เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๓ พ.ค. ๒๕๖๒

เทศน์เช้า วันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒

พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

 

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

ตั้งใจฟังธรรมะ ตั้งใจฟังธรรมนะ ฟังสัจธรรม ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ใดแสดงก็แล้วแต่ในสมัยกึ่งพุทธกาลนี้ ในสมัยพุทธกาลนี้เพราะมันมีตำรับตำราของธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไง

“ธรรมและวินัยจะเป็นศาสดาของเธอ ธรรมและวินัยจะเป็นศาสดาของเธอ”

เธอจะมีศาสนาเป็นที่พึ่งหรือไม่ ถ้ามีศาสนาเป็นที่พึ่ง เวลาตีความกันๆ ไง

“เธอจงมีธรรมเป็นที่พึ่งเถิด อย่ามีที่พึ่งอื่นสิ่งใดเลย เธอจงมีธรรมเป็นที่พึ่งเถิดๆ”

ทุกคนก็ปรารถนาจะมีธรรมเป็นที่พึ่งเถิด ทุกคนก็ปรารถนาจะประพฤติปฏิบัติธรรม ทุกคนก็ปรารถนาจะมีคุณธรรมในหัวใจ แต่เวลาประพฤติปฏิบัติขึ้นไป กิเลสตัณหาความทะยานอยากในหัวใจของตนไง เวลาว่านับถือพระพุทธศาสนาๆ มันก็นับถือศาสนาผี

ศาสนาผีเป็นศาสนาแรกของโลก ศาสนาแรกของโลกเพราะคนมันกลัวผี พอกลัวผีก็สถาปนาผีขึ้นมาเป็นเทพ พอสถาปนาเป็นเทพขึ้นมาก็สถาปนากิเลสมันขึ้นมาไง สถาปนาหัวใจของตนขึ้นมาไง

พอสถานปนาหัวใจขึ้นมามันเป็นผี พอมันเป็นผีๆ มันก็กลัวผีไง พอกลัวผีขึ้นมามันก็กลัว มีความกลัว มีความกลัวเป็นพื้นฐาน มีความกลัวเป็นเจ้าหัวใจ พอมีความกลัวเป็นเจ้าหัวใจ ทำสิ่งใดก็อ้อนวอนขอเขา อ้อนวอนขอเขานะ

เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมขึ้นมา บุพเพนิวาสานุสติญาณ เวลาระลึกอดีตชาติไป ตั้งแต่พระเวสสันดรไป เราเองต่างหากเป็นผู้เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ ผู้เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ ผลของเวรของกรรมขึ้นมามันทำให้เราเกิดสูงเกิดต่ำมาในวัฏฏะนั้น

ถ้าในวัฏฏะนั้น ถ้ามีสติปัญญาทำคุณงามความดีขึ้นมา เราก็ได้สิ่งที่ดีงามขึ้นมา ได้เกิดในภพชาติที่ดีงามขึ้นมา ถ้าทำความชั่ว นรกอเวจีขึ้นมา มันตกนรกอเวจีขึ้นไป เวลาบาปขึ้นมามันก็มีความชั่ว มันมีบาปกรรมเกิดมาในหัวใจของตนขึ้นมา

แต่เวลาทำดีทำชั่วขึ้นมา ทำดีทำชั่วขึ้นมาถ้าคนมีคุณธรรมขึ้นมาในหัวใจ มันรู้ผิดชอบชั่วดีพอ ถ้ารู้ผิดชอบชั่วดีขึ้นมา จะรักษาหัวใจของเราไง

พระพุทธศาสนาสอนเรื่องทาน สอนเรื่องศีล สอนเรื่องการภาวนา

ให้เสียสละทานๆ เสียสละทานคือเสียสละความโลภ ความโกรธ ความหลงในใจของตน เสียสละไอ้ที่ผูกโกรธเขา ไอ้ที่ไปเหยียบย่ำทำลายเขา ไอ้ที่วางแผนขุดหลุมพรางไว้หลอกเขา นั่นน่ะเสียสละตรงนี้

