เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๒o มี.ค. ๒๕๕๙

 

เทศน์เช้า วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๙
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

ตั้งใจฟังธรรมะเนาะ ตั้งใจฟังธรรมะเพื่อความฉลาด ถ้าเป็นเซ่อ ความโง่เขลาเบาปัญญา มันเชื่อเขาไปทั่ว แต่ถ้ามันมีความฉลาดขึ้นมา ดูสิ เวลาเด็กๆ วัยรุ่นเขามาวัด เขามากับพ่อแม่เขา เวลาพ่อแม่เขากราบพระ กราบพระพุทธรูป “พ่อแม่กราบทำไมๆ พระมันเป็นอิฐหินทรายปูน มันเป็นทองเหลือง กราบทำไม”

คนมีปัญญาไง คนมีปัญญา ถ้ามันจะกราบมันต้องกราบสิ่งที่วิเศษ สิ่งที่มีคุณค่า ไปกราบทำไมไอ้อิฐหินปูนทราย ไปกราบทำไม นั่นเป็นพระพุทธรูป

พระพุทธรูปเป็นสัญลักษณ์ เป็นสัญลักษณ์ตัวแทนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะเราเกิดไม่ทันองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่เราเคารพบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในเมื่อเราไม่เห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พุทธลักษณะ พอพุทธลักษณะขึ้นมา ปางต่างๆ ก็เกิดจากในพระไตรปิฎก ก็เป็นตัวแทน เป็นสัญลักษณ์ เป็นตัวแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นี่เป็นตัวแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เวลาเรากราบ เราไม่ได้กราบที่อิฐหินทรายปูน เราไม่ได้กราบที่ทองเหลือง เรากราบที่คุณงามความดีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมตตาธรรม กรุณา เมตตาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยปัญญาคุณ ด้วยพุทธคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านรื้อค้นศาสนานี้ขึ้นมา ท่านทำเพื่อตัวของท่าน ท่านทำเพื่อหัวใจของท่าน ถ้าหัวใจของท่านวิมุตติหลุดพ้นไปแล้ว ท่านเป็นศาสดา เป็นพระอรหันต์ นี่เรากราบอันนั้น เราไม่ได้กราบอิฐหินทรายปูน เรากราบเมตตาธรรม กราบคุณธรรมในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้ววางธรรมวินัยนี้ไว้ไง

เวลาเขามากราบพระๆ เขามีปัญญาเขาเยอะ เขาบอกว่ากราบไม่ได้หรอก กราบทำไมอิฐหินทรายปูน กราบทำไมทองเหลือง แต่คนที่มีปัญญาเขากราบ เขากราบที่ไหนล่ะ เขากราบที่คุณธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระที่เป็นพระพุทธรูป

ถ้าเป็นพระคนล่ะ พระคนเป็นพระที่มีชีวิต เช้าขึ้นมาต้องออกบิณฑบาต บิณฑบาตมาขบฉัน ขบฉันขึ้นมาเป็นกิจของสงฆ์ เป็นภัตกิจ กิจเพื่อดำรงชีพ ดำรงชีพไว้ ถ้ามันไม่มีสติไม่มีปัญญาขึ้นมา มันก็หลงใหลไปไง ลาภสักการะ โมฆบุรุษตายเพราะลาภ เพราะมีลาภมีสักการะ ตายหมด ลาภสักการะ ถ้าพูดถึง ถ้ากิริยามารยาทเขาสำรวมระวัง น่าเคารพบูชา เขาก็เคารพบูชากัน เคารพบูชากัน เกิดลาภสักการะขึ้นมา

ถ้าไม่มีสติไม่มีปัญญา สิ่งที่ใช้สอยมันไปกระตุ้นกิเลสทั้งนั้นน่ะ มันกระตุ้นต่อมต่างๆ ที่ในหัวใจที่มันฝังไว้ ว่าเราจะเป็นพระที่ดีๆ แต่สิ่งนี้มันเป็นสิ่งเร้า มันก็ไปตามโลกหมดไง แต่ถ้ามีสติมีปัญญา เรากราบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรากราบที่ไหน เรากราบที่พุทธคุณ เรากราบที่ธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เวลาธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพาน พระอานนท์คร่ำครวญมาก “องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว มรรค ผลจะหมดเมื่อไหร่”

