เทศน์เช้า วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๒
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต
ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
ตั้งใจฟังธรรมะนะ วันนี้วันพระ วันพระตรงกับวันสารทจีนเสียด้วย วันสารทจีน วันตรุษ วันสารท วันตรุษ วันสารท มันมีมาตั้งแต่ดึกดำบรรพพ์ ประวัติศาสตร์จีน ๔,๐๐๐ กว่าปี ๔,๐๐๐ ปี ๕,๐๐๐ ปี แล้วมันเพิ่งมาชัดเจน รวมเป็นจักรพรรดิ จิ๋นซีฮ่องเต้องค์แรก แต่ก่อนหน้านั้นน่ะมันก็เป็นประเทศเล็กประเทศน้อย เป็นแว่นแคว้นไง พอเป็นแว่นแคว้นก็เหมือนเรา
ไปดูสิ มนุษย์กินคนๆ น่ะ เขารุกรานกัน เขาฆ่ากัน เขาแย่งชิงที่ทำมาหากินกัน ในสมัยนี้ยังมีอยู่เลย แล้วสมัยโบราณทำไมเป็นแบบนั้น มนุษย์น่ะ มนุษย์แย่งชิงที่ทำมาหากินกันทั้งสิ้น แย่งชิงที่ทำมาหากินที่อุดมสมบูรณ์ ที่จะทำการเกษตร เขาแย่งเขาชิงกัน รบราฆ่าฟันกันมาตลอดน่ะ
แต่เวลาพระเจ้าอโศกมหาราช ก็แว่นแคว้นก็แย่งชิง แต่พอศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วปกครองโดยธรรม ถ้าปกครองโดยธรรมนะ ให้จักรพรรดิ ให้ราชาเป็นธรรมๆ ถ้าเป็นธรรม ประชาชนจะเป็นธรรม ไม่ขูดรีด ไม่แก่งแย่ง ไม่ทำลาย ถ้าเป็นธรรมนะ มันเห็นมนุษย์เป็นมนุษย์ เห็นคนเป็นคน จะสูงส่งจะต่ำต้อยแค่ไหน มนุษย์เหมือนกัน มนุษย์ต้องมีอาหารเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ต้องมีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ถ้าเป็นธรรมๆ ไง ถ้าเป็นธรรมๆ ถ้าใจเป็นธรรม ถ้าปกครองโดยธรรมๆ
วันนี้วันพระ ถ้าวันพระขึ้นมา วันพระคือผู้ประเสริฐ ประเสริฐที่ไหน ประเสริฐที่วัดใช่ไหม วันพระต้องไปวัดใช่ไหม ไปทำบุญกับพระใช่ไหม เวลาไปหาครูบาอาจารย์ ครูบาอาจารย์บอก ทาน ศีล ภาวนา เวลาภาวนาขึ้นมา หาพระในใจของตน
ก่อนที่จะไปวัดไปวา พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูกไง เพราะพ่อแม่ให้ชีวิตนี้มาๆ สิ่งที่มีค่า มีค่าคือให้ต้นเหตุมาเลย ให้ต้นเหตุมาเลยเพราะเรามีชีวิต เราทำมาหากินได้ เราแสวงหาทรัพย์สมบัติได้ เราหายศถาบรรดาศักดิ์ได้ เพราะเรามีชีวิต
แต่ชีวิตนี้ สัตว์โลกเป็นไปตามกรรมๆ จิตนี้เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ ถ้ามีบุญกุศลได้เกิดกับพ่อกับแม่ที่กำลังอุดมสมบูรณ์ พ่อแม่คนเดียวกันเวลาต่ำต้อยขึ้นมา ไปเกิดแล้วเราทุกข์เรายาก
เวลามหากษัตริย์ ราชา เศรษฐี อยากมีลูกๆๆ มีลูกยาก ไอ้คนจนคนทุกขช์คนเข็ญใจเป็นแม่เป็ดเลย แม่เป็ดเดิน ลูกเป็ดเดินตามเป็นแถวเลย แสดงว่าคนมันทำบุญมาน้อย คนทำบุญที่จะเกิดมั่งมีศรีสุข เกิดในครอบครัวที่อุดมสมบูรณ์มันเกิดได้น้อย แต่เวลาเกิด เกิดในที่ต่ำต้อย เวลาเกิดมาพ่อแม่ไม่พร้อม เกิดแล้วยัดใส่ถังขยะ เกิดมาแล้วรัดคอให้ตาย เกิดมาแล้วไง