ถ้ามันเสียสละๆ ออกไป เสียสละสิ่งที่ขุดหลุมพรางไว้หลอกเขา ขุดหลุมพรางไว้ทั้งนั้นน่ะ ว่าที่นี่เป็นความดีๆ แต่ข้างหน้าหลุมพรางทั้งนั้นนะ มึงมามึงตกหลุมพรางตายหมดเลยกว่ามึงจะเข้ามาหาความดีได้ นี่ไง ให้เสียสละอย่างนี้ เวลาเสียสละ เสียสละอย่างนี้ นี่เรื่องของทาน ถ้าเสียสละทาน

ทาน ศีล ภาวนา

เวลามีศีล ศีลคือความปกติของใจ ถ้าใจมันปกติระงับขึ้นมามันจะเป็นสิ่งที่ดีงามขึ้นมา ดีงามขึ้นมาที่ไหน ที่ดีงาม เห็นไหม เวลาภัยแล้งมันมีแต่ความแห้งแล้ง มีแต่ความทุกข์ความยาก เวลาฝนน้ำหลาก น้ำหลากมันก็มีมากเกินไป ถ้าฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาลมันมีความดีงามของมันในหัวใจของมัน มันมีความดีงามในพืชพันธุ์ธัญญาหาร มันดีงามในสภาวะแวดล้อม มันดีงามในความเป็นอยู่ของสังคม มันเป็นความดีงามไปหมดน่ะ

นี่ก็เหมือนกัน ถ้าเราพยายามมีสติมีปัญญาของเรา วันนี้วันพระ พระผู้ประเสริฐ พระผู้ประเสริฐ เราไปวัดไปวาขึ้นมา เราทำบุญกุศลเพื่ออะไรล่ะ

ทำบุญกุศลเพื่อให้จิตใจเราเข้มแข็ง จิตใจเรามีสติปัญญา ให้มันเป็นเอกภาพ ไม่ให้มันโดนกิเลสชักนำมันไป ทำบุญๆ ทำบุญเรานี่ ทำบุญขึ้นมา ไปวัดไปวาขึ้นมาไปใกล้ครูบาอาจารย์ ครูบาอาจารย์ท่านแสดงธรรมๆ ให้เราใกล้ชิดกับธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ไม่ให้ไปเที่ยวสำมะเลเทเมา ไม่ให้ไปเที่ยวมหรสพสมโภช ไม่ให้ไปเที่ยวที่ต่างๆ พอไปเที่ยวแล้วมันเพลิดเพลินไปกับมัน ในเมื่อมันเป็นอบายมุขมันก็เป็นอบายภูมิ มันเป็นอบายภูมิๆ

เราไปวัดไปวา คนที่มาจากโลกมันจืดชืด มันจืดชืดเป็นพรหมจรรย์ แต่ถ้าจิตมันสงบ โอ้โฮ! มันมีความสุขของมันมาก มีความสุขของมันมาก

เรามาวัดมาวาขึ้นมา เราทำบุญกุศลของเรา ทำบุญกุศลของเราให้มันเข้มแข็งๆ ไม่ให้กิเลสตัณหาความทะยานอยากชักนำมันไป ถ้าชักนำมันไป ถ้ามันมีสติมีปัญญาของมัน มันจะเข้าทางจงกรม นั่งสมาธิภาวนา

เราอาบเหงื่อต่างน้ำทำหน้าที่การงานกันมาทั้งนั้นน่ะ เวลาทำหน้าที่การงานขึ้นมามีแต่ความเหนื่อยยากทั้งนั้นน่ะ เวลาเข้าทางจงกรม นั่งสมาธิภาวนา นี่ก็คือการทำงานของพระ การทำงานของนักบวช การทำงานของเวไนยสัตว์ที่จะพ้นจากทุกข์ๆ