“อานนท์ เราบอกเธอแล้วไม่ใช่หรือ สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีการเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นต้องดับเป็นธรรมดา ธรรมวินัยที่เราบัญญัติไว้ดีแล้ว ถ้าใครประพฤติปฏิบัติตามนั้น โลกนี้จะไม่ว่างจากพระอรหันต์เลย” พระอรหันต์จะเกิดขึ้นจากธรรมวินัยที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบัญญัติไว้ บัญญัติไว้แล้วเราประพฤติปฏิบัติ พยายามขวนขวายทำสิ่งนั้นขึ้นมา ถ้าทำสิ่งนั้นขึ้นมา มันขึ้นมาจากไหนล่ะ มันขึ้นมาจากในหัวใจ

ถ้าหัวใจมันประพฤติปฏิบัติขึ้นมา มันมีศีล มันมีสมาธิ มีปัญญาขึ้นมา ที่เราศึกษาๆ ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมวินัยนี้เราศึกษากัน ศีล สมาธิ ปัญญา สิ่งต่างๆ ธรรมต่างๆ ชี้เข้ามาในหัวใจของสัตว์โลก สัตว์โลกที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ ที่มันมีความทุกข์ความยากอยู่นี่ ให้ศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ศึกษามาแล้วให้ประพฤติปฏิบัติ ไม่ใช่ศึกษามาแล้วของกูๆ ไม่มีสักชิ้นหนึ่ง เห็นไหม มันไปกระตุ้น กระตุ้นให้ตัวเองมีทิฏฐิมานะ ให้ตัวเองมีอหังการ มีคนมาเคารพนับถือ มีคนมาเคารพนบนอบ กิเลสมันพองเข้าไปสุดขอบฟ้า

มันทำขึ้นมา มันทำที่นี่ไง ถ้าทำที่นี่ ชี้เข้ามาที่หัวใจๆ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า “ธรรมวินัยที่เราบัญญัติไว้ดีแล้ว ถ้าเธอประพฤติปฏิบัติตามนั้น โลกนี้จะไม่ว่างจากพระอรหันต์เลย”

“แล้วถ้าต่อไปธรรมวินัยนี้มันต้องมีผู้หญิงเข้ามา เข้ามาสัมพันธ์ในพระพุทธศาสนา ให้ทำอย่างไร”

“ถ้ามันไม่ได้ยินไม่ได้ฟังนั่นแหละดีที่สุด”

“ถ้าเป็นญาติ”

ถ้าเป็นญาติ เป็นวงการเข้ามาอุปัฏฐากดูแลกัน ถ้าจะคุยกับเขาต้องให้มีสติ คุยกับเขาไม่ควรเกิน ๖ คำ ถ้าจะคุยกับเขาต้องมีบุคคลที่ ๓ ถ้าอยู่กันสองต่อสอง อนิยต ๒

นี่มันมีธรรมวินัยบัญญัติไว้หมด เราซื่อตรง ซื่อสัตย์ เราซื่อสัตย์กับธรรมวินัยขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะเราซื่อสัตย์ เราเปิดหัวใจของเรา สิ่งนั้นมันจะไหลเข้าสู่ใจของเรา

เราบิดเบือน เราบิดเบือน มันก็บิดเบือน ดูสิ น้ำ เขาต้องการน้ำสะอาดทั้งนั้นน่ะ ไม่มีใครต้องการน้ำสกปรก น้ำโสโครกต่างๆ ใช้ประโยชน์ไม่ได้ สิ่งที่มันจะใช้ประโยชน์ได้คือน้ำสะอาด น้ำที่บริสุทธิ์ ถ้าน้ำสะอาดบริสุทธิ์แล้วมันอยู่ที่ไหนล่ะ

เพราะจิตใจเรามันมีกิเลสตัณหาความทะยานอยาก คิดเอาเอง เออเอาเอง คาดหมายเอาเอง ในหัวใจมันเป็นไปเอง รู้ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็รู้ด้วยความพอใจของตน ถ้าสิ่งใดถูกใจ ใช่ สิ่งใดไม่ถูกใจ ไม่ใช่เลย

ดูสิ เวลาทางโลกเขาพูดกัน เวลาคบเพื่อนฝูง เพื่อนฝูงพาไปทำมาหากิน กินแล้วมันเจริญรุ่งเรือง ถ้าไปวัดไปวามันมีแต่เสียหาย ไปวัดไปวามีแต่ต้องเสียสละ มันไม่มีสิ่งใดเลย...สิ่งนี้มันเป็นวัตถุ

