เทศน์เช้า วันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๑
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต
ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
ตั้งใจฟังธรรมะ ตั้งใจฟังธรรม ฟังธรรมนะ เวลาหลวงปู่เจี๊ยะ หลวงตา ท่านอยู่กับหลวงปู่มั่น ท่านบอกเวลาหลวงปู่มั่นท่านจะแสดงธรรม มันเหมือนความแห้งแล้ง พอความแห้งแล้งที่ไหน เวลาฝนมันจะตกมันจะชุ่มชื่น มันจะได้ฝนยังชีพ มันมีความดีอกดีใจมาก
การได้ฟังธรรมๆ นะ เวลาหลวงตาท่านพูดถึงเวลาอยู่กับหลวงปู่มั่น มันเหมือนเด็กน้อยได้เข้าอ้อมอกของแม่ ได้ดื่มน้ำนมของแม่ มันมีความสุขนะ
แต่เด็กน้อยมันดิ้นรนของมันนะ เวลาคนในเมืองจีนสมัยโบราณเขามีลูกมีเต้าเขาเลี้ยงไม่ได้ เขาเอาเด็กไปทิ้งตามข้างถนนน่ะ เด็กมันดูดนิ้วของมันน่ะ มันดูดนิ้วของมันด้วยความหิวโหยไง แต่มันไม่สามารถจะช่วยตัวของมันเองได้ไง เด็กน้อยช่วยตัวเองไม่ได้ อาศัยพ่ออาศัยแม่บำรุงรักษา เห็นไหม
เวลาครูบาอาจารย์ท่านแสดงธรรมๆ หัวใจของคน หัวใจของคนที่มันว้าเหว่ หัวใจของคน หัวใจของคนที่พยายามจะแสวงหาทางออก หัวใจของคนที่เห็นทุกข์แล้วพยายามจะออกจากทุกข์ แต่ไม่มีทางเดินที่จะพ้นจากทุกข์ไปได้ มืดแปดด้าน
เวลามืดแปดด้าน หลวงปู่อ่อนท่านบอกเลย มรรค ๘ ก็มืดแปดด้านๆ มันมืดไปทั้งหมดน่ะ เวลาศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เห็นชอบ งานชอบ เพียรชอบ ดำริชอบ งานชอบ ความชอบธรรมๆ แล้วก็เอามาจำภาษา แล้วก็เอามาโต้แย้งกัน จำภาษาแล้วก็เอามาบิดเบือนเอาตามความพอใจของตน ถ้าสิ่งใดพอใจของตนว่าสิ่งนั้นถูกต้องชอบธรรม ถ้าอันไหนไม่พอใจของตนนะ อันนั้นเป็นอรชุนมันแต่งเข้ามาในพระไตรปิฎก มันไปบิดไปเบือนไปหมดน่ะ ทั้งๆ ที่มันไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย
ศึกษาไปเถอะ นกแก้วนกขุนทอง ศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ต้องมีการศึกษาๆ ชาติจะเจริญได้เพราะการศึกษา โลกจะเจริญได้เพราะการศึกษา การศึกษานั้นศึกษามาเพื่อเป็นวิชาชีพ ศึกษามาเพื่อเป็นหน้าที่การงาน แต่ศึกษามาแล้วคนประสบความสำเร็จก็มี คนศึกษามาแล้ว ศึกษามาจนมีการศึกษาแต่ทำหน้าที่การงานไม่ประสบความสำเร็จก็มี การศึกษามาๆ ศึกษามาแล้วมีแต่ความทุกข์ความยากในหัวใจ ความทุกข์ความยากในหัวใจคือกิเลสตัณหาความทะยานอยากมันบีบบี้สีไฟไง
เวลาศึกษามาแล้ว ศึกษา เวลาจบสิ้นของประเทศไทย ที่หนึ่งของประเทศไทยๆ เศรษฐีโลก เศรษฐีประเทศไทย ไม่เคยจบสิ้นในประเทศไทยเลย เศรษฐีประเทศไทยเขาทำความประสบความสำเร็จของเขา นี่ไง นี่การศึกษามา ศึกษามาเป็นภาคปริยัติ ศึกษามาเพื่อความรู้ ความรู้ศึกษามาแล้วเขาต้องมาฝึกหัดประพฤติปฏิบัติ เขาศึกษามาเพื่อประพฤติปฏิบัติ เขาไม่ได้ศึกษามาโกง โกงว่าเป็นความรู้ของเราๆ ความรู้ของเราแก้ไขกิเลสของเราไม่ได้ ความรู้ของเราให้กิเลสเอาไปใช้ไปสอยว่าฉันมีความรู้ เอาความรู้ไปฟาดฟันคนอื่นไง แต่ไม่เคยฟาดฟันกิเลสของตนเลย
กิเลสอาศัยธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปเหยียบย่ำทำลายเขาทั้งสิ้น แต่ไม่เคยเหยียบย่ำทำลายกิเลสในใจของตน เพราะกิเลสมันไม่ยอมให้เห็นตัวของมันไง
เวลาไปอยู่กับหลวงปู่มั่นๆ เวลาหลวงปู่มั่นจะเทศนาว่าการ เพราะสมัยโบราณ สมัยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การฟังธรรมนี้แสนยาก การฟังธรรมนี้แสนยากเพราะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมเป็นศาสดาเป็นพระอรหันต์ ต้องออกมาจากมุขปาฐะ ออกมาจากปากขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งนั้น มันไม่มีสื่อสารนะ
เวลาพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตรฟังเทศน์ของพระอัสสชิมาได้เป็นพระโสดาบัน เวลามาบวชกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว เวลาพระโมคคัลลานะเป็นพระโสดาบัน นั่งสัปหงกโงกง่วง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปด้วยฤทธิ์ ไปด้วยฤทธิ์เลย ให้เอาน้ำลูบหน้า ให้ตรึกในธรรมๆ เวลาคนง่วงเหงาหาวนอนให้ตรึกในธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จำได้แค่ไหนก็มาวิเคราะห์วิจัยเพื่อไม่ให้มันง่วงเหงาหาวนอน ถ้าไม่ไหวก็แหงนหน้าดูดาว สุดท้ายแล้วนะ ถ้าไม่ได้ให้นอนซะ ตื่นขึ้นมาแล้วค่อยมาภาวนาต่อ เห็นไหม
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปด้วยฤทธิ์ดั่งเหยียดแขนและคู้แขน ไม่มีระยะทาง นี่ความมหัศจรรย์ของใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสุดยอด แล้วเวลาไปเทศนาว่าการพระโมคคัลลานะเพราะเหตุใด ไปเทศนาพระโมคคัลลานะเพราะพระโมคคัลลานะจะมาเป็นขุนพลที่จะเผยแผ่ธรรมที่จะหยั่งรากศาสนาให้ลึกซึ้ง นี่ไง อัครสาวกเบื้องซ้ายและเบื้องขวา การเผยแผ่ธรรม เผยแผ่ธรรมมา
ไอ้ขี้ครอก องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ไปสอนหรอก มันไม่ฟัง มันไม่ฟัง ไม่สนใจหรอก นี่เหมือนกัน เวลาศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามานี่ธรรมวินัยเป็นศาสดาของเรา ศึกษามา ศึกษามาแล้วมันฟังไหม ถ้ามันฟังมันก็ต้องประพฤติปฏิบัติให้มันเป็นอย่างนั้น ถ้ามันฟังแล้วมันต้องปฏิบัติตนให้เป็นอย่างที่ได้ศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามา ถ้าศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ศีล สมาธิ ปัญญา
ศีล สมาธิ ปัญญา ศีลมึงอยู่ไหน ศีลเอาไว้ในสมุด เอาไว้ในหนังสือ แต่ฉันจะทำตามใจของฉัน
ศีล สมาธิ ปัญญา ศีล สมาธิ ปัญญา ถ้ามันมีศีล คนเรามีศีล พระประพฤติปฏิบัติขึ้นมา เรื่องศีลสำคัญมาก เขาระมัดระวังรักษา เวลาอาบัติหนักเขาต้องรีบไปอยู่กรรม รีบไปเพราะอะไร เพราะมันปิดกั้นมรรคผลๆ คำว่า “ปิดกั้นมรรคผล” มันภาวนาไปได้แสนยาก
