เทศน์เช้า วันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๓
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต
ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
ตั้งใจฟังธรรมเนาะ วันนี้วันพระ วันพระวันหาบุญกุศลใส่เรานะ มีบุญกุศลทำให้เนี่ย อามิส สิ่งที่เกิด บุญพาเกิด เกิดในสิ่งที่เรามีชีวิตเห็นไหม เกิดในประเทศอันสมควร ถ้าบุญ บุญพาเกิดเหมือนกันเห็นไหม เวลาเกิดขึ้นมาเนี่ย เกิดลุ่มๆ ดอนๆ การเกิดและการตาย พุทธศาสนาสอนให้เชื่อเรื่องกรรม เรื่องการเกิดและการตาย การเกิดและการตายใครพาเกิดพาตายเห็นไหม แต่เวลาศาสนาเดี๋ยวนี้โลกมันเจริญใช่ไหม เวลาเขาไปศึกษาทางฮินดู เขาบอกว่าถ้าเป็นอาตมันเนี่ยมันจะไปเป็นเหมือนฮินดูไง คือว่าจิตคงที่เนี่ยเป็นเหมือนฮินดู แต่ของเรามันไม่ใช่จิตคงที่ จิตมีอยู่ แต่ไม่คงที่เพราะมันเป็นอนิจจัง มันแปรสภาพของมัน บุญพาเกิด บาปพาเกิด พาเกิดนะ
แล้วพาไม่เกิดล่ะ พาไม่เกิดพาไปที่ไหน มันพาไปนรกอเวจี พาไปเป็นอินทร์เป็นพรหมเห็นไหม เนี่ยมันมีอยู่ แต่ไม่คงที่ไง ในพุทธศาสนาไม่ได้สอนเรื่องคงที่ ไม่สอนเรื่องอาตมัน แต่สอนเรื่องความมีอยู่ ความมีอยู่ความเป็นไป นี้ความมีอยู่ความเป็นไปเนี่ยมันเปลี่ยนแปลงได้ เปลี่ยนแปลงด้วยบุญกุศลของเรา บุญกุศลนะพากันเกิด เกิดร่มเย็นเป็นสุขเห็นไหม แต่คนเกิดมาแล้วเนี่ยมันก็มีทุกข์เป็นธรรมดา คำว่าทุกข์เป็นธรรมดานะเพราะมันอริยสัจ มันเป็นความจริง จะมั่งมีศรีสุขขนาดไหน มันก็มีความหมักหมมในหัวใจเพราะมันมีเจตนาความทะยานอยาก จะทุกข์ทนเข็ญใจขนาดไหน มันยิ่งทุกข์ยากเข้าไปอีกเห็นไหม เนี่ยบุญพาเกิดหรือบาปพาเกิด เกิดในประเทศอันสมควร เกิดในพุทธศาสนานะ
ดูสิเวลาเกิดภัยแล้ง ภัยแล้งขึ้นมาเนี่ย พอทำงานวิจัยเห็นไหม เขาบอกว่าคนเวลาจนคนทุกข์คนยากเนี่ย เวลาพูดถึงพืชพันธุ์ธัญญาหารมันขาดแคลนเนี่ย เศรษฐกิจนะ มันดีใช่ไหม พูดถึงราคา ราคามันดีเนี่ย เกษตรกรมันต้องได้ผลประโยชน์นั้นด้วย แต่เกษตรกรแทบจะไม่ได้ผลประโยชน์นั้นเลย เขาทำการวิจัยนะ ว่าในอินเดียเนี่ยคนฆ่าตัวตายเพราะหนี้สิน พวกเกษตรกร ปีหนึ่งสองสามแสนคน มันเป็นข่าวไหม มันไม่เป็นข่าวเพราะอะไร เพราะวัฒนธรรมประเพณีของเขา วรรณะเห็นไหม วรรณะของเขาเนี่ย วรรณะต่ำ วรรณะแพศย์ พราหมณ์ ศูทร เขาทุกข์จนเข็ญใจ อันนี้คืออะไร อันนี้คือประเพณีวัฒนธรรมไง ในเรื่องของวรรณะเนี่ยมันมีประเพณีวัฒนธรรมเห็นไหม ถ้าเกิดเป็นอย่างนั้นดูสิ เนี่ยเราไม่เคยออกนอกประเทศไทยเลยนะ แต่เราดูสารคดี เวลาคนเขาไปเห็นไหม พวกที่คนทุกข์คนยากเขามาขอเนี่ย พวกที่ควบคุมเขาใช้หวายใช้แส้ตีเลย มันตีได้อย่างไร
