เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๑๔ พ.ย. ๒๕๕๗

 

เทศน์เช้า วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๗
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

วันนี้วันพระ วันพระทำบุญกุศลเนาะ ตอนนี้โลกเจริญ โลกเจริญเขาแบบว่าเอาวัดไปอยู่ในห้าง พูดถึงพระไปเทศน์ในห้าง พระไปเทศน์ใกล้ชิดกับประชาชน เพราะว่าประชาชนห่างวัด พอประชาชนห่างวัด วัดต้องไปหาประชาชน ถ้าวัดไปหาประชาชน เดี๋ยวนี้เขาทำกันอย่างนั้น ถ้าทำกันอย่างนั้นมันก็เป็นสินค้า

เวลาในห้างๆ เขาไปทำไม เขาไว้ไปซื้อสินค้ากัน แต่เวลาทำบุญกุศลล่ะ เราทำบุญกุศล เขาว่าค้ากำไรเกินควร ค้ากำไรเกินควรคือทำบุญกุศลแล้วปรารถนาต้องการสิ่งที่เราสมความปรารถนา สิ่งที่สมความปรารถนามันอยู่ที่อำนาจวาสนาบารมี อำนาจวาสนาบารมีเราเกิดมา เราสร้างมาตั้งแต่พันธุกรรมของจิต ถ้าจิตมันเวียนว่ายตายเกิดมา ใครทำสิ่งใดมาต้องได้สิ่งนั้น ใครไม่ทำสิ่งใดมา ขวนขวาย ขวนขวายก็คือการประพฤติปฏิบัติในปัจจุบันนี้ ถ้าประพฤติปฏิบัติในปัจจุบันนี้ด้วยคนที่เข้มแข็ง คนที่มีจิตใจเข้มแข็ง พยายามขวนขวายของเรา คนเราจะล่วงพ้นทุกข์ด้วยความเพียร ความเพียร ความวิริยะ ความอุตสาหะของเรามันมีโอกาส นี่คำว่า “มีโอกาส”

แต่คำว่า “มีโอกาส” คนเราถ้าเขามีบุญกุศลของเขา เขาทำสิ่งใดเขาประสบความสำเร็จของเขา คำว่า “บุญกุศลของเขา” คำว่า “บุญกุศล” มันมาจากไหน มันมาจากไหนล่ะ? มาจากการกระทำของเรานี่แหละ ถ้ามาจากการกระทำของเรา แต่เวลามาจากการกระทำ นี่ความคิดของโลก ต้องเอาวัดไว้ในห้างเพื่อให้ใกล้ชิดกับประชาชน ถ้าใกล้ชิดประชาชนก็เอาศาสนาไว้ในห้องนอน เรามีหิ้งพระในห้องนอน ถ้าเรามีหิ้งพระในห้องนอน เราสวดมนต์แล้วเราก็นั่งสมาธิภาวนา ถ้านั่งสมาธิภาวนา เอาวัดไปไว้ในห้องนอนเลย ถ้าเอาวัดไปไว้ในห้องนอนมันก็นอนตามสบายไป

แต่ถ้าเราขวนขวาย สิ่งที่ชีวิตประจำวันเราก็ปฏิบัติของเราโดยประจำวันอยู่แล้ว ห้องนอนของเราเอาไว้เป็นที่พักผ่อน ก่อนจะนอนเราก็สวดมนต์ทำวัตรก่อน ถ้าเรามีสติปัญญา เราจะหาสมบัติส่วนตัวของเรา สมบัติส่วนตัว นั่งขัดสมาธิ หายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ นี่เป็นสมบัติของเรา ถ้าสมบัติของเรา

“เราก็เหนื่อยยากมาทั้งวันอยู่แล้ว จะเอาสมบัติสิ่งไหน สมบัติเราก็ต้องมีสมบัติเพื่อประกอบสัมมาอาชีวะ สมบัติของเราก็ต้องประสบความสำเร็จในชีวิต”

ประสบความสำเร็จในชีวิตนั่นล่ะมันเป็นอามิส เป็นบุญกุศลที่เราขวนขวายมา เป็นสมบัติสาธารณะ แต่ถ้าเราสวดมนต์แล้ว เราทำวัตรแล้ว เราจะนั่งภาวนาของเรา ถ้าจิตของเรามันสงบเข้ามา ถ้าจิตสงบเข้ามา นี่ทรัพย์สมบัติของเราๆ