นี่ไง บอกว่าการเกิดๆ เกิดเป็นมนุษย์เป็นอริยทรัพย์ เป็นอริยทรัพย์เพราะอะไร เพราะมนุษย์มีสมอง มนุษย์มีปัญญา มนุษย์สามารถสร้างสมบุญญาธิการต่างๆ ได้
ในบรรดาสัตว์สองเท้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประเสริฐที่สุด
เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประเสริฐที่สุด กว่าจะเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามา ๔ อสงไขย ๘ อสงไขย ๑๖ อสงไขย ท่านทุ่มเทเสียสละชีวิตแล้ว เสียสละชีวิตอีก เสียสละทุกๆ อย่าง จนมาเป็นอำนาจวาสนาบารมีในใจของท่าน
เวลาเป็นอำนาจวาสนาบารมีในใจของท่าน อุทกดาบส อาฬารดาบส “เก่งมาก ได้สมาบัติ ๖ สมาบัติ ๘ เหมือนเราเลย เก่งมาก เก่งมาก”
ครูบาอาจารย์ยกย่องขนาดไหน ถ้าเป็นเรานะ ลอย ลอยเลย แต่ด้วยบุญญาธิการที่สร้างสมบุญมามากมายมหาศาล ไม่เอา ไม่ใช่ ไม่ใช่เพราะอะไร เพราะในใจเรายังสงสัย ในใจเรายังอมทุกข์อยู่ ในหัวใจของเรามันยังทุกข์ มันจะเป็นใช่ไปได้อย่างไร สมาบัติ ๖ สมาบัติ ๘ มันก็แค่ฌานโลกีย์เท่านั้น มันเป็นไปไม่ได้ นี่เพราะอะไร เพราะการสร้างสมบุญญาธิการมา ถึงมีจุดยืนไง มีหลักไง
อะไรดี อะไรชั่ว ชั่วไม่เอา กะล่อนไม่เอา ตอแหลไม่เอา เอาแต่ความจริง แล้วความจริงเป็นความจริงของเราด้วย แล้วความจริง ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย เข้ากับสมาคมไหนก็ได้ เข้าสังคมไหนก็ได้
แต่ถ้าตอแหล ไม่กล้านะ กระมิดกระเมี้ยนๆ เพราะอะไร เพราะมันตอแหล เพราะมันตอแหลมันถึงไม่มีความจริงในใจของมันไง ถ้ามันมีความจริงในใจของมัน มันถึงเคารพตัวมันไง ถ้าคนมีศีลๆ มีศีลที่ไหน มีศีลมันต้องเคารพตัวเองไง
ศีลในตำราในพระไตรปิฎกเป็นขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในตำรามันก็เป็นห้างร้านที่มันพิมพ์หนังสือขาย เป็นของใคร ซื้อมาก็จ่ายตังค์เอามา ศีลมึงหรือ
ศีลมันจะเกิดขึ้น เกิดขึ้นจากการงดเว้น งดเว้น ถ้างดเว้นขึ้นมามันจะเป็นศีลขึ้นมา ศีลของคนคนนั้น ไม่ใช่ของใครด้วย ไม่ใช่พ่อแม่ถือศีล ลูกก็ไม่มี ลูกถือศีล พ่อแม่ก็ไม่ได้
ศีลเกิดจากใจดวงนั้น ใจดวงนั้นเป็นผู้กระทำ ถ้าใจดวงนั้นไม่มีศีล มันเป็นผู้ทุศีล มันทุศีล มันทำลายตัวมันเอง แต่มันรื่นเริงนะ มันว่านี่เป็นประโยชน์นะ ใครๆ ก็ไม่รู้หรอก
กรรมไม่มีที่แจ้งที่ลับหรอก ใครทำ คนคนนั้นได้ แล้วคนคนนั้นได้นะ คนคนนั้นไง มนุษย์เป็นสัตว์สังคม มันอยู่ในสังคมไง เพราะสังคมไง สังคมเวลาทำความชั่วร้าย วิ่งเต้นกัน วิ่งเต้นกันเพื่อไม่ต้องได้รับโทษ แต่กรรมมันมีอยู่ในใจของมันเพราะอะไร เพราะมันไปวิ่งเต้น มันเสียเงิน แล้วมันก็ทุกข์ร้อน เมื่อไหร่ไม่รู้เขาจะรื้อฟื้นคดีกูไง
