เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๒๕ ก.พ. ๒๕๖o

เทศน์เช้า วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐

พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

 

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

ตั้งใจฟังธรรมะนะ วันนี้วันพระ วันพระ พระผู้ประเสริฐมันประเสริฐที่หัวใจ เราแสวงหาหัวใจของเราให้มันประเสริฐ การประเสริฐนี้มันต้องตบแต่ง ต้องรักษา ต้องดูแล มันถึงจะประเสริฐขึ้นมา เพราะเราเกิดมาตามเวรตามกรรม กรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กัน เราเกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา เรามีสติปัญญาของเรานะ เราจะหาบุญกุศลของเราเพื่อหัวใจดวงนี้ ถ้าหัวใจดวงนี้ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกก็ต้องให้มันได้เวียนว่ายตายเกิดโดยที่ไม่ต้องทุกข์ไม่ต้องยากจนเกินไป แล้วให้มันมีสติปัญญาไง ให้มันมีสติปัญญาพยายามหาทางออก หาทางออกจากทุกข์ให้ได้ ถ้าหาทางออกจากทุกข์ให้ได้ มันไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก

คนเราจะหายาอายุวัฒนะให้ชีวิตอยู่ค้ำฟ้าๆ เราก็มองทางโลกอยู่แล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ใช่ไหม คนเราน่ะ ชีวิตนี้ต้องมีการพลัดพรากเป็นที่สุด แต่การพลัดพรากนี้ต้องพลัดพรากด้วยเสบียงกรังของเรา พลัดพรากไปด้วยบุญกุศลของเรา

ทางโลกเขาเวลาเขาจะทำบุญกุศลกัน เขาทอดกฐินของเขา เขาจะหล่อพระของเขา เขาสร้างบุญกุศลของเขา สร้างหอวิมานของเขา เขาสร้างอย่างนั้นมันเป็นเรื่องของทาน ถ้าเรื่องของทานแล้ว เรื่องของทาน ทานเพื่ออะไร ทานเพื่อให้หัวใจมันเปิดกว้างไง ถ้าเปิดกว้างแล้วมันต้องมีสติปัญญา ถ้าสติปัญญาของเรา เราจะหาทรัพย์สมบัติของเราในหัวใจของเราไป

สิ่งที่เราสร้างบุญกุศล หล่อพระ หล่อต่างๆ สร้างพระจากภายนอก ถ้าสร้างพระจากภายนอก มันเป็นความลำบากลำบนไหม มันต้องหาทุนหารอน มันก็เป็นความทุกข์ความยากอันหนึ่ง ถ้าความทุกข์ความยากอันนั้นด้วยความพอใจของคน ด้วยศรัทธาของคน คนก็ขวนขวายกันมา ถ้าขวนขวายกันมา นี่สร้างพระภายนอก ถ้าสร้างพระภายนอกเพื่ออะไร สร้างพระภายนอกขึ้นมาเพื่อเข้าไปศึกษาในพระพุทธศาสนา ได้ทำบุญกุศลแล้วได้ฟังธรรมๆ ฟังธรรมเพื่อตอกย้ำหัวใจของเราไง ถ้าเราฟังธรรมขึ้นมาเพื่อหัวใจของเรา หัวใจเรามันฉลาดขึ้นมา มันจะสร้างพระจากภายใน

ถ้าสร้างพระจากภายใน เราสร้างของเราคนเดียว เรานั่งอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ เราหายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ ถ้ามันจิตสงบเข้ามามันเห็นหัวใจของตน มันเห็นพุทธะของเราในหัวใจ ถ้าสร้างพระอันนี้สำคัญมาก ถ้าสร้างพระอันนี้ขึ้นมา เราสร้างขึ้นมาโดยที่ไม่ต้องมีใครเดือดร้อนไปกับเรา คนที่จะสร้างพระอย่างนี้ได้ต้องมีสติปัญญานะ ถ้าไม่มีสติปัญญา มันหาวัสดุมาก่อสร้างไม่ได้