ตอนนี้เราหาตัวตนเราไม่เจอไง ตอนนี้เรากำลังดังมากเลยนะ เพราะอะไร เพราะห้องเรามันมีมดหลายรังมากเลย มดหลายรังมาก ลูกศิษย์เรานี่ โอ้โฮ! เป็นร้อยเป็นพันเลย เรากำลังดังมากเลย เพราะอะไร จิตหนึ่ง จิตหนึ่ง สัตว์มันก็จิตหนึ่งเหมือนกัน เราก็จิตหนึ่งเหมือนกันนะ เรามีลูกศิษย์ลูกหามดเป็นรังๆ เลยล่ะ มดมีหลายรังด้วย นับจำนวนแล้วเยอะมาก นี่เพราะหาตัวเองไม่เจอไง หาตัวเองไม่เจอนะ เห็นสิ่งใดก็คิดว่าสิ่งนั้นเขามาเคารพบูชาเรา

ใครต้องมาเคารพบูชาเรา การเคารพบูชาเรา เห็นไหม กลิ่นของศีลกลิ่นของธรรมหอมทวนลม คำว่า “หอมทวนลม” กลิ่นของศีลกลิ่นของธรรมหอมทวนลม คุณงามความดีของเราเท่านั้นแหละ ถ้าคุณงามความดีของเรา เราทำสิ่งใดเป็นคุณงามความดีของเรา นั่นล่ะคุณงามความดีของเรา ถ้าคุณงามความดีของเรา มันแสวงหา มันพยายามแยกแยะอย่างไร สิ่งนั้นมันเป็นอกุศลเป็นการทุจริตมันไม่มี ถ้ามันไม่มี เรายืนที่ไหนเรายืนเผชิญสิ่งใดก็ได้

แต่ถ้าเรามีของเราล่ะ เรามีของเรา เรามีความหวาดระแวง นิวรณธรรมกางกั้นการภาวนา ถ้าเราจะภาวนา เวลาภาวนา ความลับไม่มีในโลก เราเป็นคนทำเองทั้งนั้นแหละ ถ้าเราเป็นคนทำเอง สิ่งใดที่เราทำเองมันจะต้องให้ใครมายกย่องสรรเสริญล่ะ ถ้าเราทำของเราเอง สิ่งที่เราทำของเราเอง เราค้นหาความผิดพลาดของเราไม่มี แล้วใครมันจะค้นหาความผิดพลาดของเราเจอล่ะ ถ้าค้นความผิดพลาดไม่เจอมันก็มีแต่โลกธรรม ๘ ไง นินทากาเลไง เห็นเขามีคุณภาพกว่า เห็นเขามีคนชื่นชมมากกว่าก็ไปอิจฉาตาร้อนเขา ถ้าอิจฉาตาร้อนเขานะ นั่นล่ะมันอิจฉาตาร้อนเขาทำไมล่ะ

ถ้าเราทำคุณงามความดีของเรา ถ้าไม่มีใครมาเชิดชูบูชาเลยนะ พระอัญญาโกณฑัญญะเป็นสงฆ์องค์แรกของโลก เวลาท่านสำเร็จท่านอยู่ในป่าของท่านองค์เดียวนะ เวลาท่านจะนิพพาน ท่านมาลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านเป็นพระสงฆ์องค์แรกของโลกเลย ท่านเป็นลูกศิษย์องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์แรกเลย ทำไมไม่มีใครไปแห่แหนไปเชิดชูล่ะ ทำไมไม่มีใครไปเชิดชู แล้วพระอัญญาโกณฑัญญะน้อยใจไหม พระอัญญาโกณฑัญญะอยู่ในป่าเป็นพระอรหันต์ มีความน้อยใจไหม

มันมีความน้อยใจๆ พวกเราน้อยใจไง น้อยใจเพราะอะไร เพราะจิตใจของเราโลกธรรม ๘ มีลาภเสื่อมลาภมียศเสื่อมยศ มันต้องการ มันเป็นโมฆบุรุษไง แต่เวลาพระอัญญาโกณฑัญญะอยู่ในป่าท่านไปน้อยใจใคร ท่านเป็นพระอรหันต์จะไปน้อยใจใคร ท่านมีความสุขของท่าน ถ้าเอาตามสิทธิ์นะ พี่คนโต

