ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งปัญญา ท่านพระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต สอนให้ยึดกาลามสูตร ให้เชื่อโดยพิสูจน์ปฏิบัติ ไม่ให้ตื่นข่าว
พระอรหันต์เท่านั้นอัฐิกลายเป็นพระธาตุ หลวงปู่มั่นตอบไว้ “พระอรหันต์มีประเภทเดียว” คือ พระอรหันต์อาสวักขยญาณ ต่างกันแต่ความชำนาญ ไม่มีใครรู้คุณค่าของธรรมเท่าพระอรหันต์ ต่างกับพระที่โม้โอ้อวดเป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทา เห็นเงินทองมีคุณค่ามากกว่าธรรม ส่วนพระปฏิบัติจะเห็นคุณค่าของธรรม ของศีล สมาธิ ปัญญา กรณีพระบิณฑบาตยืนให้พรเป็นอาบัติทุกกฏ จริง จริงตามพระวินัย
ในการดูจิตของญาติโยมที่สอนโดยลูกศิษย์หลวงปู่ดูลย์ ผิดหมด เพราะดูด้วยการเพ่งแบบภารโรง หมาเฝ้าบ้าน ต่างกับหลวงปู่ดูลย์ ซึ่งดูด้วยปัญญาแบบผู้บริหารองค์กร หรือปัญญาอบรมสมาธิ ส่วนความเห็น อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน มีแต่ทางธรรม ส่วนทางกิเลสไม่ต้องไปคบ ไปส่งเสริม เพราะกิเลสมันเหยียบยํ่าหัวใจอยู่แล้ว
ในการปฏิบัติยากคราวเริ่มต้น และ คราวสิ้นสุด สรรพสิ่งในโลกมีเกิดมีดับ สมาธิก็มีเกิดมีดับ มีเจริญมีเสื่อม รักษาโดยตั้งสติ ให้พุทโธ หรือใช้ปัญญาอบรมสมาธิ เมื่อกิเลสสร้างภาพ หลอกลวงจนเป็นอุปสรรค หรือจิตสงบไปเห็นสภาวะหลุดพ้นก็อยากเห็นอีก ไม่ให้ไปคาดหมายกดดัน ให้เป็นทุกข์ เพราะธรรมทั้งหลายมาแต่เหตุ ให้สร้างเหตุ สร้างสัมมาสมาธิ อันเป็นพื้นฐานสำคัญของการภาวนา แล้วจึงยกสู่วิปัสสนา เมื่อภาวนาเป็นก็จะย่นและยุติภพชาติพ้นทุกข์ในที่สุด