ถ้าหาวัสดุก่อสร้างขึ้นมา มันต้องมีสติ สติ บริกรรมพุทโธๆ เราจะสร้างพระของเรา เราระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เห็นไหม ต้นแบบ ต้นแบบคือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพุทธลักษณะเป็นอย่างไร แล้วเราก็สร้างของเราขึ้นมาด้วยพุทธะ พุทโธๆๆ เราสร้างหัวใจของเราขึ้นมาด้วยส่วนประกอบขึ้นมา ถ้าจิตใจมันมีอำนาจวาสนาขึ้นมา มันสงบระงับเข้ามา ถ้าจิตมันสงบระงับเข้ามา เราสร้างพระจากภายในๆ นะ การสร้างพระจากภายในลำบากกว่าสร้างพระจากภายนอกมหาศาล

เวลาสร้างพระจากภายนอก เราหาเงินหาทองมา เราจ้างช่าง เราต้องขวนขวายนะ ไปดูแบบเพื่อความพอใจของเรา แต่เวลาสร้างพระภายในๆ มันหงุดหงิด มันขัดข้อง มันไม่มีอะไรสิ่งใดที่มันจับต้องได้เลย แต่สิ่งนี้เวลาสร้างแล้วมันมีคุณค่ามาก มันมีคุณค่ามาก คุณค่าที่ไหน คุณค่าว่า สุขอื่นใดเท่ากับจิตสงบไม่มี จิตมันสงบระงับเข้ามา นี่เป็นสมบัติของเรา

สมบัติภายนอกที่แสวงหาขึ้นมา สมบัตินี้เป็นสมบัติสาธารณะ เวลาจิตมันสงบเข้ามาแล้ว จิตสงบเข้ามา จิตนี้เวลาสงบแล้วมันเป็นอนิจจัง อนิจจังคือมันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป มันก็ชั่วคราวเท่านั้นน่ะ แต่ความชั่วคราวอันนี้มันก็ฝังใจไปตลอดชีวิต มันฝังใจๆ ไปนะ ใครทำความสงบระงับได้ ใครทำความสงบระงับได้ เวลาถึงใกล้มรณภัยขึ้นมา ถ้ามันยังกิเลสท่วมท้น มันพยายามจะไขว่คว้าหาที่พึ่งๆ

ถ้ามันได้สตินะ มันได้สติ มันระลึกถึงพระภายในๆ มันไม่ต้องไปไหนเลย พระภายในมันพร้อมอยู่แล้ว พระภายในมันพร้อมอยู่แล้ว

แต่ด้วยความขาดสติ เพราะอะไร เพราะเราคิดว่าสิ่งที่เป็นวัตถุนี้เป็นที่พึ่งได้ เราคิดว่าสิ่งที่ยศถาบรรดาศักดิ์มันจะเป็นที่พึ่งได้ เราคิดว่าอย่างอื่นจะเป็นที่พึ่งได้ๆ จิตมันด้วยความโง่ มันก็วิ่งออกไปข้างนอกนะ มันทุกข์มันยาก มันมีความลำบากลำบน เพราะมันพึ่งอะไรได้ เพราะมันพึ่งอะไรไม่ได้ทั้งสิ้นเลย

แต่ถ้ามันมีสติสัมปชัญญะ มันนึกได้ เราเคยทำความสงบของใจ ใจเราเคยสงบระงับเข้ามา มันพึ่งตนเองได้ ความสุขอันนั้นมันเป็นความมหัศจรรย์ใช่ไหม ถ้ามีสติปัญญาระลึกได้ขึ้นมา มันจะเข้ามาสู่จิตดวงนี้ ถ้ามันเข้าสู่จิตดวงนี้แล้ว มันมีที่พึ่งของมันแล้วนะ คนเรามันมีความสมบูรณ์ทุกอย่างพร้อม มันจะต้องเดินทาง มันวิตกกังวลอะไร มันไม่เคยวิตกกังวลอะไรเลย แต่คนที่ไม่มีสิ่งใดเลย เวลามันจะไปมันจะทุกข์มันจะยาก