ประเพณีของคนจีน ลูกชายคนโต สมบัติต้องเป็นของคนคนนั้นนะ ลูกชายคนโตก็เหมือนกับพ่อคนที่สอง นี่ก็เหมือนกัน ถ้าถือสิทธิ์ๆ พระอัญญาโกณฑัญญะเป็นพี่ชายคนโต เป็นรององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะมีสิทธิในศาสนามหาศาลเลย ทำสิ่งใดก็ได้ ทุกคนต้องเคารพบูชานะ พี่ชายคนโตของเธอมาแล้ว จะทำอะไรก็ต้องให้ท่านก่อน แต่ท่านไม่สนใจเลย ท่านอยู่ในป่าในเขาของท่านด้วยความสุข ความสุขมันคืออะไร? ความสุขคือคุณธรรมในใจไง ความสุขคือคุณธรรมในใจ คนที่มีคุณธรรมในหัวใจมันสงบเสงี่ยม สุขอื่นใดเท่ากับจิตสงบไม่มี แล้วออกมาขวนขวายๆ เพื่ออะไร

ดูสิ เวลาพระสารีบุตร พระโมคคัลลานะไปที่ไหนมีแต่คนเชิดชูนะ เวลาคนฟังเทศน์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วมีความข้องใจก็ไปถามพระสารีบุตร เขาบอกว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเทศนาว่าการอย่างนี้ พระสารีบุตรมีความเห็นอย่างไร ผมฟังแล้วผมไม่เข้าใจ พระสารีบุตรก็แจกแจงธรรมให้ฟัง ฟังพระสารีบุตรก็ยังสงสัยอีก กลับมาถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกไปถามพระสารีบุตร พระสารีบุตรว่าอย่างนี้

ฟังองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็สงสัย สงสัยก็ไปถามพระสารีบุตร พระสารีบุตรก็ขยายความให้ฟัง ขยายความเสร็จก็กลับมาถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บอกพระสารีบุตรพูดอย่างนี้ถูกหรือเปล่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกว่าถ้าเราพูดเราก็พูดอย่างนั้นแหละ เราพูดเราก็พูดอย่างนั้นแหละ พูดแบบพระสารีบุตรนั่นล่ะ

สิ่งที่เพราะพระสารีบุตร พระโมคคัลลานะท่านได้สร้างของท่านมา เวลาท่านฟังเทศน์พระอัสสชิเป็นพระโสดาบัน ลาสัญชัยแล้วจะมาบวช “นั่นอัครสาวกเบื้องซ้ายและเบื้องขวาของเรามาแล้ว” ทั้งที่ยังไม่ได้บวชเลย มาแล้ว เพราะอะไร เพราะเขาสร้างของเขามา เวลาตรัสรู้ธรรมขึ้นมาแล้วตั้งเป็นอัครสาวกเบื้องซ้ายและเบื้องขวา เบื้องซ้ายและเบื้องขวาเพื่ออะไร? เพื่อเผยแผ่ธรรม

ใครที่ฟังธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีความลังเลสงสัยอย่างไรก็ไปถามพระสารีบุตรให้ขยายความ เวลาใครประพฤติปฏิบัติ เวลาจิตไปรู้เห็นสิ่งใด ถ้าเป็นฤทธิ์เป็นเดชขึ้นมาแล้วไม่เข้าใจก็ไปถามพระโมคคัลลานะ พระโมคคัลลานะมีฤทธิ์มีเดช เห็นไหม เข้าใจความปรารถนา เข้าใจกำลังใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามากน้อยขนาดไหน นี่ไปฟังแล้วเข้าไปถามเพื่อประโยชน์ไง ที่ว่าอัครสาวกเบื้องซ้ายเบื้องขวามันเป็นเบื้องซ้ายเบื้องขวาอย่างนี้ไง เป็นขุนพลไง เป็นผู้ที่เผยแผ่

