลนะ สมถะ ท่านไม่เคยแสดงตนอหังการเลย

 

ครูบาอาจารย์ หลวงปู่ตื้อ โอ้โฮ! ชื่อเสียงร่ำลือมากนะ เวลาใครจะไปประพฤติปฏิบัติกับหลวงปู่ตื้อต้องเข้มแข็งมาก ต้องมีสัจจะมากถึงได้เข้าไปอยู่กับท่านได้ ไม่อย่างนั้นไม่มีสิทธิ์ได้อยู่กับท่าน แล้วเวลาไปอยู่กับท่าน ท่านดุ ท่านจริงจังมาก แต่เวลาท่านออกมาสังคมแล้วท่านก็เป็นพระปกติ ไม่มีอหังการ ไม่มีมานะ ไม่มีทิฏฐิเลย นี่ไง ดอกบัวเกิดจากโคลนตมไง ไม่มีอีโก้ ไม่อหังการ ไม่ยิ่งใหญ่ อ่อนน้อมถ่อมตน นั่นเรื่องโลก เราอยู่กับโลก เราเกิดมากับโลก ดอกบัวเกิดจากโคลนตม

 

แต่ถ้าในวงปฏิบัติ ในวัดของท่าน ท่านจะจริงจังมาก ลูกศิษย์ลูกหาที่จะไปอยู่กับท่านต้องเข้มแข็ง ต้องเดินจงกรม ต้องนั่งสมาธิ ต้องมีสติสัมปชัญญะ ต้องคุ้มครองดูแลหัวใจของตน นั่นน่ะท่านคุ้มครอง นี่ไง ดอกบัวเกิดขากโคลนตมไง เกิดจากในหัวอกนั้นไง เกิดจากจิตที่ประพฤติปฏิบัติไง เกิดจากการคุ้มครองดูแลของท่านไง ถ้ามันเกิด มันเกิดจริงไง นี่ไง ดอกบัวเกิดจากโคลนตมที่มันได้รับแสงสว่างแสงธรรมะจากครูบาอาจารย์ มันจะได้เบ่งบานออกมาไง มันจะได้สว่างไสวออกมาไง แล้วถ้ามันเป็นจริงอย่างนั้น ดอกบัวเกิดจากโคลนตม มันมีเหง้า มันมีเหง้าบัว เวลามันออกดอกบัวแล้วเดี๋ยวมันก็ออกอีกๆ

 

นี่ก็เหมือนกัน จิตใจที่มันยิ่งใหญ่ จิตใจที่มันรู้จริง เห็นไหม น้ำอมตธรรมไม่มีสุดไม่มีสิ้นไง มันเป็นประโยชน์ไง ดูสิ ดูสวนบัวเขาจะมีดอกบัวทุกปี มีดอกบัวตลอดเวลา นี่ก็เหมือนกัน หัวใจที่ประพฤติปฏิบัติได้เป็นความจริงแล้วมันจะมีความจริง ไม่ต้องไปห่วง ดอกบัวเดี๋ยวก็เหี่ยวเฉา ต้องทำดอกไม้ประดิษฐ์ไว้ กลัวคนจะไม่เห็น กลัวคนจะไม่รู้จักดอกบัว ดอกบัวเลยไม่มีค่าเลย

 

แต่ถ้าเป็นจริงๆ มันเป็นจริงของเรา เห็นไหม อ่อนน้อมถ่อมตน ครูบาอาจารย์ที่เป็นจริงนะ ธรรมะอยู่ในหัวใจ แล้วครูบาอาจารย์ที่เป็นจริง ดูเศรษฐีสิ เศรษฐีเขามีเพชรมีพลอยขึ้นมา เขารู้ว่ามันมีค่า ไอ้ของเรานี่ แหม! มีพลอยเผาก็ยังดีเนาะ มีหินสีที่ขัดสวยๆ ก็พอแล้วล่ะ แล้วยังจะโชว์เขาอีก พอได้ขึ้นมา ตื่นเต้น อู้ฮู! อยากอวดอยากโชว์ แต่เศรษฐีเขามีนะ เขาไม่เอามาโชว์เลยล่ะ แล้วเขารู้ด้วยว่ามันหาได้ยาก

 

นี่ก็เหมือนกัน ผู้ที่ประพฤติปฏิบัติตามความเป็นจริง กว่าเขาจะได้ของเขามา เขามานะบากบั่นแค่ไหน การดูแลรักษาหัวใจดูแลยาก ทำสมาธิได้แล้วจะทำให้มันต่อเนื่องก็แสนยาก ทำครั้งแรก ทำกว่ามันจะสงบระงับ พอสงบระงับขึ้นมาแล้วกิเลสมันยังไม่รู้ตัว มันไม่เท่าทันกับความเพียรของเรา ทำครั้งต่อไป กิเลสมันเพิ่มเป็นสองเท่าสามเท่า มันทบทวีขึ้นมาเพื่อจะรักษาสิทธิ์ของมัน ไอ้เราภาวนาไปก็เอาเหมือนเดิม เอาแค่อ่อนด้อย ไร้สาระมาก

 

แม้แต่ทำความสงบของตนเองได้ จะรักษาความสงบให้มันต่อเนื่องชำนาญในวสี ในการเป็นพื้นฐานของการวิปัสสนา มันยังแสนยาก แล้วยกขึ้นสู่วิปัสสนา สับสน อันไหนจริง อันไหนปลอม อันไหนเท็จ สับสนวุ่นวายไปหมดเลย เวลาประพฤติปฏิบัติไปนะ มันสร้างภาพให้ไง นี่ทำเหมือนไง เป็นอย่างนั้นๆ ก็เชื่อมันไป หลงให้มันหลอกแล้วหลอกเล่า

 

ครูบาอาจารย์แต่ละองค์ที่ท่านกว่าจะประพฤติปฏิบัติมา ท่านเห็นถึงการรักษายาก การดูแลรักษา ถ้าเป็นจริงนะ แต่ถ้าตอแหล ไม่ต้องพูดถึง ถ้าตอแหลเยอะ แต่ถ้าพูดให้สวยงามว่าพอเป็นพิธี ปฏิบัติเป็นพิธี พวกนั้นไม่ต้องพูดถึง เขาไม่มีขอบเขต จินตนาการนะ เวลาพูดถึงธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มันพูดได้ทุกรูปแบบ เหมือนกับนักเขียนนวนิยาย นักประพันธ์มันแต่งได้ทุกเรื่อง จิตมันแต่งได้ทุกๆ เรื่อง มึงจะเอานิพพานมุมมองใดล่ะ เออ! มึงจะเอาธรรมะวิธีการใดล่ะ เดี๋ยวแต่งให้ สุดยอด ทำพอเป็นพิธีไง ทำพอเป็นพิธีเป็นอย่างนั้นแหละ แต่ถ้ามันเป็นจริงๆ นะ ไม่มี อริยสัจมีหนึ่งเดียว ทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ทุกข์ดับ วิธีการดับทุกข์ วิธีการของใคร วิธีการอย่างใด วิธีการทำอย่างไร แล้วผลมันเป็นอย่างไร นี่สัจจะความจริงเป็นแบบนี้

 

นี่พูดถึงว่าดอกบัวเกิดจากโคลนตม เกิดจากหัวใจของเรา เกิดจากหัวอกอันนี้ เอวัง