สิ่งที่เราจะสร้างพระภายในของเรา สร้างพระมันสร้างแสนทุกข์แสนยาก แต่พระอันนี้มันมั่นคงนะ พระอันนี้มันเป็นความจริงของเรานะ ดูสิ เวลาคนรักตนสงวนตัว รักขนาดไหน แล้วรักอะไรล่ะ รักสิ่งที่มันเน่าเปื่อยใช่ไหม รักสิ่งที่ไม่ใช่ของเราสักอย่างหนึ่งเลย ว่าเรารักตนๆ แต่เราไปหยิบจับหยิบฉวยสิ่งที่ไม่ใช่ของเราสักอย่างหนึ่งเลย สิ่งนี้มันเป็นผลของวัฏฏะๆ

ด้วยบุญกุศลนะ เราได้เกิดเป็นมนุษย์ พอเกิดเป็นมนุษย์มีสติมีปัญญา สติปัญญาโดนกิเลสมันครอบงำ พอมันครอบงำแล้วมันก็จะไปไขว่คว้าแต่ความพอใจของมัน ความพอใจของกิเลสไง ไม่ใช่ความพอใจตามความเป็นจริงไง เพราะสติปัญญาเราไม่เท่าทันกับกิเลสของเราไง กิเลสมันก็พาเราไปทั้งนั้นน่ะ พาเราไปหยิบฉวยสิ่งที่ไม่เป็นความจริงสักอย่างหนึ่งเลย

แล้วสิ่งที่ไม่เป็นความจริง คนที่มีสติมีปัญญา สิ่งที่ไม่มีความจริง เราเสียสละออกไป มันยังเป็นบุญกุศลขึ้นมา สิ่งที่ไม่เป็นความจริงนี่แหละ วัตถุธาตุมันเป็นสาธารณะ มันเปลี่ยนมือไปตลอด แต่ถ้าคนมีสติมีปัญญา มันเสียสละขึ้นมาเพื่อประโยชน์กับเราไง

แต่ถ้าคนโง่ คนโง่มันก็บอกของกูๆ แล้วของกูแล้วไม่มีอะไรเป็นของกูสักอันหนึ่งเลยล่ะ ถ้าไม่ใช่ของกูนะ สิ่งนี้ที่เป็นวัตถุมันยังเสียสละได้ยากขนาดนี้ แล้วเวลาโกรธล่ะ เวลาโลภล่ะ เวลาความทุกข์ยากในใจล่ะ แล้วมันจะเสียสละอย่างไร ถ้าการเสียสละ เราฝึกหัดมาตั้งแต่ทานเป็นอามิส สิ่งที่เป็นอามิส ของที่เป็นวัตถุ

สุขเราจะเกิดขึ้นมาด้วยอามิส สุขเราจะเกิดได้ด้วยการเที่ยวเตร่ ด้วยการไปพักผ่อน สุขอย่างนั้นมันก็สุขของเขา ความสุขอย่างนั้นมันเป็นความสุขของโลกไง ความสุขของโลกเขาคิดได้ขนาดนี้ คุณภาพชีวิต ทำงานแล้วก็ต้องมีการพักผ่อน ทำงานแล้วก็ต้องมีแบบว่าพักร้อน นี่ไง เขาคิดว่าให้มนุษย์ต้องมีการทำงาน เขาจะเอาผลประโยชน์จากการทำงานของทรัพยากรมนุษย์ให้มากที่สุด เขาก็คิดค้นคว้าขึ้นมาว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ได้ผลงานให้ได้มากที่สุดๆ ไง เราคิดว่าสิ่งนั้นน่ะจะเป็นความสุขๆ ของเราไง

