เทศน์เช้า วันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๑
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต
ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
ตั้งใจฟังธรรมะนะ วันนี้วันพระ วันพระ วันโกน เราขวนขวายมาทำบุญกุศลของเรา แล้วบุญกุศลเราอยู่ที่ไหน นี่บุญกุศล
เวลาหลวงตาท่านอยู่กับหลวงปู่มั่นไง เวลาหลวงปู่มั่นท่านเทศนาว่าการนะ นิพพานหยิบเอาไปได้เลย เพราะเวลาหลวงปู่มั่นท่านพูดออกมาจากใจท่าน ท่านเป็นพระอรหันต์ ท่านได้ผ่านวิกฤติมา ท่านรู้จักกิเลสตัณหาความทะยานอยาก ท่านได้ฟาดฟันกับมันมา ท่านรู้เล่ห์เหลี่ยมของมัน ท่านบอกวิธีการนะ เวลาหลวงตาท่านบอกท่านนั่งฟังเทศน์หลวงปู่มั่นอยู่ นิพพานเหมือนหยิบจับได้เลย เหมือนดวงดาวที่เราจะจับได้เลย เพราะผู้ที่เทศนาว่าการเป็นผู้รู้จริง เพราะผู้รู้จริงทำให้เราได้เห็นจริงไง
นี่ก็เหมือนกัน เรามาทำบุญกุศลของเรา เราทำบุญกุศลของเรา แล้วบุญกุศลเราอยู่ที่ไหนล่ะ หยิบจับได้ไหม บุญกุศลมันอยู่ที่ไหน บุญกุศลมันอยู่ที่หัวใจของเรานะ หัวใจของเราที่มันทุกข์มันยากนี่
เวลาถ้ามันเป็นบุญเป็นกุศลขึ้นมา จิตใจมันปลอดโปร่ง จิตใจมันโล่งโถง แต่ถ้าวันไหนถ้ามันทุกข์มันยาก กิเลสตัณหาความทะยานอยากมันบีบคั้นมัน เห็นไหม มันทุกข์มันยาก มันบีบมันคั้นนะ
เวลาเราดูหนังกำลังภายใน กระบี่อยู่ที่ใจๆ กระบี่ ถ้าใจมันเป็นธรรมแล้ว กระบี่ มันเอากิ่งไม้เอาใบไม้ มันก็เป็นกระบี่ฟาดฟันกับข้าศึกได้ทั้งนั้นเลย นี่ก็เหมือนกัน ถ้าจิตใจที่มันเป็นธรรมๆ แล้วเป็นธรรมมันมาจากไหนล่ะ เป็นธรรมก็มาจากหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นไง หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นท่านฟาดฟันกับกิเลสตัณหาความทะยานอยากมา
กระบี่อยู่ที่ใจๆ ไอ้คนที่มันจะฝีมือเป็นยอดยุทธจักรมันฝึกฝนมาขนาดไหน มันต้องฝึกฝนมาตั้งแต่เด็กน้อย ตั้งแต่อายุเยาว์วัยกว่ามันจะฝึกฝนมันมาขนาดนั้น นี่ก็เหมือนกัน ถ้าเราจะมีธรรมะในหัวใจ เราจะมีที่พึ่งที่อาศัยของเรา เราก็ต้องฝึกฝนของเราๆ
ถ้ามาฝึกฝนของเรา เวลาฝึกฝนของเรา สิ่งที่กระทำๆ มามันฝึกฝน นี่ศาสนพิธี เวลาพิธีกรรมๆ ไปไหนนะ ถ้าที่ไหนวัดไหนเขาทำพิธีกรรม เราก็ต้องสาธุนะ พิธีกรรม เวลาเขาพูดว่า พิธีกรรมเป็นธรรมและวินัย ศาสนพิธี พิธีกรรม เราก็ไปศึกษาค้นคว้ามาจากพระไตรปิฎกนั่นแหละ พระไตรปิฎกเป็นธรรมและวินัย เป็นตัวแทนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พวกเราดูถูกไม่ได้นะ ที่ไหนเขาทำเป็นพิธี เราก็ต้องเป็นพิธีกับเขา แต่พิธีกรรมนั้น พิธีกรรมนั้นมันก็เป็นเรื่องเด็กน้อยใช่ไหม ถ้าเราจะเติบโตขึ้นมา เราจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมา
นี่ก็เหมือนกัน เราจะเป็นเจ้ายุทธจักร เราก็ต้องฝึกฝนขึ้นมา เราต้องมีวิทยายุทธของเรา ถ้าเรามีวิทยายุทธของเรา พิธีกรรมมันเป็นเรื่องทำให้มันกีดขวางกันเรื่องพิธีกรรมนั้นน่ะ แต่พิธีกรรมมันก็ฝึกฝนขึ้นมานะ ถ้าไม่มีพิธีกรรมขึ้นมา ไม่มีการฝึกฝนขึ้นมา มันก็ไม่มีเจ้ายุทธจักร แต่เวลามันเป็นเจ้ายุทธจักรแล้ว กระบี่อยู่ที่ใจๆ ไง
นี่ก็เหมือนกัน เรามาวัดมาวาขึ้นมา เรามาทำบุญกุศลของเรา บอก “เฮ้ย! มันไม่มีอะไรเลย ไปที่วัดแล้วไม่เห็นทำอะไร”
กระบี่มันอยู่ที่ใจ หัวใจเรา หัวใจเราเป็นธรรมหรือไม่ แล้วเราทำบุญกุศลของเราด้วยหัวใจของเราหรือไม่ ทำบุญทิ้งเหวๆ หัวใจเราเป็นธรรมขึ้นมา เรามีเจตนามาตั้งแต่บ้านใช่ไหม วันนี้เราจะไปทำบุญ ถ้าเราคิดถึงบุญกุศลของเรา เวลาบุญกุศลของเรา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสั่งสอนไว้ พวกเราให้รู้จักเสียสละ ให้ฝึกหัดหัวใจของเรา ถ้าฝึกหัดหัวใจ
ถ้าหัวใจของเรามันอยู่ที่ไหน เราไม่รู้จักมันไง เจตนา เจตนาเกิดจากจิต เจตนาก็เกิดจากหัวใจนั่นแหละ ถ้าเจตนานั้น ถ้ามันคิดแต่เรื่องดีๆ มันเลี้ยงหัวใจให้มันดีงามขึ้นมา ถ้าเลี้ยงหัวใจให้ดีงามขึ้นมา แล้วไปแล้ว ไปวัดไปวา ถ้ามันเป็นธรรมๆ ที่ไหนเขาฝึกฝน ที่ไหนเขาทำดีแล้ว เราควรทำตามเขา ไปที่ไหน พระเราจะไปอยู่ที่ไหน เขาจะไปขอนิสัยใคร เขาให้ดูครูบาอาจารย์ก่อน ถ้าครูบาอาจารย์ ถ้านิสัยเข้ากันได้เขาถึงขอครูบาอาจารย์
นี่ก็เหมือนกัน เวลาเราไปวัดไหนๆ วัดไหนเขาทำอย่างไร เราก็สังเกตเขาก่อน เขาทำอย่างไร เราควรทำอย่างนั้น ไม่ใช่ไปกีดไปขวางไง กระบี่อยู่ที่ใจ แต่กูระรานไปทั่วเลย
กระบี่อยู่ที่ใจ เก็บไว้ในใจ ถ้ามันเป็นธรรมๆ นะ กระบี่อยู่ที่ใจ เขาจะลงศีลธรรม ถ้าที่ไหนเป็นศีลเป็นธรรม เขาคุ้มครองดูแล เขาปกป้อง ถ้าที่ไหนไม่เป็นธรรมๆ เราตรวจสอบ ตรวจสอบไปอย่างนั้น
นี่ก็เหมือนกัน ถ้าใครมีความสงสัยสิ่งใดขึ้นมาว่าทำไมไม่ทำอะไรเลยๆ...ให้ถามหัวหน้านี่ หัวหน้าจะอธิบายเอง มันไม่ทำเพราะเหตุใด มันทำมาแล้วๆ ฝึกฝนมาแล้ว ถ้าทำมาแล้ว ทำมาเพื่ออะไร ทำมาให้เข้าใจในเรื่องพระพุทธศาสนา ศาสนาพิธี พิธี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เวลาพระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมขึ้นมา เวลาแสดงธรรมขึ้นมา แสดงธรรม พระอริยสงฆ์ขึ้นมา รู้ธรรมขึ้นมาในหัวใจ รู้ธรรมขึ้นมาในหัวใจนะ
สงฆ์ ผู้ที่ฆราวาสกำลังจะบวชเป็นพระ เวลาบวชพระขึ้นมา พระจะดำรงชีพแบบฆราวาสไม่ได้ ฆราวาสเขากระทำตนสิ่งใด พระทำอย่างนั้นไม่ได้ ถ้าพระทำอย่างนั้นไม่ได้ แล้วพระทำอย่างไร ถ้าพระทำอย่างไร พระก็บิณฑบาต นี่หน้าที่ของพระ เวลาไปวัดไปวา ให้ศีลให้พร เวลาให้ศีลให้พร ดำรงชีพให้เป็นตัวอย่าง