มันทำชั่วต้องได้ชั่วแน่นอน จะวิ่งเต้นอย่างไร เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคมไง ก็อาศัยสังคมไง อาศัยสังคมไว้ เห็นไหม
แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเวลาท่านสอน ไม่มีที่ลับที่แจ้งหรอก ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว แล้วเทวดาเห็น โลกธาตุก็เห็น แล้วโลกธาตุเห็น บารมีมันเกิดตรงนี้ไง
บอกว่า ทำไมทำดีแล้วไม่ได้ดี ทำดีแล้วไม่ได้ดี ทำดีแล้วไม่ได้ดี
มึงทำดีอะไร ทำดีของกิเลสไง กิเลสมันให้มึงทำอย่างนั้นน่ะ ดีของกิเลสอย่างนั้น ชั่วร้ายอย่างนั้นดีของมึงไง
ถ้าดีของธรรม ดีของธรรมนะ ร่มโพธิ์ร่มไทร ธรรมทายาท องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้พระองค์เดียวนะ สอนสามโลกธาตุ หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นท่านพยายามสร้างธรรมทายาทเป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ถ้าที่ไหนเป็นร่มโพธิ์ร่มไทร นกกามันไปอาศัยร่มเย็น
แต่ถ้ามันเป็นทุศีล ไม่มีหมาเข้าไปหรอก มันรู้ คนเรามองตามันก็รู้ใจแล้ว พฤติกรรมมันฟ้องทั้งนั้นน่ะ พฤติกรรมการกระทำมันรับไม่ได้ ถ้าคนเขารับไม่ได้ ใครเขาจะรับได้ ตัวเองยังรับตัวเองไม่ได้เลย นี่ไง ศีล เวลามีศีลมีธรรม
วันนี้วันพระ วันนี้วันสารทจีนด้วย วันสารทนะ เราเซ่นไหว้ การเซ่นไหว้มันมาแต่ครั้งแต่โบราณกาล การเซ่นไหว้นะ ได้บุญไหม การเซ่นไหว้ เรายกมือไหว้พ่อแม่เรา เรายกมือไหว้ญาติโกโหติกา นั่นคือความกตัญญูกตเวที อันนี้มันมีมาแต่ดั้งเดิม มีมาดั้งเดิมนะ ดั้งเดิมที่ไหน
คนดี คนชั่ว คนดี คนชั่วมันมีแต่ดั้งเดิม แต่คนดี คนชั่ว มันดีหรือชั่ว ชั่วก็ยึดมั่นถือมั่นแต่ความทิฏฐิมานะของตน
เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมขึ้นมาแล้วไง เธออย่าร้องไห้ อย่าคร่ำครวญ อย่าพิรี้พิไร สิ่งนั้นมันผ่านไปแล้ว ให้ทำคุณงามความดีถึงกัน ให้เสียสละทานๆ เวลาเราทำคุณงามความดี อุทิศส่วนกุศลให้กับปู่ย่าตายายของเรา
สิ่งที่เรากระทำๆ บุญคือความรู้สึกของใจ บุญคือความรู้สึก คือบุญกุศลในหัวใจนี้ ถ้าบุญกุศลในหัวใจนี้ เราทำคุณงามความดีแล้วมันปลื้มใจ มันมีความอบอุ่นหัวใจ มันรับรู้จากพุทธะในใจของตน อุทิศส่วนกุศลอันนี้ไง ญาติโกโหติกาของเราที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ ขอให้มีความสุขอย่างนี้ ขอให้มีสติปัญญาแจ่มแจ้งอย่างนี้ สิ่งใดที่เป็นเวรเป็นกรรมอย่าไปทำ ทำแล้วมันมีเวรมีกรรมกับใจดวงนั้น มโนกรรมๆ มีแน่นอน ใครเป็นคนทำ คนนั้นเป็นคนได้
นี่ไง เศรษฐีมหาเศรษฐีเขาอยากมีลูกมีเต้าของเขา มันมีได้ยาก ไอ้คนทุกข์คนจนมีมหาศาล นี่ยังดีนะ ได้เกิดเป็นคนนะ ถ้าไปเกิดเป็นไก่ ๔๕ วันเชือด ได้เกิดเป็นไก่ ไปเกิดเป็นนกให้เขาปล่อยในวัดไง อภัยทาน ปล่อยไปแล้วนะ ไปติดกัญชาเขา วิ่งกลับมาในกรงเขาอีก ไปเกิดอย่างนั้นหรือ