ความสุขอย่างนี้มันเป็นความสุข เพราะคนที่มีสติปัญญานะ คนที่มีสติปัญญา คนที่รับผิดชอบ แม้แต่หน้าที่การงานทางโลกเขาก็รับผิดชอบของเขา เพราะความรับผิดชอบอันนั้นมันมีสัจจะในหัวใจอันนั้น ทำสิ่งใดก็จะประสบความสำเร็จทั้งนั้นน่ะ

แล้วถ้าคนอย่างนั้นมันมีสติมีปัญญา เรามีสติปัญญานะ เวลาคนจะออกประพฤติปฏิบัติทุกคนจะวิตกกังวลไปทั้งหมดน่ะว่าเราทำไปแล้วจะได้ผลหรือไม่ คนรอบข้างขึ้นมาก็พยายามจะบอกว่าสิ่งนั้นดีกว่าสิ่งนี้ สิ่งนี้ดีกว่าสิ่งนั้น ไอ้นั่นมันเป็นมุมมอง เป็นพันธุกรรมของจิต มันเป็นจริตนิสัย จริตนิสัยของคนมันไม่เหมือนกัน ความรักความชอบของคนมันแตกต่างกัน

ความรักความชอบของคนแตกต่างกัน แต่โดยพื้นฐาน โดยพื้นฐานคนของเรา ถ้าเราจะเริ่มหาผลประโยชน์ เราต้องหาผู้รับผลประโยชน์นั้นก่อน ถ้ารับผลประโยชน์นั้นก่อน ดูสิ เวลาสติปัญญาเราไม่ทัน กิเลสมันชักจูงไปๆ เราไปหยิบฉวยสิ่งที่เป็นที่พึ่งไม่ได้ทั้งสิ้นเลย

แต่สิ่งที่เป็นที่พึ่งได้ๆ เราต้องทำความสงบของใจเข้ามาก่อน หาผู้ที่รับผิดชอบให้ได้ก่อน ถ้าหาผู้รับผิดชอบนี้ได้ ผู้รับผิดชอบนี้มีสติปัญญานะ ผู้รับผิดชอบนี้พยายามพาใจดวงนี้ พาใจดวงนี้ออกสู่วิปัสสนาๆ ไง งานมันจะเกิดขึ้นเป็นชั้นเป็นตอนๆ ขึ้นไป มันต้องเป็นตามข้อเท็จจริงนั้น มันต้องเป็นปัจจัตตัง เป็นสันทิฏฐิโก ปัจจัตตัง สันทิฏฐิโกที่ผู้ที่ประพฤติปฏิบัติแล้วมันแจ่มแจ้งกลางหัวใจ

มีสติมันก็รับรู้ได้ว่ามีสติ ชีวิตของเราราบรื่น ถ้าเราขาดสติขึ้นมา เพราะเราขาดสติ เราถึงได้โลภ ได้โกรธ ได้หลง เพราะเราขาดสติ เราถึงมีปัญหา เพราะเราขาดสติ เราถึงไปหยิบฉวยสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ สิ่งที่ไม่มีคุณค่า

ถ้าเรามีสติขึ้นมา สิ่งที่มีคุณค่าๆ แต่เพราะเรามีสติปัญญา เอาสิ่งที่มีคุณค่านั้นมาทำประโยชน์กับเรา ทำประโยชน์เพื่อหัวใจดวงนี้ พอหัวใจดวงนี้มันได้เสียสละของมันขึ้นมา มันเปิดกว้างขึ้นมา พอมันเปิดกว้างขึ้นมา ถ้ามันมีสติมีปัญญาขึ้นมา มันฉลาดขึ้น มันฉลาดขึ้นแล้วมันรอบคอบขึ้น มันดูแลหัวใจของเราขึ้น เราสร้างพระของเราๆ ไง ถ้าสร้างพระของเรานะ ถ้าจิตมันสงบขึ้นมามันมหัศจรรย์ๆ สิ่งที่มหัศจรรย์ มหัศจรรย์จริงๆ แล้วมหัศจรรย์นี้ไม่ต้องให้ใครเยินยอ ไม่ต้องให้ใครยกย่องสรรเสริญ