เวลาไปวัดไปวา ไปวัดหลวงพ่อนี่ดีน่าดูเลย กินข้าวมื้อเดียว โอ๋ย! ไม่ต้องวุ่นวายเลย ไปอยู่บ้าน ๓ มื้อนะ พอมาวัดแล้วเอาตามหลวงพ่อเลย กลับบ้านไปกินข้าววันละหนนะ มีเงินเหลือเก็บเยอะแยะเลย
เราอยู่ได้ เราอยู่ได้ แต่เราอยู่ในสังคม สังคมเป็นอย่างนั้น สังคมนะ เวลาสังคม ถ้าเราจะฟังสังคมๆ เราก็ต้องฟังองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าวางธรรมวินัย ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗
ศีล ๕ มีเงิน ๕ บาท มีทอง ๕ บาท ทอง ๕ บาทก็ราคาเท่านั้น เวลาทอง ๘ บาท เฮ้ย! ๘ บาทเยอะกว่า แล้วถ้า ๑๐ บาท เฮ้ย! ๑๐ บาทเยอะกว่า แต่เวลาถือศีลมันถือศีล ๔ สุราเอาไว้ก่อน เวลาถือศีลมันไม่เอานะ เวลาทองคำมันจะเอา ๒๐ บาท ๓๐ บาท พระมี ๒๒๗ บาท เวลาถ้าศีลมันมากขึ้น ศีลมันมากขึ้นก็นี่ไง เวลาเราถือศีล วิกาลโภชนา เราไม่กินข้าวตั้งแต่ช่วงวิกาลไป นั่นน่ะมันก็เป็นทองของเรา แต่มันไม่เอา
เวลาสังคมเขาถากเขาถาง เชื่อเขาไปหมดแหละ มีเยอะแยะไปที่จะทำคุณงามความดีไง สุดท้ายแล้วบอกว่า ไม่กินเหล้าคบไม่ได้ ไม่ใช่ลูกผู้ชาย
เราาบอกว่า อย่าไปฟังมัน เราฟังองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปากสะอาด ปากบริสุทธิ์ ไอ้สิ่งนั้นมันว่ามันเป็นการเข้าสังคมๆ
หลวงปู่ฝั้นท่านพูดประจำ ท่านไม่กินเหล้านะ หลวงปู่ฝั้นน่ะ ดูสังคมท่านสิ ศาลาท่านอัดแน่นเลย
ไอ้เราก็ว่าเข้าสังคมๆ มันจะเอาตามใจตัวมันน่ะ เข้าสังคม ถ้าไม่กินเหล้า เข้าสังคมเขาไม่ได้ หลวงปู่ฝั้นท่านบอกว่าท่านไม่เคยยุ่งเรื่องนี้เลย เพราะท่านบวชมาตั้งแต่เณร ท่านไม่เห็นแตะสุราเมรัยเลย ทำไมคนไปหาท่านเยอะแยะ
เข้าสังคมๆ มันก็เรื่องสังคมนั่นแหละ เรามันอ่อนแอ นี่พูดถึงเรื่องโลกนะ
ถ้าว่าบุญมันเป็นอย่างไร ถ้าบุญมันเป็นอย่างไร ถ้าบุญมันเป็นอย่างนั้นปั๊บ หนึ่ง เราประหยัดมัธยัสถ์นะ เงินทองเราเหลือเฟือ พอเงินทองเราเหลือเฟือแล้ว สุขภาพเราก็ดีขึ้นมา แล้วเวลาคนเมา เวลาคนเมามันเกิดความประมาทเลินเล่อ มันทำไปแล้วมันจะเกิดอุบัติเหตุของมัน ถ้าสุขภาพของเราดีขึ้นมามันดีไปหมดเลย พอดีไปหมด คนมันมีสติปัญญาขึ้นมาทำสิ่งใดมันก็สะดวกสบายใช่ไหม ถ้าคนขาดสติขึ้นมาทำอะไรก็ผิดพลาดไปใช่ไหม
นี่พูดถึงบุญกุศลนะ ถ้าบุญกุศลมันขึ้นมา เราฝึกหัดขึ้นมา ฝึกหัดจากศาสนพิธี ฝึกหัดมาจากการกระทำนั้น แต่เวลาฝึกหัดไปแล้วมันต้องพัฒนาขึ้น มันต้องดีขึ้นสิ เวลาดีขึ้น กระบี่อยู่ที่ใจ ธรรมะมันก็อยู่ที่ใจ มาวัดมาวาขึ้นมา มาวัดมาวาเพื่อประพฤติปฏิบัติไง เวลาประพฤติปฏิบัติมา บุญกุศลที่ทำแล้วเป็นอามิส เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเทศนาว่าการกับพระอานนท์ไง “อานนท์ เธอบอกเขานะ ให้ปฏิบัติบูชาเราเถิด อย่าบูชาเราด้วยอามิสเลย”