การภาวนาๆ เรา ดูสิ เวลาคนอยากจะหาทางออกจากกิเลสตัณหาความทะยานอยาก ไปอยู่กับหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น พยายามจะประพฤติปฏิบัติขึ้นมา เวลาท่านจะเทศนาว่าการ เทศนาว่าการก็เปิดไฟไง
เวลาหลวงตาท่านพูดว่าหลวงปู่มั่นเทศนาว่าการนะ นิพพานหยิบจับเอาได้เลย เพราะหลวงปู่มั่นท่านทรงธรรมทรงวินัยในใจของท่าน ท่านอธิบายสัจจะความจริงในใจของท่าน คนที่มันมีความรู้ในหัวใจมันจะอธิบายธรรมะนี้ได้ชัดเจนแจ่มแจ้ง ได้ชัดเจนแจ่มแจ้งนะ ไอ้ผู้ฟัง ผู้ฟังมันจะหยิบจะจับเอาน่ะ มันหยิบคว้าเอาได้เลย
แต่พอหลวงปู่มั่นท่านเทศน์จบ หลวงตาท่านบอกว่าฟ้าปิดมืดตึ๊ดตื๋อ จะทำสิ่งใด จะเอาสิ่งใด ศึกษามา มหา มหาไม่มีความรู้หรือ ๙ ประโยคมีความรู้ไหม มีความรู้ทั้งนั้นน่ะ ทุกข์เป็นอย่างไร
ถ้าทุกข์ มันรู้จักทุกข์ก็สลัดมันทิ้งไปสิ คนเรามันปรารถนาจะพ้นจากทุกข์ ปรารถนาจะไม่มีทุกข์ในหัวใจ มีความรู้ก็สลัดมันทิ้งไปสิ ความทุกข์ให้มันบีบคั้นในหัวใจทำไม ความทุกข์สลัดมันทิ้งไปสิ ทำไมทำไม่ได้ล่ะ...ทำไม่ได้หรอก
นี่ไง เขาศึกษามา ศึกษามาเพื่อประพฤติปฏิบัติ เวลาประพฤติปฏิบัติขึ้นมาเราต้องทำจริงทำจังของเรา เราศึกษามาแล้ว ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เวลาศึกษาไปแล้วหวาดระแวงไปหมด ระแวงนะ คนระแวงทำอะไรไม่ได้หรอก คนเรามันต้องมั่นคง มีสัจจะมีความจริงของมันขึ้นมา ถ้ามันมีแต่ความหวาดความระแวงขึ้นมา ทำอะไรเหลวไหลทั้งนั้นน่ะ เพราะมันสะดุ้งกลัวไปทุกอย่างเลย ไม่มีอะไรจริงจังทั้งสิ้น
แต่เวลาคนเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา นี่มีขันติธรรม มีความอดทน ทำสิ่งใดทำด้วยสัจจะ นี่มันทำได้ทั้งนั้นน่ะ สิ่งนี้มันมาจากไหน มันมาจากอำนาจวาสนา อำนาจวาสนาของคน เห็นไหม คนที่มั่นคงแข็งแรงขึ้นมาเพราะอะไร
นี่ไง เวลาทุกคนอยากจะมีปัญญาๆ ทุกคนอยากจะร่ำจะรวย ทุกคนอยากจะมีบารมี ทำอย่างไร อยากจะร่ำจะรวย ถ้ามีอำนาจวาสนาบารมีของเราสร้างสมขึ้นมาทำสิ่งใดก็ประสบความสำเร็จของเรา คนที่มีปัญญาๆ ก็นั่งหลับตาลง หายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธจะมีปัญญา นั่งลง หายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ
เด็กๆ เวลามาฟังเทศน์ เราจะบอกเลย หายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ แล้วจะมีการศึกษา นี่บอกว่า “อู้ฮู! จะสอบไม่ได้ ทำไม่ได้”
ทำไม่ได้ วางมันไว้ แล้วมานั่งสมาธิหายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ
“โอ้โฮ! เรียนขนาดนี้ยังไม่รู้เรื่องเลย แล้วต้องไปนั่งหายใจเข้าพุท หายออกใจโธ เมื่อไหร่มันจะรู้เรื่องล่ะ”
แล้วบางคนเชื่อ เขาวางไว้แล้วพยายามมานั่งหายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ พอจิตมันสบาย มันมีคล่องตัวแล้วไปดูหนังสือ ปั๊บๆๆ ก้าวหน้าไปกว่าเขาเยอะแยะ