มนุษย์เราจะพ้นจากทุกข์ด้วยความเพียร ความเพียร ความวิริยะ ความอุตสาหะ

ความเพียรๆ เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา เดินจงกรมขึ้นมาบังคับให้เราอยู่ในทางจงกรมนั่นน่ะ เวลาทางจงกรมขึ้นมา เวลาเราทำหน้าที่การงานอาบเหงื่อต่างน้ำมีแต่ความเครียด มีแต่ความทุกข์ความยาก เวลาเดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนาขึ้นมา ความรู้สึกนึกคิดมันก็ส่งออกไปทั้งหมดเลย มันไปห่วงไปหาไปห่วงแต่หน้าที่การงานของตนน่ะ นู่นก็ยังไม่ทำ นี่ก็ยังไม่ทำ มันส่งออกหมดล่ะ แล้ววิตกกังวลไปหมดเลย

แต่ถ้ามันวางได้ มันวางความวิตกกังวลของมันออกไป เห็นไหม นี่ไง ศาสนาพุทธ ศีล สมาธิ ปัญญา

ไม่ใช่ศาสนาผี อ้อนวอนเอาตามสามแยกตามสี่แยก ตามสัมภเวสี อ้อนวอนเอาไง นี่ศาสนาผี พระพุทธเจ้าไม่ให้ถืออย่างนั้น พระพุทธเจ้า เราทำบุญกุศลนะ มนุษย์มีศักยภาพมากกว่าผี เวลาผีมันมาขอส่วนบุญส่วนกุศลน่ะ เวลาจะออกจากบ้านไปทำบุญ ยืนอยู่ปากประตูเลย เห็นแต่ฝ่าเท้ามันห้อยลงมาเลย “ขอบ้างนะ ขอบ้างนะ”

เวลาตายไปแล้วมันหมดโอกาส เวลาคนที่หมดโอกาสๆ คนที่มีโอกาสก็คนที่มีชีวิตอยู่นี่ แล้วคนที่มีชีวิตอยู่นี่ เราเป็นผู้ที่เสียสละ เราเป็นคนทำดีทำชั่วได้ เราเป็นคนแจ้งข่าวบอกข่าวได้ เรามีศักยภาพมากกว่าผี มากกว่าเยอะมาก เพราะเรายังมีโอกาสทำคุณงามความดี

มันคนอยู่นอกคุก คนอยู่ในคุก คนที่อยู่ในคุกมันต้องพ้นจากโทษมันถึงออกจากคุกได้ นี่ก็เหมือนกัน อยู่ในเวรในกรรม เกิดในนรกอเวจี เกิดในบาปในกรรม มันอยู่ในกรรมของมันจนกว่ามันจะหมดเวรหมดกรรมของมันขึ้นมา มันก็หมดเวรหมดกรรมอันนั้นไป

แล้วเวลาอยู่ในคุกอยู่ในสถานะของตน ถ้ามันทุกข์มันยากขึ้นมาก็อยากให้คนช่วยเหลือเจือจาน เวลานักโทษในคุกมันต้องการให้ญาติไปเยี่ยมไง เพื่อไปผ่อนคลาย เพื่อจะมีสิ่งใดไปฝากฝังเขาไง นี่ก็เหมือนกัน เวลาถ้ามันเป็นผีไง แล้วเราก็ตื่นเต้นกันอย่างนั้นไง ตื่นเต้นกับเรื่องภูตผีปีศาจ ตื่นเต้นกับวัฏฏะ ไม่ตื่นเต้นกับสัจธรรมเลย

ถ้าธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ทุกข์ดับ วิธีการดับทุกข์ ถ้ามันดับทุกข์ได้ จิตใจแค่ทำความสงบของใจเข้ามามันยังมหัศจรรย์ขนาดนั้น ถ้ามันพ้นจากทุกข์ๆ ไปน่ะ พอพ้นจากทุกข์ไป พ้นจากวัฏฏะๆ

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรม สอนสามโลกธาตุตั้งแต่พรหมลงมาเลย ตั้งแต่พรหมนั่นแหละลงมาเลย เวลาพรหมลงมาต้องการอริยสัจ

เวลามาหาหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นฟังเทศน์ๆ ฟังเทศน์เรื่องอะไร เทวดา อินทร์ พรหม ทิพย์สมบัติๆ สิ่งที่เป็นทิพย์ทั้งหมดๆ ทิพย์ทั้งหมดมันก็มีวาระของมัน มันต้องพลัดพรากสิ่งนั้นไป