นี่ได้เกิดเป็นมนุษย์นะ เป็นอริยทรัพย์นะ แต่การเกิดมาแล้วมันก็อยู่ที่วาสนาของคน อยู่ที่วาสนาของคนนะ อยู่ที่อำนาจวาสนาของคน อยู่ที่บุญกุศลของคน
ถ้าได้ทำดีๆ อย่างพระโพธิสัตว์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๔ อสงไขย ๘ อสงไขย ๑๖ อสงไขย แม้แต่ครูบาอาจารย์ของท่านนะ รับประกันค้ำจุนเลย “มีความรู้เหมือนเรา เก่งกล้าเหมือนเรา เหมือนเราเลย”
เจ้าชายสิทธัตถะไม่เอา นี่ขนาดอาจารย์ยกย่องนะ ด้วยอะไร ด้วยอำนาจวาสนาที่ทำมานี่ไง คุณงามความดีเราทำของเราเอง เวลาจะตรัสรู้ ตรัสรู้เองในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เวลาตรัสรู้ในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธศาสนาเกิดขึ้น มีพระพุทธกับพระธรรม
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมมีรัตนะ ๒ เสวยวิมุตติสุขๆ ถึงเวลาแสดงธัมมจักฯ เวลาแสดงธัมมจักฯ ไป สิ่งที่พระอัญญาโกณฑัญญะมีดวงตาเห็นธรรมเพราะว่าใช้สติปัญญาของท่านเอง ไตร่ตรองในใจของท่านทะลุปรุโปร่งไป เวลาทะลุปรุโปร่งออกไป นั่นเกิดจากสติปัญญาของพระอัญญาโกณฑัญญะ ถ้าไม่มีสติปัญญาของพระอัญญาโกณฑัญญะมันจะมีธรรมจักรตรงไหน มันจะมีมรรคตรงไหน มันจะมีความจริงมาตรงไหน
ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๔ ไม่มีสติปัญญาเท่ากับพระอัญญาโกณฑัญญะ แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็สั่งสอนๆ อบรมสั่งสอนไปจนเป็นพระโสดาบันทั้งหมด เทศนาอนัตตลักขณสูตรเป็นพระอรหันต์หมดเลย เวลาไปได้ยสะมาอีก ๕๔
“ภิกษุทั้งหลาย เธอกับเรานะ พ้นจากบ่วงที่เป็นโลก” ไอ้ชื่อเสียงกิตติศัพท์กิตติคุณ ไอ้ยกยอปอปั้น ไอ้ยศถาบรรดาศักดิ์ นี่บ่วงทางโลก
“เธอพ้นจากบ่วงทางโลกและบ่วงทางทิพย์ พ้นจากบ่วงที่เป็นโลกและเป็นทิพย์” พ้นหมดเลย พอพ้นหมดเป็นอิสระไง พออิสระขึ้นมามันมองโลกได้แจ่มแจ้งไง
“เธอจงไปอย่าซ้อนทาง โลกนี้เขาเร่าร้อน โลกนี้เขาเร่าร้อนนัก”
ชาวพุทธต้องการพระที่ทรงศีลทรงธรรม ชาวพุทธต้องการพระที่เป็นที่พึ่งอาศัยที่ไว้วางใจได้ ชาวพุทธไม่ใช่หวาดระแวง เฮ้ย! ทำบุญได้ไม่ได้วะ เฮ้ยๆๆ ยึกยักๆ เพราะอะไร เพราะมันทำตัวไม่น่าไว้วางใจไง
แต่ถ้ามันทำตัวน่าไว้วางใจ นี่ไง มนุษย์เป็นสัตว์สังคมๆ ไง ไอ้พวกขี้ฉ้อมันก็เข้าไปแอบไปอิงไง ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น องค์สุดท้ายเสียด้วย ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น คนอื่นจะมาเป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่นไม่ได้นะ นี่องค์สุดท้าย ใครๆ จะมาต่อแถวไม่ได้นะ
