ถาม-ตอบปัญหาธรรมะ

เทศน์ที่ธรรมศาสตร์รังสิตครั้งที่๑ไฟล์๑

๓ ธ.ค. ๒๕๕o

 

เทศน์ที่ธรรมศาสตร์รังสิต ครั้งที่ ๑ ไฟล์ที่ ๑
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ถาม-ตอบ ปัญหาธรรม วันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๐
ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

 

เราเกิดมาเป็นมนุษย์นะ มนุษย์นี่ มนุษย์สมบัติมีค่าที่สุด เรามาศึกษากัน ศึกษาทางวิชาการ ฝึกเพื่อที่จะออกไปเป็นวิชาชีพ เรื่องชีวิตไง ชีวิตนี่สำคัญที่สุด ชีวิตนะ หน้าที่การงาน การศึกษา การงานต่างๆ อย่าไปเครียด เพราะอะไร เพราะนี่เป็นปัญหารอง ปัญหาหลักของเราคือชีวิต ชีวิตของเรา เกิดมาจากไหน เกิดมาจากพ่อจากแม่ เกิดมาจากพ่อจากแม่ มันก็ต้องไม่สมความปรารถนาของพ่อแม่สิ มันเกิดมาจากกรรมทั้งนั้นแหละ แรงขับของเรามีเราจึงมาเกิดกัน พอเกิดมาแล้วเราเป็นมนุษย์สมบัติ อริยทรัพย์เพราะมีเรานะถึงมีโลกนี้หมดเลย เรารู้โลกนี้หมดเลย ถ้าไม่มีเราละ โลกก็เป็นอยู่อย่างนี้แล้วเราจะได้อะไรละ เห็นไหม มนุษย์สมบัตินี่สำคัญที่สุดเลย

เราเป็นเจ้าของสมบัติไง แต่สมบัติภายนอกนะ แก้ว แหวน เงิน ทองเป็นสมบัติจากภายนอก ศึกษากัน มีอาชีพกัน แสวงหากัน แสวงหาของที่เป็นแต่เฟอนิเจอร์ไง แล้วเจ้าของมันคือใคร เจ้าของมันคือเรานะ แล้วเราคือใคร เราก็ไม่เห็น เราเป็นธาตุ ๔ เราเป็นร่างกายของมนุษย์ไง เราคือความรู้สึก ความรู้สึกคือเรา แล้วความรู้สึกมันอยู่ที่ไหน ความรู้สึกมันอยู่ในร่างกายนี้

ศาสนาสอนตรงนี้ ตรงที่เครื่องอยู่อาศัยมันเครื่องอาศัยเท่านั้น อาศัยดำรงชีวิตเท่านั้นเอง องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกว่าให้ภิกษุเลี้ยงชีพแบบหยอดล้อเกวียน ไม่ให้ล้อเกวียนมันเสียงดังจนเกินไป ให้ล้อเกวียนยังหมุนไปได้ ปัจจัยเครื่องอาศัยนะ เราต้องการกันแค่นี้แหละ แค่ดำรงชีวิตให้ชีวิตมันอยู่ได้ แต่เราไปติดกันไง เราคือคุณงามความดีที่มาเกิด ทำไมเราเกิดมาแล้ว ทำไมอำนาจวาสนาสูงๆต่ำๆไม่เท่ากัน สิ่งที่ไม่เท่ากันนะเพราะการกระทำมา ในพ่อแม่เดียวกันนะ อย่าว่าแต่เราอยู่ร่วมกันเลย แม้แต่ในพ่อและแม่เดียวกัน ลูกที่พี่น้องท้องเดียวกันยังไม่เท่ากันเลย พ่อแม่เดียวกัน พ่อแม่ต้องรักลูกเสมอกันสิ แล้วลูกเกิดมาหลายคน ทำไมลูกมีความเห็นต่างๆ กันล่ะ ลูกมีความเห็นต่างๆ กันเพราะสมบัติของหัวใจ สมบัติของความรู้สึกที่มันเกิดมันตายเวียนมา มันมาเกิดเป็นเรา สิ่งนี้สำคัญมาก ถ้าสำคัญมากองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงสอนให้มีศีล สมาธิ ปัญญา เราทำบุญกันนะ นี่เราทำบุญกันเพื่ออะไร ศีล ๕ ถ้ามีศีล ๕นะ เราไม่ฆ่าสัตว์ เราไม่ตัดชีวิต เราไม่ลักของเขาเห็นไหม