เวลาหลวงตาท่านออกมาโครงการช่วยชาติ เขาบอกใครๆ ก็เห็น เงิน ๑๐ ล้าน ทอง ๑๐ ตัน เงินเป็นหมื่นๆ ล้าน ใครๆ ก็เห็นตรงนั้นน่ะ แต่เราไม่เห็นตรงนั้นเลย เราเห็นเวลาที่ธรรมมันจะได้ออก ธรรมมันได้ออกเพราะอะไร เพราะว่าเวลาเกิดวิกฤติขึ้นมา ทุกคนมีแต่ความทุกข์ใจทั้งนั้นน่ะ ไอ้ความทุกข์ใจมันบีบคั้นหัวใจจนทำลายตัวเอง ไอ้เสียสละ เสียสละเพราะความมั่นคงของชาติ แต่ถ้ามันมีธรรมะในหัวใจขึ้นมา มันทำให้หัวใจนี้ไม่ทุกข์ไม่ร้อนจนเกินไป มันจะบีบคั้นมันก็บีบคั้นคนทั้งโลก ไม่ใช่บีบคั้นเราคนเดียว ถ้ามันบีบคั้นคนทั้งโลก เราสามัคคีกัน เราก็ป้องกันนั้นได้ แต่ถ้าถึงเวลาธรรมมันได้ออกๆ ไอ้ทอง ๑๐ ตัน ไอ้เงินทองนั่นน่ะมันเป็นเรื่องของวัตถุ แต่ไอ้ธรรมที่เข้าไปในหัวใจของสัตว์โลก เราเห็นหัวใจคน

ถ้าหัวใจคน ท่านไปเพราะหัวใจคน ท่านตรากตรำขนาดไหนก็เพื่อหัวใจของสัตว์โลก มีทุกข์มียากอันนั้น ให้มันมีสติปัญญาขึ้นมา ถ้ามีสติปัญญาขึ้นมามันก็เป็นธรรมไง ดูสิ ของมันร้อน ดูสิ อุณหภูมิมันร้อน ของมันร้อน จับมันก็ร้อนทั้งนั้นน่ะ แล้วถ้ามันปล่อยให้มันเย็นล่ะ ของมันเย็น เราจับมันก็เป็นประโยชน์กับเราทั้งนั้นน่ะ จิตใจถ้ามันเร่าร้อน ถ้ามันคิดด้วยความตึงเครียด ด้วยกิเลสตัณหาความทะยานอยากบีบหัวใจ มันก็ทุกข์ยากอย่างนั้นน่ะ

โลกมันจะทุกข์มันจะร้อน โลก ค่าของเงินมันจะลอยขนาดไหน ค่าของเงินมันจะตกต่ำขนาดไหน แต่ถ้าหัวใจมันยังมีอยู่ ถ้ามีสติปัญญาอยู่ มันก็แก้ไขตัวมันได้ใช่ไหม ท่านเตือนสติๆ ท่านไปเอาหัวใจคนให้คนมันมีสติมีปัญญา ให้คนไม่ทุกข์ยากจนเกินไป ไม่ให้มันทำลายตัวมันเองไง ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ เราแก้ไขของเรา เรารวมพลังกัน เราสามารถจะแก้ไขได้ แล้วเราจะฟื้นฟูกลับมาได้ ถ้าเราฟื้นฟูกลับมาได้ เราฟื้นฟูกลับมาได้เพราะหัวใจที่มันมีหลักมีเกณฑ์ของมัน ถ้ามันไม่มีหลักมีเกณฑ์ขึ้นมา มันฟื้นฟูขึ้นมาไม่ได้ แล้วมันยังทำลายตัวมันเอง ประชดประชันทำให้มันเสียหายไป