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเวลาตรัสรู้ธรรมขึ้นมาแล้ว เวลาเทศนาว่าการแล้ว พระอรหันต์ ๖๑ องค์ “เธออย่าไปซ้อนทางกัน โลกนี้เขาเร่าร้อนนัก เธออย่าไปซ้อนทางกัน” ขยายออกไป เผยแผ่ออกไป เห็นไหม พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตรเป็นขุนพล ขยายความไป เวลาเผยแผ่ธรรมไป ลัทธิศาสนาอื่นเขามีของเขาอยู่แล้ว ความเชื่อความศรัทธา เพราะความเชื่อความศรัทธามันมาแล้วมันก็มีลาภสักการะตามมา อิจฉาตาร้อน ถ้าจะทำลายพระพุทธศาสนาจะทำลายใครก่อนล่ะ? ทำลายพระโมคคัลลานะ ถึงพยายามจ้างคนมาฆ่า จ้างคนมาทำลาย เขาทำลายขนาดนั้นนะ เราก็เชิดชูใช่ไหมว่าสมัยพุทธกาลทุกคนต้องคิดดีคิดงามไปหมด

กิเลสก็คือกิเลส เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเผยแผ่ธรรมขึ้นมาเพราะมันมีลัทธิเก่าๆ ของเขาอยู่แล้ว เวลาความเจริญงอกงามขึ้นมาเขาก็พยายามบิดเบือน เขาพยายามตะแบง มันมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว มันมีมาก่อนหน้านั้นแล้ว นี่มันมีมา ถ้ามันมีมาอย่างนั้นแล้ว ในปัจจุบันนี้เราจะประพฤติปฏิบัติของเรา เรามองประวัติศาสตร์ พุทธประวัติมาประวัติศาสตร์ แล้วกลับมาสอนชีวิตของเราสิ เราค้นตัวเราให้เจอ ตัวเรา เราจะเอาอะไร เราทำเพื่ออะไร ถ้าเราทำ เห็นไหม ดูสิ วันนี้วันพระวันเจ้า เราขวนขวายขึ้นมาเพื่อทำบุญกุศลของเรา

เวลาปฏิบัติแล้วทุกคนก็ว่า “โอ้โฮ! คนนั้นปฏิบัติแล้วเขาได้คุณได้ธรรม เราทำแล้วไม่ได้อะไรเลย” มันไม่ได้อะไรเลยเพราะอะไรล่ะ มันไม่ได้ เห็นไหม ดูสิ จริตนิสัยของคนมันมาจากไหนล่ะ เราก็อยากจะให้เราคิดแต่เรื่องความดีทั้งนั้นแหละ เราต้องการให้จิตใจเราเป็นคนดีทั้งนั้นแหละ มันมาจากไหนล่ะ? พันธุกรรมของจิตๆ มันก็มีการกระทำมาไง มันมีการกระทำมา จริตนิสัยมันมาจากไหนล่ะ มันก็มานี่ สันดานๆ สันดานมันมากับจิตนั่นแหละ จิตมันสร้างสิ่งใดมา สิ่งใดมามันซับลงที่ใจ ดีเอ็นเอของใจ แล้วใครจะไปเอามันออกล่ะ แล้วทำอย่างไรล่ะ แล้วตอนนี้มันก็เผาลนเรา เราก็เกิดมาเป็นชาวพุทธพบพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาสอนเรื่องสิ้นสุดแห่งทุกข์ๆ เราก็ขวนขวายกัน

เราขวนขวายกันอยู่ที่กำลังของคน ศรัทธามีมากน้อยขนาดไหน ถ้าศรัทธาของเรา เราทำของเราแล้ว ถ้าเรามีสติปัญญาของเรา เห็นไหม ทำทานร้อยหนพันหน ไม่เท่ากับถือศีลบริสุทธิ์หนหนึ่ง ถือศีลบริสุทธิ์ร้อยหนพันหน ไม่เท่ากับเกิดสมาธิขึ้นหนหนึ่ง มีสมาธิร้อยหนพันหน ไม่เท่ากับเกิดภาวนามยปัญญาหนหนึ่ง

คำว่า “ร้อยหนพันหน” เราขวนขวายร้อยหนพันหน แล้วเราถือศีลของเราให้บริสุทธิ์ ถือศีลของเราให้ครบถ้วนของเรา แล้วศีลมันเกิดมาจากไหนล่ะ ศีลมันเกิดมาจากหัวใจ มโนกรรม มโนกรรมถ้ามันคิด เราไม่หยิบฉวยของของใคร สิ่งที่ว่าของของใคร ลักของเขาๆ เราไม่ใช่ลัก เราไม่จับเลย เราไม่จับต้องสิ่งของใครเลย มันจะไปลักของของใคร มันจะลักของมันต้องคิดก่อนใช่ไหม มันต้องมีมโนกรรมไง เพราะมันคิดว่าจะเอามันถึงไปจับของเขา เห็นเงินของเขาตกอยู่ จับเอาได้แล้วเขายังไปคืนคนอื่นเลย เห็นไหม ถ้ามันมีมโนกรรมขึ้นมา ถ้าถือศีลบริสุทธิ์มันบริสุทธิ์ที่นั่น ถ้ามันบริสุทธิ์ ศีลคือความปกติของใจ ถ้าใจมันปกติระงับขึ้นมาแล้วมันจะไปทำอะไรใคร มันไม่ทำอะไรใครหรอก นี่มีศีลนะ