นี่ไง ไอ้เรามันห่วง กลัวกูไม่รู้ อยากจะรู้ อยากจะเอาปัญญายัดเข้าไปในสมอง เอาปัญญาเยอะๆ...ไม่ได้อะไรเลย ได้แต่ขี้เลื่อย ได้แต่ขี้ แต่เวลาวางหมด หายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ พยายามทำสมาธิให้ได้ พอทำสมาธิให้ได้นะ จิตมันมีสมาธิได้ หนึ่ง มั่นใจ ไม่ระแวง ไม่กลัว ไม่หวาดหวั่น ทำสิ่งใดทำตามข้อเท็จจริง อ่านแล้วเข้าใจหมดเลย สอบได้เลย ดีมากไปเลย แต่มันไม่มีใครอธิบายให้เขาเข้าใจได้ไง “โอ้โฮ! มีปัญญามากๆ”
ปัญญามากก็คอมพิวเตอร์ไง เดี๋ยวนี้กดปุ่มอย่างเดียว บวกลบไม่เป็นแล้ว ทำอะไรก็ไม่เป็น กดปุ่มปัญญามาก คิดไม่เป็น ทำไม่เป็น อะไรไม่ได้ทั้งสิ้น แต่ถ้ามันทำได้ๆ เราฝึกหัดของเรา นี่ภาคปฏิบัติๆ
ศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สาธุ ธรรมและวินัยนะ ศาสดาของเรานะ ไม่มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่มีพระพุทธศาสนา ถ้ามีพระพุทธศาสนาเพราะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราจะไปดูถูกดูแคลนได้อย่างไร เราเคารพบูชาทั้งนั้นน่ะ แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็สอนไว้แล้ว “ให้ปฏิบัติบูชาเราเถิด ให้ปฏิบัติบูชาเราเถิด อย่าบูชาเราด้วยอามิสเลย”
สิ่งที่บูชาๆ กันนี่บูชาด้วยอามิส แต่พวกเราชาวพุทธ ชาวพุทธเราก็บูชา ทานเราเสียสละของเราขึ้นมา แต่ถ้าจะให้เป็นจริงขึ้นมา “ปฏิบัติบูชาเราเถิด” ใครปฏิบัติบูชาเราเถิด ตั้งสติขึ้นมา เราก็มั่นใจในตัวเราเองแล้ว เห็นไหม
ถ้าตั้งสติ มีสมาธินะ โอ้โฮ! อยู่ในบ้านก็ไม่ระแวงใคร พ่อแม่จะพูดอะไร คนนั้นจะพูดอะไรก็เรื่องของเขา เราสติตั้งมั่น มันเป็นความสุขนะ ถ้าหวาดระแวงไป เสียงอะไรก็ “ใครว่าเรา ใครว่าเรา ใครนินทาเรา” มันจะไปล่อเขาตลอด
แต่ถ้ามันฝึกหัดปฏิบัติบูชาเราเถิด ถ้าจิตมันตั้งมั่นขึ้นมา จิตมันมีสมาธิขึ้นมา ในครอบครัวมีความสงบสุข แล้วถ้าอยากจะฝึกหัดอยากจะประพฤติปฏิบัติขึ้นมา ถ้าจิตสงบแล้วทำให้มันตั้งมั่น พอสงบแล้วเดี๋ยวก็คลายออก
เวลาคนที่ไม่เคยทำ ทำไม่ได้เลยมันก็ทุกข์ใจของมัน เวลาคนทำได้แล้วเวลามันเสื่อมก็ทุกข์ใจของมัน เวลาเราทำทุกข์ใจๆ ทุกข์ใจทั้งนั้นน่ะ คนไม่เคยมีเงินมีทองเลยมันก็อยากมีเงินมีทอง ไอ้คนมีเงินมีทองแล้วหมดเนื้อหมดตัวไป การมีเงินมีทองขึ้นมามันก็อยากให้มีมากๆ ขึ้น แล้วไอ้การมีเงินมีทองขึ้นมาด้วยหน้าที่การงานของเรา แล้วมันต้องกลับไปทำหน้าที่การงานของเรา เราทำงานสะสมเงินทองจนจะเลี้ยงชีพได้ พอเงินนั้นหายหมดไปเลยเราก็ต้องมาเริ่มต้นใหม่ มันละล้าละลังๆ เพราะมันทุกข์มันยากไง