นี่ไง ธรรมๆ เวลาธรรมมันได้ออก ถ้าธรรมมันได้ออกขึ้นมา ดูสิ เราเสียสละกันเป็น ๑๐ ตัน เงินเป็นหมื่นๆ ล้าน ไปกองไว้ที่คลังหลวง แต่เวลามันทุกข์ร้อน มันทุกข์ร้อนในหัวใจไง แต่เวลาธรรมมันเข้าไปในหัวใจ ทุกบ้านทุกเรือน ในบ้านในเรือน ทุกคนทุกหัวใจ ตั้งแต่ปู่ย่าตายายจนเด็กเล็กเด็กแดงขึ้นมา ถ้าหัวใจมันสดชื่น หัวใจมันมีความสุขขึ้นมา อันนั้นมันเป็นธรรมในใจ ถ้าธรรมในใจอันนั้นมันเกิดขึ้นมา มันเป็นประโยชน์ตรงนี้ ถ้าเป็นประโยชน์ตรงนี้ เวลาธรรมมันได้ออกๆ ธรรมมันได้ออกเคลื่อนไปที่ไหน ก็เคลื่อนไปในหัวใจของคน แล้วมันไปจากไหนล่ะ

มันไปจากศรัทธาความเชื่อ เพราะเราศรัทธาท่าน เราศรัทธา เรามั่นใจในวัตรปฏิบัติของท่าน ในวัตรปฏิบัติของหลวงตานะ ท่านปฏิบัติของท่านมาในป่าในเขา ท่านทำของท่านมาเอง เวลาออกมาแล้ว ออกมาสังคมนั้นมันเป็นอีกเรื่อง นี่ไง พระคน พระที่มีชีวิตไง พระที่ต้องเคลื่อนไหวไง มันต้องอยู่ต้องกินไง มันมีปัจจัยเครื่องอาศัยไง แล้วมีปัจจัยเครื่องอาศัย ทำอย่างไร ทำอย่างไรให้มันสมควรไง

ดูสิ บอกพระอานนท์ไว้ไง เวลาต้องมีญาติมีวงศ์เข้ามาเกี่ยวข้องกับพระ ให้พระทำอย่างไร

ไม่มียินไม่ได้ฟังนั่นแหละดี

ถ้าต้องได้ยินได้ฟัง ทำอย่างไร

ให้ตั้งสติไว้ แล้วเวลาจะพูดกันต้องมีบุคคลที่ ๓

แล้วสิ่งที่ได้มาๆ แล้วทำอย่างไร

เตือนมาๆ ตลอด ถ้าเราสะอาดบริสุทธิ์ จิตใจเราเป็นประโยชน์ มันเปิดขึ้นมามันก็นี่ไง ธรรมจะเข้าไปในหัวใจ ธรรมจะเข้าไปในหัวใจ ถ้าหัวใจมันสงบระงับแล้ว หัวใจมันร่มเย็นแล้ว มันจะมีอะไรเป็นพิษเป็นภัย

แต่ถ้าหัวใจมันยังเร่าร้อนอยู่ โมฆบุรุษตายเพราะลาภ โมฆบุรุษ หัวใจว่างเปล่าไง มันต้องการสิ่งต่างๆ ต้องการคนยกย่องสรรเสริญ ต้องเชิดชูกัน ใครต้องมาเชิดชู เชิดชูกิเลสใช่ไหม พอเชิดชูไปแล้วมันทำให้กิเลสมันฟูไง

นี่ไง แต่ถ้ามันเป็นธรรมๆ เป็นธรรมขึ้นมามันสงบระงับ นี่ไง สิ่งที่เป็นธรรมๆ เราฟัง เราฟังกันที่นี่ไง ทุกดวงใจ ทุกหัวใจมันทุกข์ร้อนทั้งนั้นในใจของคนน่ะ คนที่เกิดมามีอวิชชาทั้งนั้น คนที่เกิด มีการเกิด อวิชชาพาเกิด ถ้ามีอวิชชาพาเกิด อวิชชาความไม่รู้มันเผาลนใจทุกดวง ทุกดวง การเกิดเป็นมนุษย์ ทุกข์มันบีบคั้นทั้งนั้นน่ะ ถ้าทุกข์มันบีบคั้น มันมีมากมีน้อย เราทำบุญกุศลกันก็เพื่อเหตุนี้ไง เพื่อบรรเทาทุกข์ๆ ถ้าจะเกิดก็ขอให้บุญพาเกิด เกิดมาแล้วเกิดในสังคมที่ร่มเย็น เกิดมาแล้วเกิดในครอบครัว เกิดในประเทศอันสมควร พ่อแม่ที่ดี พ่อแม่ที่มีความอบอุ่นใช่ไหม