ถ้าเป็นประเทศที่เจริญแล้วเขายอมรับไหม เขายอมรับกันไม่ได้หรอก แต่ในประเทศเขาเขายอมรับเพราะวรรณะเขายอมรับเห็นไหม เนี่ยเกิดในประเทศอันสมควร ถ้าเกิดในประเทศสภาวะแบบนั้น ประเพณีวัฒนธรรมไม่ใช่กฎหมายนะ แต่เป็นความเชื่อ ความยอมรับ ความยอมจำนน ในเมื่อผู้ที่มีการปกครองอยู่เขาใช้อำนาจของเขา ผู้ที่อยู่ใต้ปกครองเขาต้องยอมรับสภาวะแบบนั้น เห็นไหม เนี่ยประเพณีวัฒนธรรม ถ้าประเพณีวัฒนธรรมของเราเนี่ยประเพณีของชาวพุทธ พุทธศาสนาให้เสียสละ ให้เสียสละกัน ให้ดูแลกัน ให้เจือจานกัน เราเกิดในพุทธศาสนาเห็นไหม
เนี่ยบุญพาเกิด เกิดในประเทศอันสมควร ถ้าบาปพาเกิด เกิดในสภาวะแบบนั้น เนี่ยความคิดของคนมีทุกคน แต่ด้วยความเชื่อ ด้วยความเชื่อ ด้วยยอมรับความจำนนอย่างนั้น มันก็ยอมรับความจำนนอย่างนั้นเห็นไหม แต่เวลาพุทธศาสนานะ องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดขึ้นท่ามกลางที่ชมพูทวีป ก็อินเดียนั่นแหละ ก็วรรณะมันมีมาก่อนนี้แล้ว องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ให้เชื่อเรื่องวรรณะไง ให้เชื่อการเกิดเสมอกัน คนเราไม่ใช่ดีที่การเกิด การเกิดเห็นไหม คนเกิดสูงๆ ต่ำๆ เนี่ยถ้ามันสูงต่ำ คนเกิดสูง คนเกิดเป็นลูกเศรษฐีกุฎุมพี มันเกิดแล้วต้องเป็นคนดีตลอดไปสิ มันต้องเป็นคนดีเพราะดีต่อการเกิด
องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกไม่ใช่ดีเพราะการเกิด การเกิดไม่ใช่เป็นคนดี เกิดแล้วคุณงามความดี ทำดีทำชั่วต่างหาก การทำดีทำชั่วอันนั้นถึงเป็นความดีของเรา การเกิดเกิดเพราะบุญกุศล คนเราเห็นไหม มันก็มีสูงๆ ต่ำๆ เวลาบุญพาเกิดเห็นไหม พาเกิดในสภาวะแบบนั้น แต่ด้วยสายบุญสายกรรมเห็นไหม เกิดมาแล้วเนี่ย ถ้าส่งเสริมเนี่ย อภิชาตบุตรก็เกิดในครอบครัวแล้วครอบครัวนั้นเจริญรุ่งเรือง เกิดมาแล้วเนี่ยเกิดมาเป็นภาระของครอบครัวเห็นไหม นั่นไง เกิดมาเป็นภาระ แล้วพ่อแม่ทิ้งได้ไหม นี่ไง สายบุญสายกรรมไง ถ้าเป็นลูกของเรา เราต้องดูแลตลอดไป เราต้องรักษาตลอดไป มันมีบุญ มีเวร มีกรรมมาต่อกัน นี่แหละสายบุญสายกรรม
แต่ขณะนี้สายบุญสายกรรมนี้ นี่ไงกรรมเก่ากรรมใหม่ กรรมเก่าคือกรรมที่เราสร้างมาแล้วสะสมลงในหัวใจและมันจะไปของมันเห็นไหม แต่กรรมใหม่หรือกรรมปัจจุบันนี้ องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เชื่อกรรม แล้วเนี่ยให้เชื่อกรรม ให้พยายามทำบุญกุศล ให้อุทิศส่วนกุศลให้อโหสิต่อกัน ให้อภัยต่อกัน เนี่ยให้อภัยต่อกัน นี่เป็นเรื่องของผลกระทบของสังคมนะ แต่ถ้าเรื่องของตัวเราล่ะ เราจะให้อภัยตัวเราไหม เราอยากจะมาเกิดอีกไหม เราต้องมาทุกข์มายากอย่างนี้อีกไหม แล้วไม่ทุกข์ไม่เกิดแล้วไปไหน เห็นไหม เวลาเขาพูดเสียดสีกันไง เขาบอกไม่ไปเกิดบนสวรรค์หรอก สวรรค์ไม่มีคน อยากเกิดบนโลกมนุษย์นี่แหละเพราะโลกมนุษย์นี่มันเยอะเห็นไหม โลกนี้มีความสุข ถ้าไปเกิดบนสวรรค์กลัวจะไปอยู่คนเดียวเห็นไหม
นี่เขาพูดเสียดสีกัน แต่ความจริงมันต้องการอะไรล่ะ เราต้องการสิ่งดีๆ ทั้งนั้น เราต้องการสิ่งที่ประสบความสำเร็จ เราต้องการเกิดสุขสบายทั้งนั้น แต่การเกิดสภาพนั้น มันเกิดแล้วก็เวียนตายเวียนเกิดเห็นไหม พอหมดอายุขัยของเทวดาอินทร์พรหมก็ต้องวนกลับมาเกิดอีกเห็นไหม แต่ถ้าเรา วรรณะเราล่ะ ความสูงความต่ำในหัวใจเราล่ะ ถ้าเราเห็นคุณประโยชน์พุทธศาสนา เรื่องบุญกุศลเราก็ทำของเรานะ บุญกุศลเห็นไหม มันเป็นเรื่องอามิส เรื่องวัตถุที่เราเสียสละได้ แต่ความหมักหมมของใจ ความเร่าร้อนของใจ ความสะสมของใจ ใจที่มันเสียดแทงในหัวใจเนี่ย เราจะเอาอะไรไปแก้ไขมันเห็นไหม เราจะแก้ไขได้ องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกว่าเราเป็นแค่ผู้แนะ ผู้ชี้ ผู้บอกเท่านั้นละ เราเองต่างหากจะเป็นผู้แก้ไขเรา ถ้าเรามีความเชื่อความศรัทธาในเรื่องบุญกุศล เราก็ทำของเรา ทำเพื่ออะไร ทำเพื่อให้หัวใจมันเปิดกว้าง จิตใจที่เป็นสาธารณะ จิตใจที่เป็นคนที่ดีงามเนี่ย เขาจะเห็นเผื่อแผ่กับคนอื่นเห็นไหม
ถ้าเผื่อแผ่ ถ้าจิตใจให้มันเปิดกว้างเพราะมีการเสียสละ มันเปิดกว้างขึ้นมา จิตใจเป็นสาธารณะ ถ้าจิตใจเป็นสาธารณะเนี่ยจิตใจมันเปิดกว้างขึ้นมาเนี่ย แล้วมันจะมีโอกาสได้ชำระล้างของมัน ถ้าจิตใจมันปิดกั้นของมันเห็นไหม ความจริงหนึ่งเดียวคือปิดกั้นตัวเอง ถ้าปิดกั้นตัวเองเราจะทำสิ่งใดได้ในเมื่อเราไม่ยอมรับรู้สึกสภาวะแวดล้อมสิ่งต่างๆ ใดเลย แล้วจิตของเรา เราจะออกไปได้อย่างไร เห็นไหม ถ้าเราทำทานทำเพื่อเหตุนี้ ทำทานเพื่อการเสียสละ เพื่อเปิดกว้างในหัวใจ ถ้าหัวใจมันเปิดกว้างขึ้นมาแล้วเนี่ยเห็นไหม ทำทานร้อยหนไม่เท่าถือศีลหนหนึ่ง ศีลบริสุทธิ์ไง ศีลบริสุทธิ์คือความปกติของใจ ใจที่มันปกติจะไม่มีความเร่าร้อน จะไม่มีความทุกข์ยากของมัน จะไม่มีการเหยียบย่ำในหัวใจของเรา กิเลสตัณหาทะยานอยากมันเหยียบย่ำหัวใจของเราเอง มันเกิดเห็นไหม