สรรพสิ่งในโลกนี้เป็นอนิจจัง สิ่งใดเป็นอนิจจังสิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์สิ่งนั้นเป็นอนัตตา

อนัตตาๆ อนัตตามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร อนัตตาเป็นความจริงได้อย่างไร

วันนี้วันพระ วันพระสอนเรื่องอนัตตา อนัตตามันก็เอาวิทยาศาสตร์มาเป็นการวิเคราะห์ วิทยาศาสตร์ทั้งนั้นน่ะ โลก ไม่มี ไม่มีหรอก มันไม่เป็นความจริง

ถ้าเป็นความจริงๆ นะ นักวิทยาศาสตร์เขาจะวิเคราะห์วิจัยขนาดไหนเขาก็ต้องอยู่ในห้องแล็บของเขา เขาต่อยอดกันมาเป็นรุ่นๆ มา ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจบ จบตั้งแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เวลาพระอัญญาโกณฑัญญะมีดวงตาเห็นธรรม องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า “อัญญาโกณฑัญญะรู้แล้วหนอ” พยานเกิดขึ้นกับโลกแล้ว พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ พระอรหันต์ในสมัยพุทธกาลจบหมดเลย จบ จบ ไปต่อใคร เอาอะไรไปต่อ เห็นไหม

เวลาคุณงามความดี คุณงามความดีในใจอันนั้นน่ะ ถ้าคุณงามความดี วันนี้วันพระๆ วันพระในพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาสอนเรื่องอริยสัจ ทุกข์ เหตุที่เกิดทุกข์ ทุกข์ดับ วิธีการดับทุกข์ ดำริชอบ งานชอบ เพียรชอบ

ถ้าความชอบธรรมๆ ชอบธรรมที่ไหน ชอบธรรมที่มันฆ่ากิเลส

แต่ถ้ามันไปส่งเสริมกิเลส มันไปยกยอปอปั้นกิเลส มันจะไปฆ่ากิเลสที่ไหน เวลาประพฤติปฏิบัติขึ้นมาก็ แหม! จดเลยนะ ๕ ชั่วโมง ๑๐ ปี ๕ ปี มันเอาสถิติไว้ มันไม่ได้เอาธรรมะไว้ มันไม่ได้เอาความสงบระงับนั้นไว้

คนที่ทำความสงบของใจเข้ามาๆ สรรพสิ่งในโลกนี้เป็นอนิจจัง ขณะที่เรากำลังกระทำอยู่นี่ทำมาจากโลก เวลาทำความสงบของใจเข้ามา เขาบอก “มันเป็นตัวตนนะ มันเป็นสมถะนะ”

ขอให้มีเถอะ เอ็งยังไม่รู้จักความจริงเลย เวลาคนเรามีความสงสัยเราเกิดมาจากไหน ถ้าเราเกิดจากไหน เริ่มต้นในวิทยาศาสตร์มันก็เกิดจากพ่อจากแม่ทั้งนั้นน่ะ เวลาใบเกิดนั่นแหละ แล้วก็ใบมรณะบัตรนั่นน่ะ นี่เกิดและตาย แต่เวลาธรรมมันเกิดๆ ถ้ามันเป็นจริงขึ้นมาในหัวใจล่ะ มันเกิดที่ไหน เอ็งรู้ได้ไหม เอ็งไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นเลย เอ็งเกิดได้อย่างไร สมาธิเอ็งมีตรงไหน

ถ้าสมาธิเอ็งมีขึ้นมา ยกขึ้นสู่วิปัสสนา ถ้ามันเห็นสัจจะความจริง เห็นสติปัฏฐาน ๔ ตามความเป็นจริง มันจะมหัศจรรย์ของมันขนาดไหน