สิ่งนี้เป็นประโยชน์กับเรานะ เพราะอะไร เพราะทำให้ชีวิตเราไม่สั้น เราตัดทอนชีวิตเขา ชีวิตเรามันก็สั้นไป ถ้าเราให้ชีวิตเขา เราเมตตา เราเกื้อกูลเขาเห็นไหม สิ่งนี้เป็นประโยชน์กับเรานะ ศีล ๕ ศีล สมาธิ ปัญญา สมาธิคือตัวตน สมาธิคือตน ถ้าเราไม่มีสมาธิ เราไม่รู้จักตัวตนเลย เราชื่อนาย ก. นาย ข. กัน ถ้าเราไปโรงพยาบาลนะ เขาตัดอวัยวะทิ้งไปนะ เราต้องเอาไปทิ้งเลยเพราะมันเป็นสิ่งที่เป็นขยะพิษ เราไม่ต้องการเลย แต่เวลาอยู่กับเราทำไมเป็นของเราละ ทำไมเป็นของเรา เห็นไหม สมบัติจริงๆ มันอยู่ที่ความรู้สึก บุญกุศลความดีเรามีภาพประทับใจ เราเคยเห็นสิ่งใดประทับใจ มันจะประทับใจเรามาก สิ่งที่ประทับใจมันเป็นค่าความรู้สึกนะ สิ่งที่ความกระตุ้นหัวใจที่ความรู้สึกจากภายใน นี่คือสันทิฏฐิโก นี่ปัจจัตตัง

ศาสนามีอยู่ที่นี่นะ ศาสนาพุทธเราสำคัญมาก สำคัญเรื่องความรู้สึกอันนี้ แล้วความรู้สึกอันนี้นะ เวลาเราประพฤติปฏิบัติคือเอาชนะตน ถ้าเราแพ้ตนเองนะ เราก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ ถ้าเราแพ้ตัวเอง เราทำอะไรไม่ได้เลย แต่ถ้าเราชนะตนเองเห็นไหม เอามันไว้ในอำนาจของเรา เอาเราไว้ในอำนาจของเรา ถ้าเอาไว้ในอำนาจของเรา เอาอะไรไปเอามัน เอาสติสัมปชัญญะ เอาการฝึกฝน แล้วเกิดปัญญา โลกุตรปัญญา หลวงปู่มั่น ครูบาอาจารย์ของเรารื้อค้นสิ่งนี้ขึ้นมา ศาสนานี่มันมีแต่ตำรา มีแต่แผ่นที่เครื่องดำเนิน แต่ความจริงมันไม่มี พอความจริงมันไม่มี ไม่มีใครสามารถชี้ความจริงได้ คนไม่เคยลงพื้นที่จริง มีแต่แผนที่แล้วเอามาวิจัยในเรื่องแผนที่ เป็นไปไม่ได้ แต่ครูบาอาจารย์ของเราลงพื้นที่ ลงพื้นที่คือลงเข้าไปในหัวใจนี่ไง แล้วไปรื้อค้นมันไง แล้วไปทำลายมันไง

แล้ววิธีการทำลายมันทำกันอย่างไร มรรค ๘ มรรค ๘ พูดกันปากเปียกปากแฉะนะ มรรค ๘ มัน ๘ ที่ไหน มรรค ๘ มาจากไหน มาจากในตำราหรือ มันแปดมาด้วยพิมพ์เขียวหรือ มันมาจากไหน แล้วเราไม่ทำของเรา นี่ศีล สมาธิ ปัญญามันเกิดที่นี่นะ ถึงบอกว่ามนุษย์สมบัติสำคัญมากนะ เทวดาอินทร์พรหมณ์ฟังเทศน์ครูบาอาจารย์นะ ฟังเทศน์หลวงปู่มั่น ฟังเทศน์พระพุทธเจ้า พวกเทวดาอินทร์พรหมณ์ยังต้องลงมาฟังเทศน์จากพระ อย่างมนุษย์เรา มนุษย์ที่ประพฤติปฏิบัติ แล้วรู้วิธีการ วิธีการใช่ไหม กิจจญาณ สัจญาณ ไม่มีกิจญาณ ไม่มีการกระทำ ลมเป็นลม พูดกันลอยลม พูดกันไม่มีต้นไม่มีปลายเลย แต่ถ้ามันเป็นความจริงนะ มันไปเริ่มจุดเริ่มต้นที่ไหน

จุดเริ่มต้นอยู่ที่ความสงบของใจ แล้วจุดสิ้นสุดมันอยู่ที่ไหน คนเกิดคนตายคนตายเอาอะไรไปเกิด แล้วสิ่งที่เกิดมันอยู่ที่ไหน เริ่มต้นเริ่มต้นแบบนี้ ถึงบอกว่ามนุษย์สมบัติสำคัญที่สุดเพราะมนุษย์สมบัติมันมีหัวใจอยู่ในร่างกายของเรา ร่างกายที่นั่งกันอยู่เพราะมีธาตุรู้ มีพลังงาน มีไฟ มันถึงได้เผาผลาญให้เราเคลื่อนไหวได้ เวลาจิตมันออกจากร่างนะ พลังงานไม่มีเห็นไหม กลายเป็นท่อนไม้ แข็งไปหมดเลย ขยับเขยื้อนไม่ได้เลย หัวใจสำคัญขนาดไหน แม้แต่โดยธรรมชาติของมนุษย์ ถ้ามีหัวใจอยู่ มีพลังงานอยู่เรายังเคลื่อนไหวได้ ร่างกายยังเคลื่อนไหวไปได้เห็นไหม แล้วพลังงานตัวนี้มันสงบเข้ามา แล้วพลังงานตัวนี้มันเข้ามาชำระกิเลสจากภายใน นี่มรรคมันอยู่ที่นี่ มรรคมันไม่ใช่อยู่กับการดำรงชีวิตหรอก

การดำรงชีวิต สัตว์มันก็ดำรงชีวิต ดูสิ สุนัขมันดำรงชีวิตของมัน มันก็เลี้ยงเผ่าพันธุ์ของมันมา ดูสิสัตว์ทั้งหลายมันก็ดำรงชีวิตของมันแล้วเป็นมรรคไหม สัมมาอาชีวะ เลี้ยงชีพชอบ โจรมันปล้นชอบไหม โจรมันปล้นชอบเปล่า มันก็ปล้นของมันมา เห็นไหม เลี้ยงชีพชอบเลี้ยงที่ไหน เลี้ยงที่กายกับเลี้ยงที่ใจ เราบิณฑบาตมานี่เป็นทาน เรื่องของทาน เราทำกุศลกัน เห็นไหม แล้วเราก็จะประพฤติปฏิบัติกัน เราจะทำสมาธิของเรา เราจะต้องทำให้เกิดปัญญาของเรา ปัญญาของเรานะ ปัญญาในพระไตรปิฎกเป็นปัญญาขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ารื้อค้นมาแล้วปฏิบัติมา แล้ววางวิธีการเป็นแผนที่เครื่องดำเนินไว้ให้พวกเราเดิน แล้วถ้าเราประพฤติปฏิบัติของเราขึ้นมา เราใช้ปัญญาของเราขึ้นมา จะเป็นปัญญาของเรา เงินของเรานะอยู่ในบัญชีของเรา เงินในธนาคารชาติเป็นแสนแสนล้านเลยเป็นของสาธารณะ ปัญญาในพระไตรปิฎกก็เหมือนกัน เป็นปัญญาสาธารณะที่เราจะไปรื้อค้นขึ้นมา แต่ปัญญาของเรานี่ยังไม่เกิด

ถ้าปัญญาของเรายังไม่เกิด เราต้องมีความมุมานะ การศึกษาศึกษามาเพื่อเป็นวิชาชีพ ศึกษามาเพื่อเป็นวิชาการเพื่อเราจะไปประกอบอาชีพ ประกอบอาชีพมาเลี้ยงไอ้ธาตุ ๔ นี่ แต่ไม่เคยมีใครประกอบอาชีพมาเลี้ยงหัวใจเลย ในภาคปฏิบัติเรานี่เป็นการประกอบอาชีพมาเลี้ยงหัวใจ คือประกอบเป็นความเห็นจากภายใน เป็นศีล สมาธิ ปัญญาเข้าไปควบคุมความรู้สึก แล้วควบคุมให้มันอยู่ในอำนาจของเรา จากปุถุชนเป็นกัลยาณปุถุชน ปุถุชนคือคนฟุ้งซ่าน กัลยาณปุถุชนคือคนที่สงบได้ ความสงบนี่เป็นกัลยาณปุถุชน แล้วกัลยาณปุถุชนคือจุดสตาร์ท จุดสตาร์ท ให้ทางวิชาการทำวิจัยกับหัวใจของเราเอง ให้เกิดเป็นมรรคญาณ

มรรคญาณเกิดตรงนี้ แล้วเข้ามาทำลายกิเลสคือทำลายสิ่งเร้าในหัวใจที่เราควบคุมมันไม่ได้ นั่นคือความเคยใจ สิ่งที่ต้องการแล้วมันเร้า เห็นไหม มันเร้าเราแล้วเราทนไม่ได้ เราต้องทนให้มันบังคับบัญชาแล้วไปตามมัน สิ่งนี้เข้ามาจำกัดมัน แล้วต้องทำลายมัน ทำได้ พิสูจน์ได้ด้วยความรู้สึก พิสูจน์ได้ด้วยหัวใจของเรา พิสูจน์กันเอง นี่พระกรรมฐาน กรรมฐานคือฐานที่ตั้ง ฐานคือฐานของหัวใจ ฐานคือขั้วหัวใจ แล้วทำลายมัน นี่คือกรรมฐานเห็นไหม มรรคเกิดตรงนี้นะ งานก่อสร้าง งานต่างๆ ของโลกนี่มันเป็นเรื่องของปัจจัยเครื่องอาศัย นกยังมีรวงมีรังใช่ไหม คนก็ต้องมีที่อยู่อาศัยใช่ไหม แต่อาศัยเป็นปัจจัยเครื่องอาศัย อย่าไปติดมัน

เราต้องเป็นเจ้านายมัน สร้างบ้านสร้างเรือนกันนะใหญ่โตมโหฬารเลย ส่วนห้องนอนเราก็นิดเดียว เท่านั้นละ แต่สร้างกันมหาศาล เราไปติดมันนะ แต่ถ้าเราใช้มันนะ เราจะไม่ต้องเสียเวลาไปบำรุงรักษามันมาก ชีวิตเราจะมีคุณค่า แล้วชีวิตเราจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมด้วย เป็นประโยชน์ต่อตัวเราก่อน เรารู้จักตัวตนของเรา แล้วจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมด้วยนะ เอวัง