แล้วถ้ามีศีล ศีลบริสุทธิ์ของเรา เรามาภาวนา เวลาภาวนามันก็ง่ายขึ้นไง พอภาวนามันก็ง่ายขึ้น แล้วมันเป็นจริงไหมล่ะ ศีลมันบริสุทธิ์ไหมล่ะ จิตมันปกติไหมล่ะ จิตมันดีดดิ้นตลอด มันกวัดแกว่งตลอด ถ้ากวัดแกว่งตลอด ดูสิ พระเราเวลาบวชมาแล้วศีล ๒๒๗ โดยธรรมวินัย แต่เวลามาทำแล้วมันก็ต้องปลงอาบัติอยู่กันประจำ เพราะอะไร เพราะความผิดพลาดมันมี

ผิดพลาดเพราะไม่รู้ ผิดพลาดเพราะสงสัย ผิดพลาดเพราะผิดจริงๆ ไม่รู้ทำไปก็ผิด สงสัยทำไปก็ผิด แล้วผิดเพราะเผลอ เพราะขาดสติก็ผิด ถ้าผิดขึ้นไปนะ มันเกิดกรรม เกิดการกระทำ ต้องปลงอาบัติ สาธุ สุฏฐุ ข้าพเจ้าจะสำรวมระวัง ข้าพเจ้าจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว ถ้ามีสติมันก็พูดอย่างนี้ แต่เดี๋ยวก็เผลออีกแล้ว มันก็ทำอีกแล้ว มันเป็นเรื่องปกติไง เป็นเรื่องปกติเพราะสติเราไม่สมบูรณ์ เรามาฝึกหัดกันอยู่นี่ เรามาฝึกหัดอยู่นี่ ถ้ามันขาดตกบกพร่องขึ้นไปเขาก็ปลงอาบัติของเขา

นี่ก็เหมือนกัน จิตของเรามันเป็นไปไม่ได้หรอกที่ว่าจิตของเราจะนิ่ง ที่ว่าไม่แถเลย มันเป็นไปไม่ได้หรอก ฉะนั้น ความปกติของใจมันถึงไม่มีไง จิตมันยังกวัดแกว่งอยู่ไง ทีนี้พอกวัดแกว่งอยู่ เราเป็นชาวพุทธ เราถือศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ เราอาราธนาศีล ไอ้นี่เราวิรัตน์เอา เราวิรัติ ถ้าวิรัติ เราก็ตั้งใจ เราตั้งใจของเรา

เวลาหลวงปู่ฝั้นท่านพูดอยู่นะ เราสมบูรณ์อยู่แล้ว ศีล ๕ คือหัว ๑ แขน ๒ เท้า ๒ นี่ศีล ๕ ศีล ๕ คือความปกติของมนุษย์ มนุษย์มีศีล ๕ โดยความปกติ แต่เวลามาร มารมันดีดดิ้น มารมันทำให้ผิดปกติ พอผิดปกติแล้ว มันเดือดร้อนภายในแล้วมันจะไปกว้านเอาจากข้างนอก ถ้ากว้านเอาจากข้างนอก นี่มันไม่ปกติ

ถ้ามันเป็นปกติของใจ ทำสมาธิมันก็ทำสมาธิได้ง่าย ถ้ามันไม่ปกติ แล้วไม่ปกติธรรมดาด้วยนะ เวลาพญามาร มารมันทะเลาะกัน ปู่ย่าตายายมันก็ล่อพ่อแม่ ไอ้พ่อแม่ก็ไปล่อลูก ลูกก็ไปล่อหลาน นี่ไง เวลาพญามารมันดีดดิ้นนะ จากเฟืองตัวใหญ่มันขยับ ลูกหลานมันขยับตามหมดเลย แล้วขยับตาม พอมันคิดอะไรไม่พอใจมันฟุ้งขึ้นมา มันยุแหย่ มันไปเลย แล้วเราทำอย่างไรล่ะ นี่เวลาที่ศีลไม่ปกติ ไม่ปกติอย่างนั้นแหละ เพราะมันมีพญามาร ถ้าพญามารอย่างนั้น เราก็ฝึกหัดของเรา ฝึกหัดเพื่อประโยชน์กับเรา