โมฆบุรุษตายเพราะลาภ อยากมีชื่อเสียง อยากให้คนเคารพนบนอบ อยากให้เขาเชิดชู อยากให้เขาบอกว่าเราปฏิบัติเก่ง อยากให้เขาบอกว่าเรามีคุณธรรม...ต้องไปบอกเขาหรือ ต้องไปถามเขาหรือ

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้อยู่โคนต้นโพธิ์นะ เวลาหลงผิดมา ๖ ปี ๖ ปีที่หลงผิดมา ขนาดมีคนยกย่องสรรเสริญขนาดไหน อาฬารดาบส อุทกดาบสบอกว่าทำได้เหมือนเรา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังปฏิเสธ

เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะรื้อค้นใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอง สิ่งที่เป็นจริงมันก็เป็นจริง เป็นปัจจัตตัง เป็นสันทิฏฐิโก มันถอดถอนกิเลสได้จริงๆ มันถอดมันถอน มันทำสิ่งที่ความลังเลสงสัย สิ่งที่มันหมักหมมในใจ มันสำรอกมันคาย มันฆ่า ยถาภูตัง มันเห็นการกระทำของมันตามความเป็นจริง เกิดญาณทัสสนะ รู้อีกต่างหาก นี่เวลามันเป็นจริงๆ มันเป็นจริงที่กลางหัวใจนี้ ทำไมต้องไปให้เขายกย่องสรรเสริญให้เขาเชิดชูล่ะ

เพราะต้องการให้เขายกย่องสรรเสริญให้เขาเชิดชู ถึงจะต้องมีของแลกเปลี่ยน ให้เขาเชื่อถือเรา ให้เขายอมรับเรา ให้เขาเห็นว่าเราเป็นคนดี คนดีมันดีที่ไหน มันดีที่หัวใจเรานี่แหละ มันดีที่การกระทำของเรานี่แหละ แต่ถ้ามันดีที่การกระทำ มันก็อยู่ที่หัวใจสูงหัวใจต่ำ หัวใจถ้ามันยังต่ำต้อยอยู่ ต่ำต้อยอยู่มันก็ทำความดีของมันเล็กน้อยขึ้นไป

ถ้าหัวใจมันเข้มแข็งขึ้นมา หัวใจมันมีหลักมีเกณฑ์ขึ้นมา ดูสิ พระกัสสปะเสียสละทั้งหมดเลย สมบัติที่ ๒ ตระกูล ตระกูลของพระกัสสปะกับของตระกูลของภรรยาแจกหมดๆ แจกหมดเลย แล้วเวลาออกประพฤติปฏิบัติขึ้นมา มันปฏิบัติมันจะเป็นจริงไหมล่ะ มันเป็นจริงขึ้นมาเพราะท่านมีสัจจะของท่านขึ้นมา เวลามันเป็นจริงขึ้นมา ท่านแสวงหาพระจากภายในๆ

แต่เราไม่ต้องขนาดนั้น เราไม่ต้องเสียสละหมดหรอก เราเก็บไว้ในบัญชี เราถือไว้ได้ แต่ของเรา เราดูแลรักษาของเราไง แต่เราต้องเอาใจดวงนี้ๆ ไง แล้วใจดวงนี้ถ้ามันมีค่าขึ้นมา ถ้ามันพัฒนาขึ้นมา ใจดวงนี้ที่มีค่า มีค่าเพราะเหตุนี้ไง นี่พระภายใน พระภายในมันมีค่ามาก เพราะพระภายในไม่ทุกข์ เพราะพระภายในมีความสุข เพราะพระภายในมันมีของมัน แล้วความสุขนี้ ใครเอาความสุขมาแลกกัน ใครเอาความสุขไปให้กัน เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยก็ไปเยี่ยมไข้เท่านั้นน่ะ เวลาคนจะเป็นจะตายก็นึกถึงพระนะ แล้วตัวเองที่บอกให้นึกถึงพระมันยังไม่รู้จักพระเลย