มันเป็นอามิส อามิสคือแสวงหา แค่อามิส เราก็เกือบตายนะ ปัจจัย ๔ หากันเกือบเป็นเกือบตาย แต่มันเป็นอามิส อามิสมันเป็นวัตถุ แต่เธอจงปฏิบัติบูชาเราเถิดๆ เวลาปฏิบัติบูชา เราปฏิบัติ เอาอะไรปฏิบัติ ถ้าไม่มีเจตนา ไม่มีความตั้งใจ เอาอะไรปฏิบัติ นั่งสมาธิสิ นั่งไป ๕ นาทีมันจะตายแล้ว เดินจงกรม เข้าไปในทางจงกรม มันจะฟุ้งซ่านตายคาทางจงกรมนั่นน่ะ เพราะอะไร เพราะนั่นแหละจะไปหาใจ ธรรมะอยู่ที่ใจๆ
ชาวไร่ชาวสวนเขาทำไร่ทำสวนของเขา เขาทำไร่ที่นาของเขา ธรรมะของเราจะเกิดขึ้นมาต้องเกิดขึ้นมาจากใจของเรา เราศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามามากน้อยแค่ไหน ธรรมะเป็นธรรมชาติ
ธรรมะเป็นธรรมชาติ แต่ด้วยอำนาจวาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปขุดค้นขึ้นมา นี่เข้ามาในหัวใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ชำระกิเลสตัณหาความทะยานอยาก พญามาร
พญามาร ดูสิ พญามาร เวลาไปวัดไปวา เขาเขียนไว้ตามโบสถ์ตามฝาผนัง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้แม่พระธรณีเป็นพยาน เวลาบีบมวยผมมานี่มารตายหมดเลย นี่พญามาร กองทัพมาร เสนามาร โอ๋ย! มันยกมาทำลาย ทำลายบัลลังก์การภาวนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไง
แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านชนะมารมาแล้ว ชนะมารขึ้นมาแล้ว เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนพวกเราไง เพราะอะไร เพราะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ใช่เอาธรรมะไว้ในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์เดียว องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเทศนาว่าการได้พระอัญญาโกณฑัญญะ ได้ปัญจวัคคีย์ ทีนี้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ต้องการให้พวกเรามีคุณธรรมในหัวใจ ต้องการให้พวกเราได้สัมผัสธรรมใช่ไหม ท่านถึงใช้อุบายบอกว่าให้ปฏิบัติบูชาเราเถิดๆ
แต่เวลาปฏิบัติบูชา เราปฏิบัติไปแล้วมันก็เป็นศีล เป็นสมาธิในใจของผู้ที่ปฏิบัตินั้น ถ้าผู้ที่ปฏิบัตินั้น นี่ไง ปฏิบัติบูชาเราเถิด เราจะได้สัมผัสอันนั้น เราจะได้รู้เท่าทันอันนั้น
นี่มาทำบุญๆ ขึ้นมามันก็เป็นเรื่องอามิส เป็นเรื่องของสังคมวัฒนธรรมประเพณีใช่ไหม เวลาเราประพฤติปฏิบัติเป็นปัจจัตตัง สันทิฏฐิโก ไม่ต้องมาบอกนะว่าศาสนาจะดีหรือไม่ดี ถ้ามันเข้าถึงใจไปแล้วนะ ไม่ต้องมาบอก ไม่ต้องมาบอก มันคัดค้านหมดล่ะ เสียเวลา ไม่ต้องให้มายุ่ง ทางจงกรม จะอยู่ในทางจงกรม จะนั่งสมาธิ ไม่ต้องมาบอก ไม่ต้องมาบอก นี่ไง เวลาปฏิบัติบูชา นั่นน่ะปัจจัตตัง สันทิฏฐิโก ถ้ามันรู้เองเห็นเอง ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคตนะ มันได้สัมผัสไง