นี่ก็เหมือนกัน เวลาทำสมาธิได้แล้วเวลามันเสื่อมไปแล้วจะมาทำอีกมันทุกข์มันยากของมัน ไอ้คนทำสมาธิไม่ได้เลย “ทำอย่างไรๆ” มันก็ทำจนมันได้ของมันขึ้นมา นี่มันเป็นสัจจะเป็นความจริง ใจนี้มันเป็นได้หลากหลายนัก ใจ นามธรรม ความรู้สึกมันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ความรู้สึกของคนมันจะมั่นคงได้อย่างไร ถ้ามั่นคงได้หรือไม่ได้มันก็อยู่ที่จริตนัย คำว่า “จริตนิสัย”
คำว่า “จริตนิสัย” กุสลา ธมฺมา อกุสลา ธมฺมา ใครได้ทำสร้างสมบุญญาธิการมาขนาดไหนมันเป็นจริตนิสัย มันเป็นทัศนคติ นี่วิชัน เขาว่า มันเป็นของมันโดยธรรมชาติของมัน ไอ้การศึกษาๆ เรามาเพิ่ม เรามาประสบการณ์ชีวิตอีกต่างหาก ตรงนั้นมา แล้วถ้ามันตรงนั้นมาแล้วเราไม่ต้องไปทุกข์ใจเสียใจ เรามีมากมีน้อยขนาดไหน เราก็พยายามจะฝึกหัดๆ อยู่นี่ ถ้าเรามาฝึกหัดอยู่นี่ ฝึกหัดเพื่อตัวของเราเพื่อประโยชน์กับเรา นี่ฟังธรรมๆ
เวลาฟังธรรม “มันไม่เห็นเทศนาว่าการเลย เห็นแต่ด่าคน”
ไปด่าใคร ด่ากิเลสในใจของคนต่างหาก กิเลสที่มันดื้อด้าน กิเลสที่มันเห็นแก่ตัว เวลามันแสดงออกมาในใจของใครแล้วมันเผาลนหัวใจดวงนั้น แต่หัวใจดวงนั้นมืดบอดไม่เข้าใจว่านี่มันคือกิเลส แล้วพอเราเชื่อมัน เราทำตามนั้น แล้วมีครูบาอาจารย์มาเคาะ มาเคาะสนิม มาสะกิดมันน่ะ “อู๋ย! ด่าคนๆ”
ไปด่าใคร ทำไมต้องไปด่าเขา ด่าแล้วได้อะไรขึ้นมา ด่าแล้วไม่เห็นมีอะไรสิ่งใดดีขึ้นมาเลย แต่กิเลสในใจของคนมันคายขี้ความโลภ ความโกรธ ความหลง มันคายขี้ทุกข์ขี้ยากไว้กับใจของสัตว์โลก
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรารถนารื้อสัตว์ขนสัตว์ รื้อสัตว์ขนสัตว์สัตตะผู้ข้อง จิตที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะมันข้องเกี่ยวกับกิเลสตัณหาความทะยานอยาก ความรื้อสัตว์ขนสัตว์คือการปลดเปลื้อง ปลดเปลื้องกิเลสในใจของมันให้มันเบาบางลง ให้มันวางให้ได้ ให้มันทิ้งไป แล้วมันจะเห็นคุณค่าของหัวใจ
พอเห็นคุณค่าของหัวใจ หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นท่านอยู่ในป่าในเขาของท่าน ท่านมีความสุขของท่าน ครูบาอาจารย์ของเราที่ท่านมีคุณธรรมในใจของท่าน ท่านไม่มาคลุกขี้หรอก ท่านไม่เข้ามาคลุกขี้ มนุษย์ขี้เหม็น เหม็นขี้ เหม็นคาว เหม็นมาก เขาไม่มาคลุกขี้หรอก เขาจะคลุกธรรม
คลุกธรรมนะ กลิ่นของศีลกลิ่นของธรรมมันหอมทวนลม เขาหอมหวนทวนลมของเขา เขาอยู่ในคุณธรรมของเขา เขามีความสุขของเขา นี่ความสุขอย่างนั้นไง สุขอื่นใดเท่ากับจิตสงบไม่มี ความสงบระงับสิ่งนั้นมีความสุขมาก ไอ้เรามันขวนขวายๆ ขวนขวายมาเพื่อจะมาบำรุงบำเรอมัน แล้วบำรุงบำเรอมันแล้วมันได้อย่างนั้นจริงหรือไม่
แต่ในข้อเท็จจริง จริงตามสมมุติๆ ชีวิตนี้มันจริงตามสมมุติ ในเมื่อมีชีวิตแล้วมันต้องมีปัจจัยเครื่องอาศัย เวลาปัจจัยเครื่องอาศัยเราก็แสวงหามาเพื่อปัจจัยเครื่องอาศัย พระก็ต้องบิณฑบาต จะเลี้ยงชีพด้วยปลีแข้งขึ้นมา มีปัจจัยเครื่องอาศัยดำรงชีพขึ้นมา เราดำรงชีพของเราเพราะเราไม่เป็นทาสของใคร ไม่อยู่ใต้อาณัติของใคร ไม่ให้ใครชี้นิ้วไง เราต้องบิณฑบาตเลี้ยงชีพ