ถ้ามันเป็นจริงๆ มันเป็นจริงที่ใจของเรานี่ ถ้าเป็นจริงที่ใจของเรา เราทำของเราขึ้นมา เพราะปัจจัตตัง สันทิฏฐิโก

ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ ข้อ เวลาชี้ก็ชี้เข้ามาที่ใจของคนเท่านั้นน่ะ ชี้เข้ามาถึงหัวใจของเรานะ แต่สิ่งที่หัวใจของเรามันจะแสดงออก ระดับของทาน มีเจตนา มีการแสดง มีกิริยา บอกเป็นแค่พิธีกรรมๆ มันเป็นประเพณี เป็นแค่ประเพณี เป็นแค่พิธีกรรม แต่พิธีกรรมนี้มันมาจากไหนล่ะ มันก็มาจากหัวใจ ระดับของทานๆ ไง ระดับของทานก็พยายามจะสร้างบุญกุศลกัน จะสร้างพระองค์ใหญ่ๆ ใหญ่ที่สุดในโลก สวยที่สุดในโลก แล้วมันก็ตายไป มันสร้างไว้ให้ตุ๊กแกมันอยู่ ไอ้พวกตุ๊กแกไอ้จิ้งจกก็ไปอาศัยที่นั่นน่ะ แต่เวลาไอ้คนที่สร้างพระที่ใหญ่ที่สุดในโลก สวยที่สุดในโลก มันไปไหนล่ะ พระก็ตั้งอยู่นั่นน่ะ

แต่เราจะสร้างคุณงามความดี น้ำใจที่มีคุณธรรมที่สุดในโลก ถ้าใจมันเป็นคุณธรรมขึ้นมา เรามีความสุขก่อน เรามีความสุขนะ ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหมดชี้เข้ามาที่ใจของเรา ถ้าใจมันพัฒนาๆ ระดับของทานก็ทาน ระดับของทานมันก็น่าเห็นใจ น่าเห็นใจ ฐานของเจดีย์มันกว้างขวาง เราจะมีคนเกิดใหม่ เราจะมีวัยรุ่น เราจะมีเด็กขึ้นมาทั้งนั้นน่ะ เราก็ต้องให้เขาเข้าใจ ให้เขาซึมซับ ถ้าเขาซึมซับของเขานะ มันจะเป็นประโยชน์กับเขาไง มันเป็นบันไดหนีไฟนะ ถ้าวันไหนเขาทุกข์ขึ้นมา เขาจะได้อันนี้เป็นที่อาศัย เป็นเครื่องอยู่

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกแล้ว ทุกข์นี้เป็นอริยสัจ ทุกข์นี้เป็นความจริง ชีวิตนี้เราต้องเผชิญกับความจริงอย่างนี้ แล้วถ้าเผชิญกับความจริงอย่างนี้ เราถึงต้องมีสติมีปัญญาพาชีวิตของเราไม่ให้มันทุกข์ยากจนเกินไป แล้วถ้ามันจะเอาความสุขจริงๆ ความสุขจริงในโลกนี้มันของชั่วคราวเท่านั้นน่ะ แล้วถ้าความสุขจริง ความสุขจริงเราก็ต้องแสวงหาความสุขจากภายในของเรา ความสุขจากภายในมันอยู่ที่ไหนล่ะ