ค้นหาตัวตนให้เจอ เราจะเป็นอะไร เราปรารถนาอะไร เราตั้งใจอะไร หาตัวเองให้เจอ เพราะหาตัวเองไม่เจอมันถึงดีดดิ้นกันอยู่นี่ เพราะหาตัวเองไม่เจอไง หาตัวเองไม่เจอก็เปรียบเทียบ เปรียบเทียบอย่างนู้น เปรียบเทียบอย่างนี้ มันก็เกิดจินตนาการ ถ้าจินตนาการ นี่เป็นสุตมยปัญญาคือการศึกษา การเทียบเคียง การศึกษาคือการศึกษาประวัติศาสตร์ การศึกษาธรรมและวินัยขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การศึกษามันเป็นแนวทาง เราศึกษามาเปรียบเทียบๆ แล้วเราพยายามฝึกหัดของเรา

ถ้าการฝึกหัดของเรา เรามีครูมีอาจารย์ ทำความสงบของใจเข้ามาให้ได้ก่อน ถ้าใจสงบขึ้นมาแล้วมันจะเป็นสมบัติของเรา ถ้าใจของเราไม่สงบขึ้นมามันเป็นสมบัติของมาร มารก็การเปรียบเทียบไง เพราะมันมีการเปรียบเทียบ ครอบครัวของมัน เดี๋ยวถ้าเฟืองตัวใหญ่ พญามารมันยังไม่ตื่นมันก็ยังพอทำได้นะ ลูกหลานมาร นั่งเดี๋ยวเจ็บเดี๋ยวปวด นี่หลานๆ มัน เหลนๆ มัน โอ๋ย! ตัวเล็กๆ มันมาแหย่ มันยังไม่เจอพ่อเจอแม่มันหรอก เจอพ่อเจอแม่มัน บวชพระอยู่มันก็สึก ปฏิบัติอยู่มันก็เลิก เวลาพ่อแม่มันมา ล้มลุกคลุกคลานเลย ไอ้เจอลูกๆ หลานๆ มันยังไม่เท่าไรหรอก นี่สู้กับมัน เห็นไหม มีทุกคน

เราเรียกร้องสิทธิ์ สิทธิความเป็นมนุษย์ เราเรียกร้องสิทธิความเป็นมนุษย์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เป็นมนุษย์ ครูบาอาจารย์ พระเราก็เป็นมนุษย์ เราก็เป็นมนุษย์ เป็นมนุษย์เหมือนกัน เรียกร้องสิทธิ์ๆ ไง สิทธิเท่ากัน กิเลสเท่ากัน กิเลสมีเหมือนกัน

ในสโมสรสันนิบาตทุกดวงใจว้าเหว่ ทุกดวงใจ ไม่ยกเว้น การเกิด เกิดจากอวิชชา ทุกดวงใจว้าเหว่ ทุกดวงใจ ทุกดวงใจมีความคิด ความคิดดีดดิ้นในใจ ทุกคนมีเหมือนกัน มีเหมือนกัน ถ้ามีเหมือนกันแล้ว เราเกิดมาเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาสอนให้เราทำจิตสาธารณะ ความทำจิตสาธารณะทำให้จิตใจเราเบิกบาน ทำให้จิตใจเรากว้างขวาง ถ้าจิตใจเรากว้างขวาง เพื่อประโยชน์กับใคร? ก็เพื่อประโยชน์กับจิตดวงนี้ไง คนที่จิตกว้างขวางมันยอมรับ คำว่า “ยอมรับ” มันก็ไม่มีอะไรกีดขวางในใจ แต่ถ้ามันตระหนี่ มันไม่ยอมรับ ทุกข์น่าดู นู่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ มันลำบากลำบนไปหมด แล้วใครลำบากลำบนล่ะ? ก็ตัวเองไง มารไง