นี่ไง เวลาเกิดนี่ไม่รู้ ต้องให้พ่อแม่บอกว่าเกิดเมื่อไหร่

นี่ก็เหมือนกัน เวลาธรรมเกิดๆ ปัจจัตตัง สันทิฏฐิโกขึ้นมา ถ้ามันไม่เกิดขึ้นมา คุณธรรมมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ถ้าคุณธรรมมันจะเกิดขึ้นมา ทำความสงบของใจเข้ามาๆ ถ้าใจมันสงบมันจะเกิดตรงนั้นน่ะ เพราะอะไร

เพราะที่เวียนว่ายตายเกิดตรงนั่นน่ะ “ไอ้จิตดวงนี้ที่ไม่เคยตายๆ” โม้กันนัก “จิตไม่เคยตาย จิตไม่เคยแก่” โม้กันนัก แต่มันไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จัก มันถือผี ผีเพราะอะไร ผีเพราะมันมีการครอบงำของความรู้สึกของตน มันเป็นสอง

นี่ไง ผู้รู้ สิ่งที่ถูกรู้ ผู้รู้มันแสดงตัวอย่างไร ผู้รู้มันแสดงตัวมันต้องมีสิ่งที่มันถูกรู้ น้ำมันอยู่ในแก้ว มันไม่รู้ว่าน้ำมันอยู่ที่ไหนหรอก มันต้องเติมสีมันถึงว่ามีน้ำอยู่ในแก้วนั้น นี่ก็เหมือนกัน ถ้าไม่มีอารมณ์ จิตมันเกิดมาไม่ได้ เวลามีอารมณ์ว่างๆ ว่างๆ สอง ไม่มีหนึ่ง ไม่มีหนึ่ง สองทั้งนั้น ถ้ามันสองทั้งนั้นนะ

เริ่มต้นตั้งแต่บาทฐานไม่เข้าสู้สัจจะความจริงในพระพุทธศาสนา ศีล สมาธิ ศีล สมาธิ ปัญญา มรรค ๘

“สมาธิก็ไม่ต้อง อะไรก็ไม่ต้อง ปัญญาอย่างเดียว ปัญญาอย่างเดียว”

โอ้โฮ! สุดยอด ปัญญาตรรกะ แล้วมันก็จะห่างไกลพระพุทธศาสนาไปเรื่อยๆ เริ่มต้นก็นับถือผี พอนับถือผีบอกมันต่ำต้อย พอมันต่ำต้อยก็เป็นวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ก็ศึกษาทางวิชาการ ศึกษาทางวิชาการก็เอาผีนั้นไปยึดมั่นทางวิชาการ แล้วก็อ้างอิงว่าเป็นธรรมะๆ ธรรมะที่ไหน ธรรมะเพราะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมไง

พระไตรปิฎกมีไง ธรรมและวินัยมี ศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ศึกษามาเพื่อประพฤติปฏิบัติ ปริยัติมีความสำคัญไหม ถ้าเราไม่มีแนวทาง เราปฏิบัติทุกคนปฏิบัติก็กลัวการผิดพลาด ทุกคนกลัวการผิดพลาด แล้วผิดพลาดร้อยเปอร์เซ็นต์

ทุกคนกลัวการผิดพลาดแล้วต้องผิดพลาด เพราะมันมีอวิชชา เพราะในใจเรามันไม่มีความไม่รู้อยู่แล้ว แล้วพยายามจะเข้าไปทำลายความไม่รู้อันนั้น เข้าไปหาความไม่รู้อันนั้น แล้วไปถอดถอนความไม่รู้อันนั้นน่ะ แล้วความไม่รู้อันนั้นมันเป็นเจ้าเรือนน่ะ แล้วเราเข้าไปสู่เจ้าเรือน มันจะไม่ปลิ้นปล้อนหลอกหลอนเรา มันไม่พลิกแพลงหรือ แล้วจะบอกว่าทำแล้วให้มันถูกตั้งแต่ทีแรกมันเอามาจากไหน