เราพูดประจำ เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านพูดเอง ถ้าจะระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ไปสังเวชนียสถานทั้ง ๔ เถิด แต่เวลาของเรานะ หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นท่านพูดไงว่า ถ้าจะบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะกราบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำความสงบของใจเข้ามา พุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
พุทธะ ไปกราบพระพุทธรูปๆ นะ หัวใจที่เป็นพุทธะ หัวใจเราเป็นพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าอยู่กลางหัวใจเราเลย ถ้าเราได้ไปเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากลางหัวใจ ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต ผู้ใดมีสติธรรม มีสมาธิธรรม ได้เข้าใกล้ชิดตถาคต
เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านสอนพระนะ ภิกษุ ถ้าอยู่ถึงภาคตะวันตก อยู่ไกลเราเป็นพันๆ ไมล์เลยนะ อยู่ที่ไหน อยู่ชนบทประเทศ ปฏิบัติเหมือนเรา ปฏิบัติตามเรา เหมือนอยู่ใกล้ชิดเรา ผู้ใดจับชายจีวรเราไว้ อุปัฏฐากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ด้วยกัน ไม่ประพฤติปฏิบัติตาม ไม่ทำตาม เหมือนอยู่ห่างไกล เหมือนอยู่คนละโลก เหมือนอยู่กันคนละมิติ นี่เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเผดียงพระๆ ไง
แล้วนี่ก็เหมือนกัน ถ้าเราประพฤติปฏิบัติขึ้นมา นี่ไง กระบี่อยู่ที่ใจ นี่ก็เหมือนกัน ถ้าธรรมะอยู่ที่ใจ แต่เกือบเป็นเกือบตาย เวลาทำขึ้นมา ถ้ามันทำได้ง่ายๆ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องทำได้ขนาดนั้นเชียวหรือ
เวลาเขาว่ากัน ทำไมองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องมุมานะขนาดนั้น ทำไมองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอดอาหารสลบถึง ๓ หน
คนเราชนะตนเองนะ ธรรมะอยู่ฟากตาย ฟากตายเพราะอะไร เพราะคนเราเวลามันขี้เกียจขึ้นมา มันอ้างร้อยแปดเลย ไปปฏิบัติสิ พรุ่งนี้จะไปทำงาน นั่งสมาธิไปแล้วเดี๋ยวร่างกายมันจะพิการ โอ๋ย! เราเป็นโรคภัยไข้เจ็บ มันมีโรคอยู่เยอะแยะเลย โอ้โฮ! ไม่ต้องทำอะไรเลย มันอ้างพร้อมเลย
แต่ถ้าบอกว่าเอ็งก็ต้องตายนะ เวลาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนไว้ อริยทรัพย์ อริยทรัพย์คือชีวิตเรานี่แหละ เพราะการเกิดเป็นมนุษย์นี้เป็นอริยทรัพย์ เพราะมนุษย์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประพฤติปฏิบัติจนถึงเป็นศาสดา พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะเกิดมาเป็นมนุษย์ ประพฤติปฏิบัติไปจนเป็นพระอัครสาวกเบื้องซ้ายและเบื้องขวา ดูพระโมคคัลลานะไปเที่ยวนรก ไปเที่ยวสวรรค์ ไปเที่ยวหมดเลย ไปเห็นหมดเลย แล้วมารายงายพระพุทธเจ้าว่า คนคนนั้นตายแล้วไปเกิดที่นั่น คนคนนั้นตายแล้วไปลงที่นั่น พระพุทธเจ้าบอก ใช่ๆๆ หมดเลย มนุษย์ทั้งนั้นนะเนี่ย นี่การเกิดเป็นมนุษย์มันมีโอกาสอย่างนี้ไง