ความสุขภายใน ความสุขจากภายในนะ ดูสิ เวลาเรามาฝึกหัดภาวนานะ คนที่จะฝึกหัดภาวนาได้มันต้องมีสติปัญญาก่อน คือมันมีศรัทธาความเชื่อของมัน มันถึงมั่นคงของมันไง ดูสิ แม้แต่สิ่งที่เป็นวัตถุ การจะเสียสละ คนที่ตระหนี่ถี่เหนียวเขาเสียสละได้ไม่ได้ คนที่จะเสียสละมันก็ต้องมีสติมีปัญญา มีครูบาอาจารย์ที่ดี ครูบาอาจารย์ที่ดีท่านทำของท่านเพื่อให้เป็นประโยชน์ไง สิ่งนั้นให้เป็นประโยชน์ ปฏิคาหก ผู้ให้ด้วยความสะอาดบริสุทธิ์ ผู้รับด้วยความสะอาดบริสุทธิ์ สิ่งนั้นมันเป็นสมบัติของศาสนา ถ้าสมบัติของศาสนา แล้วสมบัติของเราๆ ล่ะ

ถ้าสมบัติของเรา สิ่งที่เสียสละไปแล้วที่ว่าเป็นทิพย์ๆ ถ้ามันทำด้วยปฏิคาหกนะ เวลาเขาไปเกิด คนที่ทำบุญกุศลจนเต็มเปี่ยมของเขา เวลาเขาจะออกจากร่างไป รถจากสวรรค์จะมารับของเขาไป อันนั้นมันเป็นข้อเท็จจริงนะ แต่ข้อเท็จจริงมันก็เป็นของคนนั้นเท่านั้นน่ะ ไม่ต้องให้ใครมาค้ำประกัน ไม่ต้องมีใครรับรอง ถ้าคนคนนั้นทำเอง คนคนนั้นจะได้เอง คนคนนั้นจะรู้เอง แต่เพราะครูบาอาจารย์ท่านทำของท่าน ท่านรู้ของท่าน อันนี้มันเป็นผลของวัฏฏะๆ คือมันเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ

แต่ถ้าเป็นจริงๆ เราสร้างพระภายใน สร้างพระภายในของเรา ธรรมทั้งหลายขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าชี้เข้ามาในหัวใจ ถ้าชี้เข้ามาในหัวใจ ถ้ามีศรัทธามีความเชื่อแล้ว เราได้ทำทานของเราแล้ว เราฝึกหัดสติของเราแล้ว เราจะฝึกหัดภาวนาของเรา เราจะจับต้องของเรา

ความสุขทุกคน ทุกคนก็ต้องแสวงหา ความสุขทุกๆ คน ทุกคนก็อยากได้ ทุกคนแสวงหาแต่ทรัพย์สมบัติที่มีคุณค่าเพื่อชีวิตนี้ทั้งนั้นน่ะ คนที่อยากได้ยศถาบรรดาศักดิ์ก็ต้องให้ยศถาบรรดาศักดิ์ที่ยอดเยี่ยมทั้งนั้นน่ะ

แต่คนที่จะได้สัจธรรมในหัวใจ คนที่ได้สมาธิในหัวใจ ก็สมาธิในใจของเราเอง ใจของเราแท้ๆ เลย แล้วใจของเราแท้ๆ ทำไมมันไปกว้านเอาแต่ความทุกข์ความยากล่ะ ใจของเราแท้ๆ ทำไมกว้านเอาแต่ความทุกข์มาให้เราล่ะ ใจของเราแท้ๆ เลย แล้วมันจะดัดแปลงอย่างไรๆ น่ะ ก็ต้องบังคับ

การภาวนาใหม่ๆ นะ ใหม่ๆ ต้องบังคับ บังคับว่าเราต้องเข้าใจนะ อาหารที่ดีๆ ทุกคนก็แสวงหาใช่ไหม แล้วอาหารที่ไม่ดี ทุกคนก็ไม่ต้องการใช่ไหม

ไอ้นี่ก็เหมือนกัน อารมณ์ที่แปรปรวน อารมณ์ที่เป็นความทุกข์ ทำไมไปเสวยตลอดล่ะ ไอ้ความโลภ ความโกรธ ความหลง ไอ้ที่คิดแล้วน้ำตาไหล ทำไมชอบไปคิดมันล่ะ ทำไมคิดพุทโธไม่ได้หรือ