ถ้ามันไม่เอามาจากไหนมันต้องเริ่มต้นเข้าไปเผชิญกับกิเลสตัณหาความทะยานอยากในใจของตน นี่ไง ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทวนกระแส ปัญญา ภาวนามยปัญญาที่เข้าไปต่อต้าน เข้าไปพิจารณา เข้าไปทวนกระแสกลับเข้าไปค้นคว้าในใจของตน นี่ไง มันถึง ศีล สมาธิ ปัญญา

แล้วถ้ามันเป็นศีล สมาธิ ปัญญา นี้มาจากไหน

นี้มาจากธรรมและวินัย นี้มาจากศาสดา มาจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ธรรมแล้ววางธรรมวินัยนี้ไว้ แล้วเราก็ไปศึกษาๆ นะ แล้วก็ไปตัดไปทอนกันนะ

“ศีลก็มีพร้อมอยู่แล้ว สมาธิ สมาธิมีอยู่ดั่งเดิม ปัญญา ปัญญากำลังคิดอยู่นี่ไง”

มันอยู่นั่นแหละ ตายอยู่นั่นน่ะ

เริ่มต้น เพราะมันเป็นการอ้อนวอนขอโดยความไม่รู้ตัว ให้กิเลสตัณหาความทะยานอยากขับเคลื่อนไปโดยไม่รู้ตัว เราก็เกิดมาจากความไม่รู้ เกิดมาจากอวิชชา เพราะความไม่รู้จักตัวตนของตน ตนถึงเกิด เพราะไม่มีสติปัญญาเท่าทันตัวเอง ตัวเองถึงเกิด เพราะความพลั้งเผลอเผลอไผลมันถึงเกิด

แล้วพอมาประพฤติปฏิบัติขึ้นมาน่ะ แล้วมันก็เป็นอวิชชาทั้งหมด ไม่รู้ในทฤษฎีนั้นไง ในทฤษฎีนั้นน่ะถูก แต่เราก็ไปตีความในทฤษฎีนั้น ไม่ตรงกับทฤษฎีนั้นไง ทฤษฎีนั้นเป็นความจริง แต่เราไปตีความเอาตามความพอใจของตนไง

เขาศึกษามาเพื่อให้ประพฤติปฏิบัติ ไม่ใช่ศึกษามาให้ตีความ

ถ้าตีความนะ ไอ้พวกโต้วาทีมันดีกว่าเอ็งอีก ยิ่งนักการเมืองหาเสียงด้วย ถ้านักการเมืองหาเสียง โอ้โฮ! มันโฆษณาชวนเชื่อเต็มที่เลย เดี๋ยวทำให้ๆ ทำให้ๆ แล้วมันก็ตายหมด

แต่ถ้าความจริงของเรานะ ใครมีอำนาจวาสนาขนาดไหน เราเป็นชาวพุทธนะ พุทธมามกะ เรามาวัดมาวากันเรามาทำบุญกุศลของเรา ทำบุญกุศลนะ สิ่งที่เสียสละไปนั้นเกิดจากพลังงาน เราขวนขวายทำหน้าที่การงานของเรามา เราได้ทรัพย์สมบัติของเรามา เราเอาทรัพย์สมบัตินั้นไปแลกเป็นปัจจัยในการดำรงชีพแล้วมาถวายภิกษุผู้ทรงศีลทรงธรรม ผู้ทรงศีลทรงธรรมขึ้นมา สิ่งนี้เราทำบุญกุศลของเราเป็นปฏิคาหก เราจะสร้างความเข้มแข็งในใจของเรา

ถ้าเราสร้างความเข้มแข็งในใจของเรา เราไม่ถือผี ไม่ถืออารมณ์ ไม่ถือความคิดต่างๆ เรามีสติปัญญาใคร่ครวญของเรา ถ้ามีสติปัญญาใคร่ครวญของเรา ถ้าเราชนะตนเองต่างหาก เราเอาชนะจิตใจของเรา

ศีลคือความปกติของใจ สมาธิ สมาธิคือการเราชนะความคิดในใจของตน ถ้าเราไม่ชนะความคิด ความคิดมันผุดขึ้น มันขับดันออกมา อารมณ์ความรู้สึกมันขับดันให้เราไปตามแรงปรารถนาของมัน แล้วดิบๆ นะ ผู้ที่ประพฤติปฏิบัติใหม่นี่ดิบๆ มันยิ่งยากมาก