แต่เวลาโอกาสของเรา เราจะเกิดเป็นมนุษย์ เราจะประสบความสำเร็จทางโลก เราจะมีชื่อเสียงเกียรติศัพท์เกียรติคุณ นั้นน่ะเวลาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านะ โมฆบุรุษตายเพราะลาภ โมฆบุรุษคือบุรุษที่ว่างเปล่า ว่างเปล่า ไม่มีหลักเกณฑ์ในหัวใจ แล้วพอว่างเปล่าแล้วต้องการให้คนอื่นสรรเสริญเยินยอ
แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปลงอายุสังขาร พระอานนท์เข้าไปรายงานองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำไมเป็นอย่างนั้นๆ
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า “มันเป็นเช่นนั้นเอง อานนท์”
ไม่เคยตื่นเลย เขาทั้งยกย่อง เขาทั้งสรรเสริญ เขายิ่งค้ำชู องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกมันเป็นเช่นนั้นเอง มันเป็นอย่างนั้นแหละ มันไม่มีอะไรแปลกประหลาดมหัศจรรย์หรอก คนถ้าศรัทธาก็เป็นแบบนั้น
เวลาพวกเดียรถีย์นิครนถ์มันพยายามทำลายศาสนา มันทั้งกลั่นทั้งแกล้ง ทั้งวางแผน ทั้งทำลาย มันก็เป็นเช่นนั้นเองเพราะคนมันอิจฉาตาร้อน เพราะคนมันต้องการทำลาย จ้องจะทำลาย มันก็จะทำลายตามความคิดของมัน คนที่มีศรัทธาความเชื่อที่ความเคารพบูชา เขาก็เคารพบูชาโดยหัวใจของเขา ธรรมะอยู่ที่ใจ นี่ไง แต่ของเรา เราไม่ต้องการธรรมะแบบนี้ เราต้องการสัจจะ ต้องการความจริง ธรรมแบบนี้เขาเรียกว่าเจตนา
เจตนาบุญกุศลนะ เจตนาที่เป็นบุญ เจตนาที่เป็นบาป เจตนาต่างๆ เพราะความหลงผิด เพราะอวิชชามันปิดบังหัวใจ มันถึงได้บังคับหัวใจให้คิดให้ทำแบบนั้น ที่เรามาวัดมาวากันอยู่นี่ เราฟังธรรมกันอยู่นี่ เรามาสร้างกุศลกันอยู่นี่ เราก็เข้ามาที่ใจของเรานี่ ทำบุญทำไม มาตั้งไกล มาทำไม มาเพื่อสร้างสุขภาพจิตให้เข้มแข็ง
สุขภาพของเรา เห็นไหม ในพระพุทธศาสนามีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งปัญญา ยอดเยี่ยมกระเทียมดอง สุดยอด แล้วเราล่ะ ที่เรามา เราก็มาศึกษาอย่างนี้ไง เราเกิดเป็นมนุษย์มันเป็นอริยทรัพย์ใช่ไหม เราก็อยากได้ของเรา อยากเป็นของเรา ธรรมะอยู่ที่ใจ ถ้าธรรมะอยู่ที่ใจ เราฝึกฝนค้นคว้าหาใจของเรา แล้วเราพยายามจะประพฤติปฏิบัติไง
แต่เราเกิดเป็นมนุษย์นะ มนุษย์เกิดมาแบบโลกสมมุติไง โลกสมมุติเขาก็ต้องแสวงหา เราก็แสวงหาเลี้ยงชีวิตนี้ไว้ เลี้ยงชีวิตนี้ให้มันมีสติมีปัญญาคัดเลือกแยกแยะอะไรเป็นความจริง อะไรเป็นของชั่วคราว