หลวงตาบอกว่ามันขับถ่ายไว้บนหัวใจของเรา แล้วมันก็ไปแล้วนะ เรามีแต่ความเร่าร้อนเนี่ย มันถ่าย คือตัณหาทะยานอยาก ความวิตกกังวลมันเกิดขึ้นมาจากเรา ผลของการวิตกกังวล เราทุกข์เห็นไหม กิเลสมันถ่ายในหัวใจของเราเนี่ยมันเหยียบเราแล้ว มันก็ไปแล้ว แล้วเรานี่ก็ทุกข์ๆๆ อยู่นี่เห็นไหม เนี่ยถ้าเราทุกข์อย่างนี้ เราจะแก้ไขมันยังไง ถ้ามันแก้ยังไง เนี่ยความปกติของใจ ถ้าใจปกติเนี่ยมันจะไม่ขับถ่ายเรา เราจะรักษาใจของเราได้ไม่ให้สิ่งใดๆ มาขับถ่ายทิ้งความโสโครกไว้ในหัวใจ นี่ความปกติของมันนะ แล้วสิ่งที่ปกติ ปกติเฉยๆ มันก็เรรวนใช่ไหม ปกติมันก็อนิจจังใช่ไหม เดี๋ยวก็มี เดี๋ยวก็เป็น เดี๋ยวก็ไปใช่ไหม เพราะมันเปลี่ยนแปลงใช่ไหม
เราต้องใช้ปัญญา ปัญญาคือเราแก้ไขของเราเห็นไหม ถ้าแก้ไขของเรา นี่ไง แก้ไขไอ้ที่ปฏิสนธิจิตเนี่ย ไอ้วิญญาณปฏิสนธิ ไม่ใช่วิญญาณรับรู้ เราบอกวิญญาณๆๆ กลัวผีๆๆๆ ไอ้นี่วิญญาณในอายตนะนะ แต่ถ้าวิญญาณตัวที่พาเกิดพาตายมันละเอียดกว่านั้นนะ ถ้าจิตสงบเข้าไปเห็นตัวสภาวะแบบนี้ ไปแก้ไขกันที่นั่น ถ้าแก้ไขที่นั่นเห็นไหม เนี่ยวรรณะ วรรณะที่มันลุ่มๆ ดอนๆ วรรณะจากภายนอกเห็นไหม วรรณะเราเกิดมาด้วยเวรด้วยกรรม เราเกิดมาด้วยเวรด้วยกรรม เกิดมาแล้วเนี่ยเกิดมาในประเทศสมควรไม่สมควร เราไปเจอสภาวะแบบนั้น เขายอมรับกันในสังคมประเพณีของเขา ไม่ได้ติเตียนใครนะ เพียงแต่เอาภาพมาให้เห็นไงว่าถ้าสังคมอย่างนั้น เขายอมรับสภาวะแบบนั้น เขาปกครองดูแลกันอย่างนั้น
เห็นไหม คนวรรณะต่ำเนี่ยเวลาทุกข์ทนไม่มีทางออก เขา เนี่ยมันไม่มีสติเพราะว่ากฎหมาย ในกฎหมายในกฎหมายสากลต่างๆ เนี่ยมันแบบว่าในเมื่อประเทศของตัวเห็นไหม เนี่ยไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องภายในของเขา ความเป็นภายในและภายนอก เวลาสังคมเนี่ย เวลากฎหมายสากลเนี่ยมันปกครองทั้งโลก แต่โลกเนี่ยมุมมอง เนี่ยประเพณีวัฒนธรรม พื้นถิ่นแตกต่างหลากหลาย เนี่ยแล้วมนุษย์มันเกิด เกิดในสภาวะสมควรต่างๆ เห็นไหม ในปัจจุบันนี้เรามองภาพอย่างนั้นแล้วมาเตือนตัวเราไง เตือนตัวเราว่าเราเกิดในประเทศอย่างนี้ เรามีความทุกข์ของเราอย่างนี้ ความทุกข์ประจำธาตุขันธ์ ความทุกข์ประจำชีวิต แต่ชีวิตมันเป็นความทุกข์ เป็นอริยสัจ ความทุกข์อย่างนี้มันกระตุ้นเราไหม สิ่งที่กระตุ้นเรา ให้เราไง น้ำร้อนปลาเป็นน้ำเย็นปลาตาย ถ้ากระตุ้นเราเนี่ยน้ำร้อนปลาเป็น เราจะขวนขวาย จะได้ไปทำประโยชน์ของเรา สิ่งที่เป็นประโยชน์กับเรา