แล้วพ่อแม่ที่ไม่ดี พ่อแม่เอาลูกไปทิ้งถังขยะนู่นน่ะ ไปเกิดอย่างนั้นใช่ไหม เกิดมาแล้ว ลูกเลี้ยงไม่ไหว เอาไปทิ้งถังขยะ เอาไปเที่ยวทิ้ง ไอ้นั่นมันเป็นความจำเป็นของเขา มันเป็นความจำเป็นของเขานะ ความจำเป็นของเขา แล้วไอ้ที่ไปเกิด ไอ้จิตที่ไปเกิด ไอ้เกิดมันมีเวรมีกรรมอะไรอย่างนั้นล่ะ ถ้ามีเวรมีกรรมขึ้นมา กรรมของมันดูสิ หมอชีวก หมอชีวกก็เหมือนกัน เขาก็เอาไปทิ้ง เอาไปทิ้งนะ เอาไปทิ้งในขยะ ถังขยะ แล้วมีคนเขาไปเจอ แล้วไปถวายกษัตริย์ กษัตริย์ก็เลี้ยงดูมา เวลาเขาศึกษาเล่าเรียน เขาก็มีปัญญาของเขา นี่เวลาเกิดขึ้นมาพ่อแม่ทิ้งขยะเลยล่ะ หมอชีวกโกมารภัจจ์ แล้วเวลาศึกษาเล่าเรียนมาจนได้เป็นหมอประจำองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นี่ไง เวลาบุญบาปมันเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ มันต้องมีเวรมีกรรมของมันขึ้นไป ถ้าเวรกรรมขึ้นไป มันมีผลกระทบทั้งนั้นน่ะ ถ้าผลกระทบ

เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร เราไม่จองเวรจองกรรมต่อใครทั้งสิ้น เราก็มีเวรมีกรรมมาด้วยกันทั้งนั้น กรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กัน เวลาการเกิด เกิดมาแล้ว เกิดมาด้วยวิบากกรรมอันนั้นน่ะ แต่เกิดมาแล้ว คนเราไม่ได้ดีเพราะการเกิด คนดีเพราะการกระทำ เวลาเกิด เกิดมาคาบช้อนเงินช้อนทอง ไอ้นั่นเกิดมาเป็นทาสเลย เวลาเกิดเป็นทาส เขามีสติปัญญาของเขา เขาเป็นกษัตริย์ได้เลย จากทาส เขาสร้างเนื้อสร้างตัวมาเป็นกษัตริย์ปกครองประชาชน นี่ไง มันดีเพราะการกระทำอันนั้น คนเราไม่ได้ดีเพราะการเกิด ดีเพราะการกระทำ แต่เกิด เกิดเพราะด้วยเวรด้วยกรรมไง เพราะมันมีอวิชชา ในสโมสรสันนิบาตทุกดวงใจว้าเหว่ ในสโมสรสันนิบาตทุกดวงใจว้าเหว่ เกิดมาในโลกนี้ทุกดวงใจมีความทุกข์ทั้งนั้น

นี่ไง เรากราบ เวลามีศรัทธามีความเชื่อ เวลากราบ เรากราบทองเหลืองหรือ กราบอิฐหินปูนทรายหรือ

ทำไมมันคิดกันได้อย่างนั้นน่ะ นี่วิทยาศาสตร์ไง วิทยาศาสตร์คิดอย่างนั้น วิทยาศาสตร์มันก็ส่องกล้องได้แค่นั้นน่ะ จุลทรรศน์มันส่องกล้องได้แค่นั้นน่ะ แต่ถ้าเป็นนามธรรม ธรรมๆๆ มันแทรกซึมไง เวลาธรรมที่มันจะได้เข้าไปในใจของคน

หลวงตาท่านห่วงตรงนี้มาก ท่านไปไหนทุกข์ยากขนาดไหนก็ไปเพื่อหัวใจคน ไปเพื่อหัวใจคน แล้วหัวใจของคนล่ะ นี่ไง ธรรมมันเข้าที่นั่นๆ ฉะนั้น เวลาไปวัดไปวาเขาเอากันที่นี่ เขาไม่ใช่เอาสิ่งปลูกสร้างสิ่งใดที่มันเลิศหรูหรอก ไร้สาระ ใครก็ทำได้ แต่เวลาเดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนานะ เราทำเองนะ เราเก็บหอมรอมริบนะ