พอเลี้ยงชีพขึ้นมา ชาวพุทธของเรา เช้าขึ้นมาเขาก็อยากได้ทำบุญกุศลของเขา ข้าวปากหม้อ ข้าวปากหม้อเขาก็ตักใส่บาตรพระไปก่อน พระออกมาบิณฑบาตผู้ทรงศีลนะ ก็บิณฑบาตข้าวปากหม้อเขาไปดำรงชีพ ดำรงชีพไว้เพื่อประพฤติปฏิบัติไง ถ้าประพฤติปฏิบัติได้ตามความจริงของเขาขึ้นมา ปฏิบัติตามความเป็นจริงขึ้นมา ศาสนทายาท ธรรมทายาท ทายาทโดยธรรม เห็นไหม
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าฝากศาสนาไว้กับบริษัท ๔ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ฝากไว้กับเรา เราได้พินัยกรรม ได้สิทธิ์เท่าเทียมกัน แต่ใครจะแสวงหา ใครจะได้ทรัพย์สัจจะความจริง ได้ทรัพย์ขึ้นมาได้ตามความเป็นจริง ทรัพย์ขึ้นมา ทรัพย์ขึ้นมาก็สัจธรรมๆ
สัจธรรมที่มีคุณค่าที่เป็นนามธรรมที่อยู่ในหัวใจ ใจเท่านั้นสัมผัสได้ สมุดก็สัมผัสไม่ได้ หนังสือก็สัมผัสไม่ได้ คอมพิวเตอร์ก็สัมผัสไม่ได้ ไม่มีใครสัมผัสธรรมได้เลย สัมผัสไม่ได้เลย เว้นไว้แต่ใจของคน เพราะใจมันทุกข์มันยาก เพราะใจมันทิ้งทุกข์ทิ้งยากแล้วมันสุข พอใจมันสุข มันทิ้งทุกข์และสุข มันเป็นวิมุตติสุข พ้นไปจากสุขทั้งสมมุติทางโลก พ้นไปหมดเลย ใจดวงนี้สำคัญขนาดนี้
แต่ใจมันก็เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ แล้วเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะก็จากผลการกระทำของเรานี่ ทำดีทำชั่วนี่ ทำดีทำชั่วมันจะให้ผลของมัน แล้วเวลาประพฤติปฏิบัติทำดีเหนือดี
ดีคือการบังคับตน ดีคือเดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนาซ้ำแล้วซ้ำเล่า การพิจารณา การแก้ไข ความดีเหนือดี เดินไปก็เดินมาไม่เห็นทำอะไรเลย แต่ในหัวใจมันหมุนติ้วๆ เวลาคนมันเครียด มันเครียดในหัวใจของมันมาก เวลาคนมันปลอดโปร่ง มันเหมือนกับยานอวกาศ มันจะพ้นไปจากโลก แหม! สุดยอด แล้วมันอยู่ที่ไหนล่ะ ใครเห็นน่ะ
อย่าให้พระโกหกนะ อย่าให้พระมันมาปลิ้นปล้อนหลอกเรา เราประพฤติปฏิบัติของเราให้มันเป็นความจริงขึ้นมา เป็นปัจจัตตัง เป็นสันทิฏฐิโก รู้จำเพาะในหัวใจของเรา แต่รู้จริงๆ นะ อย่าอ้างว่ารู้จำเพาะแล้วสอนใครไม่ได้ รู้แล้วจะกะล่อนอย่างไรก็ได้เพราะกูรู้อยู่ของกูคนเดียว...ไม่ใช่
ธมฺมสากจฺฉา เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ การสนทนาธรรมเป็นมงคลอย่างยิ่ง การศึกษาการตรวจสอบในครอบครัวกรรมฐาน หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ท่านตรวจสอบลูกศิษย์ของท่านจนมั่นใจแล้วท่านถึงบอกว่าหลวงตาเป็นพระที่ดีทั้งภายนอกและภายใน ภายนอกคือการนำในการขับเคลื่อนในข้อวัตรปฏิบัติ ภายในคือในหัวใจของท่าน ในหัวใจของท่านมีสัจจะมีความจริง ท่านถึงสามารถชี้ทางให้พวกเราได้ เอวัง