เรายังมีชีวิตอยู่ เรายังขยับเขยื้อนได้ เรายังขับเคลื่อนได้ เรายังแก้ไขได้ คนตายแล้วเห็นไหม ซากศพก็เอาไปฝังเอาไปเผา จิตใจที่มันไปอีกเห็นไหม มันไปเนี่ย สิ่งนั้นไปนี้ในสถานะใหม่คือเปิดภพชาติใหม่ มุมมองใหม่ ความเห็นใหม่ เนี่ยไปใหม่ๆ จะเชื่ออย่างนี้อีกไหม ถ้าปัจจุบันยังเชื่ออยู่ ยังแก้ไขอยู่เนี่ย เราต้องเอาตรงนี้ เราไม่หวังพึ่งน้ำบ่อหน้า น้ำบ่อปัจจุบันนี้ น้ำหัวใจเรา ตัวของเราเนี่ย เราจะพึ่งน้ำบ่อนี้ เราจะพึ่งความเห็นอันนี้ เราจะแก้ไขในหัวใจเรานี้ เราไม่พึ่งน้ำบ่อหน้า น้ำบ่อหน้าคือชาติหน้าชาติต่อไป เราจะไปหวังพึ่งเอาข้างหน้าๆ แล้วน้ำบ่อนี้ไม่ดูแลเลยเหรอ ความเป็นไปในปัจจุบันนี้ดูแลไหม แล้วน้ำบ่อนี้มันมาจากไหนเพราะมันมาจากบุญจากกรรมขึ้นมา เพราะเราเชื่อพุทธศาสนา เราทำคุณความดีในปัจจุบันนี้ ทำคุณงามความดีแล้วเนี่ยให้มันละเอียดเข้าไป มีสติปัญญาของเราเข้าไป
เนี่ยสิ่งที่เป็นวัตถุเราเสียสละได้ แต่สิ่งที่เป็นความรู้สึก เป็นนามธรรมเนี่ยจะเสียสละยังไง จะแก้ไขยังไง จะทำยังไงให้เป็นประโยชน์กับเรา เราเห็นเองนะ เวลากิเลสขาด ขาดต่อหน้า เวลาสิ่งที่ละออกไป เราละเห็นชัดๆ เป็นสันทิฏฐิโก เป็นความเห็นชัดเจนเลย เป็นเหมือนกับวัตถุเลย เวลาที่ว่าพระสารีบุตร หลานพระสารีบุตรไปต่อว่าองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่พอใจสิ่งต่างๆ เพราะว่าเอาตระกูลของพระสารีบุตรมาบวชหมดเลย ถ้าเธอไม่พอใจสิ่งต่างๆ เธอต้องไม่พอใจอารมณ์ความรู้สึกของเธอด้วยเพราะอารมณ์ความรู้สึกของเธอก็เป็นวัตถุอันหนึ่ง เป็นวัตถุอันหนึ่ง เป็นวัตถุที่จับต้องได้เลย ความรู้สึกเนี่ย สติปัญญามันทันเนี่ยมันจับความคิดเราได้เลย และเป็นวัตถุอันหนึ่งเลย แล้วแก้ไขเปลี่ยนแปลงมัน ชำระล้างมันได้เลย ได้เลย ผู้รู้ ผู้เห็นทำได้ ผู้รู้เห็นพูดอะไรกัน พระพูดอะไร ไอ้คนฟังก็ไม่รู้เรื่อง ไอ้คนพูดก็โกหกหรือเปล่าก็ไม่รู้
แต่ถ้าคนทำเนี่ยโกหกไม่โกหก สันทิฏฐิโก รู้เหมือนกัน เห็นเหมือนกัน มันจะเป็นอันเดียวกัน ความรู้สึกจากใจดวงหนึ่งสู่ใจดวงหนึ่ง ความรู้สึกในหัวใจเป็นยังไง ผู้ที่ปฏิบัติจะเป็นอย่างนั้น รู้จริงอย่างนั้น ถึงเป็นปัจจัตตัง หลอกกันไม่ได้ ถ้าผู้ปฏิบัติจริงๆ แล้ว หลอกกันไม่ได้ จะหลอกได้แต่ความสูงความต่ำของวุฒิภาวะ เนี่ยหลอกกันได้ เหมือนกับความว่างๆๆ เราก็ว่าว่างกันหมดเลย จินตนาการว่าง ว่างกันในโอ่งในไหไง ในโอ่งก็ว่าง อวกาศก็ว่าง แล้วอะไรมันว่าง เนี่ยเวลาว่างก็ว่างกันไปเรื่อยเฉื่อย แต่ในว่างในพุทธศาสนามันมีขอบมีเขต มีการกระทำ ว่าง หยาบ ละเอียดมันมีผลรองรับ มีเหตุมีผลมีประเด็นความจริงรองรับ
นี่พูดถึงเกิดพระพุทธศาสนา วันนี้วันพระ วันสำคัญ เรามาทำบุญเพราะเราเห็นความสำคัญของตัวเรา ถ้าเราไม่เห็นความสำคัญของตัวเรา เราทำบุญเพื่อใครเพราะเราทำบุญเพื่อหัวใจของเรา เราเห็นคุณประโยชน์ของเรา เราเห็นความจริงจังของเรา เราถึงทำบุญเพื่อเรา เอวัง