เวลาทำมาค้าขายเราอยากได้ความสำเร็จ เวลาเราภาวนา เราอยากยกใจเรา เฮ้ย! ทำไมมันทุกข์ขนาดนี้วะ เฮ้ย! แล้วมันมีทางออกอย่างไรล่ะ เฮ้ย! แล้วจะไปกันอย่างไรล่ะ แล้วเราจะไปทางไหนล่ะ

ครูบาอาจารย์ท่านพาออกอย่างนี้ ถ้าพาออกอย่างนี้ นี่ไง ฟังธรรมๆ ฟังธรรมเตือนตรงนี้ไง นี่ไง เวลามาวัดมาวา เราเสียสละไป เห็นหมด วัตถุเห็นหมดเลย แต่เวลาให้ธรรมเป็นทานๆ ประเสริฐที่สุด ให้ธรรมก็ให้สติให้ปัญญานี่ไง ให้สติให้ปัญญา ให้ระลึกรู้ อย่า อย่าปล่อยชีวิตนี้ให้มันสูญเปล่าไง เกิดมาแล้วได้อะไร หาเงินหาทองทิ้งไว้ที่นี่ ตายไป ทำดีก็ได้ดี ทำชั่วก็ได้ชั่ว สมบัติของมนุษย์มันมีอะไรเป็นของของเราบ้าง สมบัติของมนุษย์ ทำดีทำชั่วนี่สมบัติของเรา เราทำของเรา ถ้าใครจะเยาะเย้ยถากถางนั่นเรื่องของเขา ปากสกปรก เราเชื่อมั่นในปากขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ศีล สมาธิ ปัญญา

ศีลทำให้ใจเราปกติ เราไม่พลั้งเผลอ เราไม่ทำสิ่งใดให้มันถลำไป นี่ศีล ถ้าสมาธิ สมาธิตั้งมั่นแล้วใครจะหลอก ไอ้ที่มันเป็นๆ กันอยู่นี่ เพราะมันเหลวไหลไง ใครพูดอะไรก็เชื่อไง เขาไม่ต้องพูด วิ่งตามเขาไปแล้ว แต่ถ้ามันมีสมาธิขึ้นมา มันตั้งมั่นขึ้นมา ชีวิตมันอยู่ที่ไหน วิ่งไปหาอะไร มนุษย์สร้างทั้งนั้น ของในโลกนี้มันมีอะไรมหัศจรรย์ มันมีอะไรมหัศจรรย์บ้าง ก็คนสร้างทั้งนั้น แล้วคนมันเป็นใคร เราก็คนน่ะ ทำไมเขาสร้าง แล้วไปดูอะไรของเขาล่ะ

แต่ดูสิ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครูบาอาจารย์ของเราท่านอยู่ในป่าในเขา ท่านทำของท่านขึ้นมา ใครไปรู้ไปเห็นล่ะ ถ้ามันรู้มันเห็นขึ้นมาก็รู้เห็นในใจนั้นไง ใจมันเป็นไง ถ้าใจมันเป็นขึ้นมา เวลามรรคมันเคลื่อน มรรคมันไป เวลาหลวงตาท่านสิ้นกิเลส กราบแล้วกราบเล่า กราบแล้วกราบเล่า กราบอะไรน่ะ กราบอะไร ทำไมมันรู้ได้อย่างไร มันรู้ได้อย่างไร องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ารู้ได้อย่างไร รู้ได้ลึกซึ้งขนาดนี้ แล้วองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ารู้ได้อย่างไร รู้แล้ววางธรรมวินัยนี้ไว้ให้เราปฏิบัติขึ้นมาแล้วมันเป็นจริงขึ้นมา มันรู้ได้อย่างไรล่ะ

นี่ไง ถ้าเราเดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา ที่ว่าธรรมมันเกิดๆ มันเกิดที่นี่ มันเกิดในหัวใจนี่ ธรรมเข้าสู่ใจนี่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากราบธรรมๆ กราบธรรมอันนี้ กราบธรรมในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสวยธรรมอยู่เต็มหัวใจนั่นน่ะ ท่านถึงเคารพ ท่านถึงบูชาเทิดทูนไง เวลาครูบาอาจารย์ท่านประพฤติปฏิบัติขึ้นมา ท่านเทิดทูนอันนี้ไง ท่านเทิดทูนอันนี้