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว ๒,๐๐๐ กว่าปี พระที่บวชมาเป็นลูกศิษย์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือเปล่า ถ้าไม่ถึงไตรสรณคมน์ ไม่ถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บรรพชาเป็นสามเณรไม่ได้ บรรพชาเป็นสามเณรต้องถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ถ้าถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระพุทธเจ้าก็เป็นอาจารย์ของเราไง พระพุทธเจ้าเป็นอาจารย์ของเรา พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาไง แล้วพระพุทธเจ้าตายไปแล้ว ๒,๐๐๐ ปี เรายังเป็นลูกศิษย์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไง หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นท่านนิพพานไป ทำไมต้องไปเอาชื่อเสียงท่านมาหากิน ทำไมต้องแซงหน้าแซงหลัง ทำไมต้องไปอวดเขา
นี่ไง ถ้ามันเป็นความจริง มันเป็นความจริง มันเป็นความจริงก็ความจริงที่เรานี่แหละ
แบรนด์น่ะนะ เวลาเขาทำการตลาดมันก็ดังพักหนึ่ง แล้วเขาต้องหยอดเงินไปเรื่อยๆ โฆษณาเรื่อยๆ รีแบรนด์ๆๆ ต้องโฆษณาอยู่อย่างนั้นน่ะ
แต่ความจริงในหัวใจเป็นความจริงวันยังค่ำนะ จะไปอยู่บาดาลไหนมันก็มีความสุข ไปอยู่สวรรค์ชั้นใดมันก็มีความสุข อยู่มันก็มีความสุขไง
นี่ไง วันพระ วันพระๆ มันประเสริฐที่หัวใจนี้ ถ้าประเสริฐที่หัวใจนี้ เราเกิดเป็นมนุษย์นะ มนุษย์ต้องมีปัจจัยเครื่องอาศัย มีปัจจัย ๔ ทางฆราวาสเขาต้องปากกัดตีนถีบเพื่อหาอยู่เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง
พระนะ ภิกขาจารเลี้ยงชีพด้วยปลีแข้ง ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงเหงื่อไหลไคลย้อยของญาติโยมเขา ญาติโยมเขาทำหน้าที่การงานของเขา เวลาเขาทำไร่ไถนาของเขาบากบั่นมาเพื่อหาเงินหาทองมา หาเงินหาทองเป็นน้ำพักน้ำแรงเขา
นี่เป็นปฏิคาหก วัตถุไทยทานที่ได้มาด้วยความสะอาดบริสุทธิ์ของเขา เวลาเขาเสียสละทานของเขา เขาเสียสละด้วยหัวใจของเขา เขาหว่านพืชลงไปในเนื้อนาที่มีคุณค่า มันจะเกิดผลบุญผลกุศลของเขา
ไม่ใช่ไปหว่านที่ไอ้ทุจริต ไอ้ตอแหลนั่นน่ะ มันไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก พืชพันธุ์มันไม่เกิดไง มันเกิดขึ้นมาไม่ได้เพราะที่นามันเลวทรามไง ถ้าที่นามันดีงาม ปฏิคาหก ภิกษุภิกขาจารเลี้ยงชีพด้วยปลีแข้งๆ
ผู้ที่มีคุณธรรม ผู้ที่ทำคุณงามความดีมา เวลาหลวงตาท่านออกป่าออกเขา หาบ้านเล็กๆ น้อยๆ ๓ หลัง ๔ หลัง เพราะไม่ให้เขามากวนไง เวลาบิณฑบาตมาก็พอเลี้ยงชีพไง พอเลี้ยงชีพขึ้นมา ภิกษุเป็นผู้เลี้ยงง่ายไง แล้วผู้ที่ประพฤติปฏิบัติ ผู้ที่ค้นคว้าอยู่นะ มันเห็นมรรคเห็นผล เห็นการกระทำนั้นมันยิ่งใหญ่นะ ไอ้เรื่องการอยู่การกิน ข้าวเปล่าๆ พอยังชีพก็พอ อะไรก็ได้ เขาไม่มาวิตกวิจารณ์กับการอยู่การกิน ไร้สาระ ไร้สาระมาก เขาวิตกวิจารณ์ว่าเอ็งมีเวลาภาวนาหรือเปล่า ทางจงกรมมีหรือไม่