แต่ครูบาอาจารย์ที่ท่านประพฤติปฏิบัติมาแล้ว ท่านทอนมัน ท่านทอนมันด้วยการฝึกหัด ท่านทอนมันด้วยสติ ท่านทอนมันด้วยพฤติกรรมความเป็นอยู่ มันจะต้องการอย่างใด หักแข้งหักขามันตลอด มันปรารถนาสิ่งใด ไม่ตอบสนอง ไม่ตามมันไป ขัดขืนมันตลอด การขัดขืนการต่อสู้มาขนาดนั้น อันนั้นเป็นประสบการณ์ การประสบการณ์ เราชนะความคิดไง

นี่สมาธินะ ที่ว่าตัวตนๆ นั่นแหละ

สมาธิคือการชนะความคิดของตน ชนะตัวตนของเรา ควบคุมตนของเราได้ทั้งหมด นั้นถึงเป็นสัมมาสมาธิ สัมมาสมาธิมันมีความสุขความสงบเพราะอะไร เพราะมันไม่โดนหลอกอีกแล้ว

ผู้รู้ สิ่งให้ถูกรู้ สิ่งที่เรากำลังคิดกันอยู่นี่คือสิ่งที่ถูกรู้ ผู้รู้ ธาตุรู้ ธาตุรู้พาดพิงกับอารมณ์ความรู้สึก ความพอใจและไม่พอใจ มันพาดพิงแล้วเราถึงได้รู้ แล้วเราตามมันไปๆ เราจะได้อะไร แต่ถ้าเราหยุด หยุดโดยความเป็นจริง ไม่ใช่แกล้งหยุด เฮ้ย! กูหยุดแล้ว กูหยุดแล้ว

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเวลาพูดกับพระองคุลิมาลไง “เราหยุดแล้วเธอไม่หยุด” หยุดทำความชั่ว หยุดมารยาสาไถย หยุดเล่ห์เหลี่ยมพลิกแพลงในใจ หยุดหมด นี่ไง ถ้ามันหยุด

แล้วถ้ามันหยุดได้จริงนะ นั่นน่ะแค่สัมมาสมาธิ ศีล สมาธิ ปัญญา แล้วถ้าสมาธิมันเกิดขึ้น คำว่า สมาธิมันเกิดขึ้น” ดูสิ คนมีการศึกษา เวลาจบการศึกษาแล้วเรามีใบประกาศ มีวุฒิภาวะที่เราจะแสวงหาทำหน้าที่การงานของเราได้ ถ้าเราไม่มีใบประกาศการรับรองคุณวุฒิของเรา เราจะไปทำอะไร เราไปทำที่ไหน กพ.ไม่รับรอง รับราชการไม่ได้

ไม่มีสมาธิ สมาธิที่เป็นพื้นฐานที่จะยกขึ้นสู่วิปัสสนาได้ สมาธิที่ยกขึ้นสู่วิปัสสนาคือพุทธะ พุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเวลาตรัสรู้ธรรม ตรัสรู้ธรรมในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ถ้ามีสัมมาสมาธิ สัมมาสมาธินี้ยกขึ้นสู่วิปัสสนา การยกขึ้นสู่วิปัสสนานั้น นั้นน่ะจิตของตน จิตของตนไง จิตที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะไง จิตที่มันทุกข์มันยากนี่ไง ถ้าจิตดวงนี้มันยกขึ้นสู่วิปัสสนาได้ นี่ไง ศีล สมาธิ ปัญญา

แต่ผู้ที่ปฏิบัติ “สมาธิก็ไม่ต้อง สมถะก็ไม่ต้อง อะไรก็ไม่ต้อง ปัญญาไปเลย ปัญญาไปเลย”

ปัญญาอวิชชา ปัญญาไม่รู้ ตู่พุทธพจน์ หยิบฉวยธรรมะของพระพุทธเจ้ามาอ้างอิง ปัญญาของกิเลส เอวัง