นี่กราบธรรมๆ เธอจงมีธรรมเป็นที่พึ่งเถิด อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งเลย ถ้าเธอมีธรรมเป็นที่พึ่งเถิด แล้วในใจเราเป็นธรรมทั้งหมด ธรรมทั้งแท่งมันอยู่ในใจ แล้วมันมีอะไรมีค่าอีก

ฟังธรรมๆ เพื่อเหตุนี้ไง ให้เห็นคุณค่าของใจเรา ให้เห็นคุณค่าของใจเรานะ สมบัติพัสถานนั้นมันก็เป็นสมบัติอย่างนั้นน่ะ มันเป็นของเราก็เป็นของเราวันยังค่ำ เว้นไว้แต่เอาเซ่อให้เขาโกงไปก็จบ แต่ถ้าบุญกุศล ใครมันโกงเราไม่ได้ ใครมาหยิบฉวยของเราไม่ได้ อันนี้ทำไม่ได้

ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เราทำเอง ปัจจัตตัง สันทิฏฐิโก เรารู้อยู่แก่ใจ ความลับไม่มีในโลก ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ทำเสียเอง สมาธิก็สมาธิเป็นเอง ปัญญาเกิดขึ้น ปัญญาเกิดขึ้นเอง มรรคเกิดขึ้น มรรคเกิดขึ้นเอง แล้วมรรคมันเกิดขึ้น สิ่งนี้มันเป็นความมหัศจรรย์ เวลามรรคมันเคลื่อน เราไปกราบหินแกรนิตกัน ธรรมจักรๆ นั่นน่ะ วาดรูปขึ้นมาแล้วก็กราบกันอยู่นั่น นี่ไง กราบพระพุทธเจ้า กราบอิฐหินทรายปูน กราบอะไร

นี่ก็เหมือนกัน เวลาธรรมมันเกิด เกิดในใจมันเกิดอย่างไร ถ้าธรรมในใจมันเกิด แล้วธรรมอันนั้นมันเกิด อวิชชาความไม่รู้มันจะรู้ขึ้น แล้วความที่มืดบอดมันจะสว่างขึ้น ความเป็นจริงจะสว่างขึ้น

ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งปัญญา ปัญญาเกิดจากการภาวนา ปัญญาเกิดจากการค้นคว้า ปัญญาเกิดจากจิต อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา อวิชชาทำให้มืดบอด แล้วเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะเพราะความไม่รู้อันนั้น เพราะความมืดบอด เกิดแล้วถึงรู้ ธรรมจักรมันเกิดขึ้น ธรรมจักรมันรื้อค้นของมัน มันสว่างโพลงในใจ มันจะไปไหนล่ะ ในเมื่อเราเคลื่อนไปข้างหน้ามันมีแต่ความทุกข์ความยาก มันจะไปไหนล่ะ มันไม่ไปไหนทั้งสิ้น ถ้าไม่ไปไหนทั้งสิ้น มันอยู่ของมัน สัจธรรมมันเป็นอย่างนี้ไง

ฟังธรรมๆ เพื่อเห็นคุณค่าของเรา ให้เห็นน้ำใจของเรา น้ำใจอันนี้มีค่าที่สุด ความรู้สึกอันนี้ เวียนว่ายตายเกิดเพราะปฏิสนธิจิต ปฏิสนธิจิต ไม่ใช่จิตเวทนาจิต สุขเวทนา ทุกขเวทนา ขันธเวทนา แต่ถ้ามันปฏิสนธิจิต ฐีติจิต จิตเดิมแท้ จิตดั้งเดิม จิตใต้ปฏิสนธิ จิตอันนั้นถ้ามันหลุดพ้น จิตเป็นได้ ใจเป็นได้ ใจเราเป็นได้ ทุกอย่างเป็นได้

ฟังธรรมๆ เตือนตรงนี้ เตือนตรงนี้เพื่อหัวใจของเรา เพื่อประโยชน์กับเรา นี่พระพุทธศาสนา การเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ แล้วไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย ไม่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ พ้นไปจากกิเลสด้วยการประพฤติปฏิบัติ พ้นจากกิเลสด้วยความวิริยอุตสาหะ พ้นไปจากกิเลสด้วยความเพียรความมุมานะของมนุษย์ เอวัง