หลวงตาเวลาท่านไปเยี่ยมลูกศิษย์ลูกหาไง ท่านไปดูทางจงกรม ดูทางที่นั่งสมาธิภาวนา เวลาท่านไปวัด เห็นไหม “วัดนี้ไม่มีทางจงกรม” ทั้งๆ ที่ทางจงกรมเต็มวัดเลย ท่านบอก “วัดนี้ไม่มีทางจงกรม”
ไอ้พระไปต่อต้าน “ไม่เห็นหรือน่ะ ทางจงกรมสร้างไว้มหหาศาลเลย”
อย่ามาต่อต้าน อย่ามาแก้ไข ท่านไปดูถึงการเดินจงกรม ถ้ามันเดินจงกรม ทางจงกรมมันต้องมีร่องมีรอย คนเดินจงกรมนะ ทางจงกรมนี่เรียบเลย คนภาวนานะ เขารักษากิริยาของเขา อายตนะทั้ง ๖
ดูสิ โปฐิละๆ ไง ใบลานเปล่า ใบลานเปล่าไง ร่างกายนี้เปรียบเหมือนจอมปลวก ปิดมัน ๕ รู ตา หู จมูก ลิ้น กาย ปิดมันไว้ แล้วเปิดหัวใจไว้ จับไอ้เหี้ยตัวนั้นน่ะ ไอ้เหี้ย ไอ้เหี้ยน่ะ ไอ้เหี้ยคือไอ้พญามารนั่นน่ะ จับมันให้ได้
แต่เวลานักภาวนา “กิเลสมันเป็นนามธรรม เห็นมันได้อย่างไร”
มึงก็ไม่เห็นเหี้ยในตัวมึงไง ไม่เห็นเหี้ยที่มันทำลายมึงนั่นไง
ถ้ามันจับตัวเหี้ยนั้นได้ เหี้ยคือพญามาร แล้วจับได้แล้วนะ จับได้เดี๋ยวมันดิ้นหลุดมือไปนะ มันตีกลับเลย “เหี้ยไม่มีหรอก ที่เอ็งจับได้นั่นมันตัวปลอม ตัวจริงกูสำเร็จแล้ว” มันยังกะล่อนไปเรื่อยนะ ถ้าไม่ได้ศีล สมาธิ ปัญญา มรรค ๘ ไปใคร่ครวญแก้ไข
เวลามารมันห่มหนังเสือ เวลามารมันพลิกว่ามันเป็นธรรมๆ เวลากิเลสกับธรรมมันอยู่ใกล้เคียงกัน เวลามันพลิกมันแพลงขึ้นมามันทั้งกะล่อนมันปลิ้นปล้อน ทั้งหลอกทั้งลวงไง
แต่ถ้าเป็นธรรมๆ นะ ท่านเงียบ ภิกษุเป็นผู้เลี้ยงง่าย เงียบสงบ กลิ่นของศีลกลิ่นของธรรมมันทวนลม กลิ่นของความหอมต่างๆ ไปตามกระแสลมนะ กลิ่นของศีลกลิ่นของธรรมขจรขจายไปทั่วสามโลกธาตุ
แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เทวดา อินทร์ พรหมมาฟังธรรม หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นท่านไม่มีเวลาว่างเลย เทวดา อินทร์ พรหมมาฟังธรรมตลอด ฟังธรรมๆ เพราะอะไร เพราะเทวดามันก็ทุกข์ พรหมก็ทุกข์นะ รู้ไหมว่าพรหมก็ทุกข์ ทุกข์เพราะมันจะสิ้นอายุขัย มันจะต้องตาย มันถึงหาอยากมีบุญกุศลต่อเนื่องชีวิตเขาไปให้เขามีแต่ความสุข อย่าไปเจอแต่ความทุกข์ความยากในหัวใจของเขา นี่ผู้ที่แสวงหาสัจจะความจริง หาสัจจะความจริง เห็นไหม
เธออย่าคร่ำครวญ อย่าร้องไห้ อย่าพิรี้พิไร เอาความดีของตน ทางจงกรม ที่นั่งสมาธิภาวนาค้นคว้าหาใจของตน แล้วถ้ามันได้ใจของตนแล้วนะ ได้ใจของตนก็คือได้ธรรม
หลวงปู่มั่นบอกเอง ได้ธรรมคือได้ใจของตน ได้ใจของตนคือได้ธรรมะในสัจธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เอวัง