มันไม่ได้หรอก ไม่ได้เพราะจริตนิสัย เพราะมันสันดาน สันดานของหัวใจมันเคยปล่อยปละละเลยมาตลอดไง แล้วถึงเวลาจะมาควบคุมมันน่ะ มันจะควบคุมมันอย่างไร เห็นไหม แค่นี้ก็ต้องมีสติมีปัญญาแล้ว คนที่มีสติมีปัญญามันสามารถควบคุมใจของตนได้

ไอ้สิ่งที่เวลาไปจับไปต้องขึ้นมามีแต่พิษมีแต่ภัย มีแต่ความร้อน มีแต่ความทุกข์น่ะ ชอบๆๆ เวลาสิ่งที่เป็นพุทธานุสติ เป็นคุณ เป็นธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บังคับมันทำ มันไม่ยอมทำๆ ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าเป็นความดี มันก็ไม่ยอมทำ ถึงต้องบังคับไง

มันไม่ชอบก็ต้องบังคับ มันไม่ชอบก็ต้องพยายาม พยายามของเรา พุทโธ หายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ บังคับมันๆ แล้วถ้ามันมีวาสนานะ มันเป็นไปโดยสัจจะเลย เป็นไปโดยข้อเท็จจริงเลย แต่ถ้าไม่มีอำนาจวาสนาก็ต้องบังคับไปก่อน บังคับไปก่อนจนกว่ามันมีอำนาจวาสนาขึ้นมา อำนาจวาสนาที่ว่าสร้างบุญกุศล เสียสละทานๆ มันจะมีผลตรงนี้ มันมีผลที่จิตใจให้อ่อนนิ่มควรแก่การงาน จิตใจของคนควรแก่การงาน

จิตใจแข็ง จิตใจกระด้าง จิตใจที่มีทิฏฐิมานะ จิตใจที่ถึอตัวกูของกู ยึดมั่นถือมั่น มันจะพุทโธได้อย่างไร มันจะดีได้อย่างไร แต่จิตใจของคนที่อ่อนควรแก่การงาน จิตใจของคนมีศรัทธามีความเชื่อ เรารักษาของเรา ศึกษาของเรา จิตใจมันพัฒนาขึ้นมา มันควรแก่การงานไง มันละเอียดอ่อน มันเข้ากันได้ไง พุทโธๆๆ จนมันเป็นจริงขึ้นมา เราจะสร้างพระของเรา

แสนเหนื่อยแสนยาก สร้างพระจากภายนอก หาเงินหาทองไปจ้างโรงหล่อมาหล่อ เอาร้อยองค์ก็ได้ถ้ามีตังค์ แต่สร้างพระของตนนะ ให้มีเงินมหาศาล ให้เงินจรดฟ้าด้วย ซื้อไม่ได้ สั่งที่ไหนก็ไม่มี ทุกข์จนเข็ญใจ เศรษฐีกุฎุมพี ต้องปฏิบัติขึ้นมา ต้องหาของเราขึ้นมา แล้วเวลาเป็นขึ้นมาแล้วมันก็เป็นสมบัติของเรา ใจของเราแท้ๆ หล่อจัดการให้มันเป็นคุณธรรมขึ้นมา

ทำของเรา เรามีสติปัญญานะ เกิดมาเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา มีสติมีปัญญาที่จะควบคุมดูแลของเราเอง เรารักษาของเราเอง ไหนว่าเราเป็นคนดีไง ไหนว่าเป็นคนที่รักตนรักตัวไง แล้วอริยทรัพย์ ทรัพย์ที่มันเป็นทรัพย์อริยทรัพย์ทำไมไม่ขวนขวาย ทำไมไม่ให้เป็นสมบัติของเรา ถ้าเป็นสมบัติของเราได้ เราจะสร้างพระจากภายใน เอวัง