นี่ฝึกหัด ทำบุญกุศลอุทิศองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อุทิศในหลวง อุทิศให้ใครล่ะ ก็ทำเพื่อเราทั้งนั้น นี่ก็เหมือนกัน เราทำเพื่อเราๆ นี่ไง วันพระๆ กลิ่นของศีลหอมทวนลม หาตัวเองให้เจอ แล้วถ้าเจอตัวเองแล้วนะ ไม่แคร์ใครเลย ไม่แคร์ใครเลย เพราะอะไร เห็นไหม จากใจดวงหนึ่งสู่ใจดวงหนึ่ง ใจดวงนี้มันดีดดิ้นขนาดนี้ เราเอาสมบัติที่นี่ ที่ว่าสมบัติที่นี่นะ เราทำทาน ทำทาน ถ้าเราไม่มีสิ่งใดเลย เราอนุโมทนากับเขา เห็นหลวงตาท่านหาเงินช่วยชาติเป็นหมื่นๆ ล้าน เราสาธุนั่นน่ะเราก็ได้บุญแล้ว เห็นหลวงตาช่วยชาติ เราก็ยกมือท่วมหัวเลย

ดูสิ เอกบุรุษคนหนึ่ง ชาติมีปัญหา ประชาชนเดือดร้อน ท่านออกมาขวนขวายช่วยโลก คนที่จิตใจมันเศร้าหมอง คนที่จิตใจกำลังเพลี่ยงพล้ำ คนที่จิตใจกำลังหมดเนื้อหมดตัว มันไม่มีหัวใจในตัวมันแล้วนะ ความรู้สึกมันหลุดออกจากตัวไปแล้ว มันถึงได้ฆ่าตัวตายกันไง ความรู้สึกออกจากตัวกันไปแล้ว แล้วมีเอกบุรุษคนหนึ่งดึงกลับมา แล้วพยายามหาเงินมาช่วยชาติ ช่วยโลก นี่ยกมือสาธุ อนุโมทนาทาน อนุโมทนากับท่านเราก็ได้บุญแล้ว เราได้บุญแล้ว

เราบอกว่านู่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้

การทำบุญเรามีจิตใจสาธารณะนะ ของเล็กน้อยก็มีค่ามาก ของเล็กน้อยมันสะอาดบริสุทธิ์นะ ปฏิคาหก ผู้ให้ให้ด้วยความสะอาดบริสุทธิ์ ผู้รับรับด้วยความสะอาดบริสุทธิ์ ใช้ประโยชน์สาธารณะ ประโยชน์สะอาดบริสุทธิ์ นี่บุญ บุญเกิดจากที่นี่

วันพระ วันเจ้าเราหาของเรา เราทำเพื่อประโยชน์กับเรานะ หาตัวเราให้เจอ ของจะเล็กน้อยก็มีค่ามหาศาล หาตัวเองไม่เจอนะ ของมหาศาลเลย เดินไปไหน เหมืองทองมันเป็นธาตุอยู่ในดิน เราเหยียบย่ำมันอยู่ เหมืองทอง เราเอาขึ้นมาไม่ได้

คุณค่าของหัวใจมันมีค่ามากเลยล่ะ มีค่าเพราะอะไร เพราะมันเหาะเหินเดินฟ้าได้นะ คนทำสมาบัติ ทำฌานสมาบัติมันเหาะเหินเดินฟ้าได้นะ มันรู้ความคิดคนอื่นได้นะ มันมหัศจรรย์ขนาดนั้นนะ นี่แค่อภิญญา มันยังไม่เข้าสู่ตัวมันเองเลย มันยังไม่เข้าสู่ภาวนามยปัญญาเลยนะ

แล้วถ้าเข้าสู่ภาวนามยปัญญามันจะทำลายครอบครัวมารนั้น ตั้งแต่ปู่ย่าตายายของมัน กำจัด ฆ่ามันหมด องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ให้เบียดเบียนกัน ไม่ให้ทำกระทบกระเทือนกันนะ แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกว่า การฆ่าที่ประเสริฐที่สุดคือการฆ่ากิเลส องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าส่งเสริมตรงนี้ไง ส่งเสริมให้เราชำระล้างตัวตนของเราไง อวิชชาของเราไง พญามารของเราไง ทำลายที่นี่ไง หาเราให้เจอ แล้วทำเพื่อประโยชน์กับเรา เอวัง