การเกิดเป็นมนุษย์มันเป็นของชั่วคราวแค่ ๑๐๐ ปี ถึงว่ามันเป็นสมมุติไง แต่เวลาประพฤติปฏิบัติตามความเป็นจริงแล้วนะ ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย จากเกิด แก่ เจ็บ ตาย แล้วถ้าปฏิบัติได้จริง ได้คุณธรรมจริง ได้สัจจะจริง มันจะเป็นไปสำรอกคายอวิชชา คือความไม่รู้ที่ทำให้จิตนี้เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะให้มันไปรู้แจ้งเห็นจริงตามความเป็นจริงนะ แล้วมันจะไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย
จากเกิด แก่ เจ็บ ตาย มาประพฤติปฏิบัติค้นคว้าให้มันจนเป็นไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตายกลางหัวใจดวงนี้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะโกหกพวกเราหรือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าวางธรรมวินัยนี้ไว้เพื่อสิ่งใด เราเกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา มันสำคัญยอดเยี่ยมอย่างนี้
คนที่มีบุญกุศล สร้างบุญกุศลของตน มันก็ประสบความสำเร็จทางโลก แต่คนถ้ามีสติมีปัญญา ถ้าประสบความสำเร็จทางโลกก็ความเกิดเป็นมนุษย์ที่เป็นอริยทรัพย์นี่แหละ แต่ถ้าเรามีสติมีมีปัญญามากกว่านั้น เราจะทำความจริงขึ้นมาในหัวใจของเรา เราจะเป็นอริยบุคคล เป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งใหญ่ เห็นไหม เวลาหลวงตาท่านพูดไง สิ้นกิเลสไปแล้วนะ จิตใจครอบ ๓ โลกธาตุ กามภพ รูปภพ อรูปภพ
กามภพตั้งแต่เทวดาลงมา รูปภพตั้งแต่พรหม อรูปภพ พรหมไม่มีรูป นี่มันยิ่งใหญ่ขนาดไหน แล้วหัวใจนี้ครอบคลุมได้หมด หัวใจนี้ เพราะจิตนี้เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ วิวัฏฏะ จิตนี้มันหักจากวัฏฏะเป็นวิวัฏฏะ
พอวิวัฏฏะ เทวดา อินทร์ พรหมเขาก็อยากจะเป็นแบบเรา เทวดา อินทร์ พรหม คนที่เป็นสัมมาทิฏฐินะ ถ้าเป็นมิจฉาทิฏฐิ เทวดา อินทร์ พรหมเป็นมิจฉาทิฏฐิ เขาก็ว่าเขายิ่งใหญ่ แต่ถ้าเป็นสัมมาทิฏฐิ เขาต้องตาย เขาต้องอุบัติ เขาต้องเกิดใหม่ เขาก็อยากจะเป็นแบบพ้นจากทุกข์ เขาก็มาฟังเทศน์ฟังธรรมครูบาอาจารย์เรา
เราฝึกฝนอย่างนี้ เราทำอย่างนี้ นี่ไง พูดถึงว่าธรรมะอยู่ที่ใจๆ ฝึกใจเรานะ แล้วถ้ามีสิ่งใดกระทบกระทั่งกันบ้าง เราให้อภัยต่อกัน การให้อภัยต่อกันนั้นก็เป็นบุญ ไม่ใช่ว่ามาวัดมาวา ทำบุญกุศลๆ นั่นเป็นบุญกุศล การหลีกทาง การให้ เราหลีกให้เขา เรายิ่งใหญ่ ไอ้คนที่มันชนเรานั่นน่ะ ไอ้นั่นน่ะจิตใจมันต่ำต้อย ไม่ใช่ว่าเขามาก็ชนเลย เออ! ไม่ยอมใคร นี่ธรรมะไม่ได้อยู่ที่ใจ
ธรรมะอยู่ที่ใจ เราเห็นเลยล่ะ เห็นเสือเห็นสาง เรายังหลบหลีกให้มัน สัตว์มันล่ามนุษย์ นี่ก็เหมือนกัน เห็นคนที่จิตใจมันมีปัญหา เราหลบหลีกให้ซะ อันนั้นจะเป็นบุญทั้งนั้นน่ะ เราหลบเราหลีก เราหาโอกาสที่เราทำคุณงามความดีของเรา ดูแลหัวใจ ส่งเสริมหัวใจ อย่าให้หงุดหงิด มีอะไรแล้วหงุดหงิด พอหงุดหงิด มันกดให้ต่ำต้อย แต่ถ้าเรามีสติปัญญาดูแลนะ เพิ่มพัฒนาขึ้นมาให้หัวใจเรายิ่งใหญ่ ถ้าหัวใจยิ่งใหญ่ เห็นไหม ธรรมอยู่ที่ใจ เอวัง