เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๖ เม.ย. ๒๕๕๒

 

เทศน์เช้า วันที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๒
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

เราเป็นชาวพุทธ พุทธศาสนาสอนเรื่องปัญญานะ เวลาเรากราบไหว้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เรากราบไหว้ด้วยความมุ่งหมายอย่างไร ถ้าเรากราบไหว้ ดูสิ เวลาหลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์ กองทัพธรรม กองทัพธรรมเคลื่อนมานะ ทำลายการถือผีถือสาง เรากราบไหว้กันน่ะ เรากราบไหว้อ้อนวอน กราบไหว้ด้วยความขอเอา มันเหมือนการถือผีน่ะ

เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนพระนะ เวลาพระเข้าไปอยู่ในป่าในเขาน่ะ “ถ้าเธอกลัวผี ให้นึกพุทโธๆๆๆ ให้คิดถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า” พระคิดนึกพุทโธขนาดไหน แล้วก็ยังกลัวผี กลับไปเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกให้กลับไปใหม่ แล้วไปนึก “สังโฆ” พุทโธ ธัมโม สังโฆ.. พุทโธ ธัมโม สังโฆ เป็นแก้วสารพัดนึก แก้วสารพัดนึกนะ แล้วแต่ความปรารถนา เป้าของเราว่าเราจะต้องการสิ่งใด ถ้าเราต้องการสิ่งใด เราต้องการคุณธรรม เราต้องการคุณธรรมนะ เพราะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมขึ้นมาตั้งแต่โคนต้นโพธิ์นั้น ไม่มีสิ่งใดเป็นที่ยึดหมายเลย เพราะในโลกนี้ยึดหมายสิ่งใด ไม่ใช่หมด มันเป็นเรื่องของโลกทั้งหมด มันเป็นเรื่องความเห็นของเราทั้งหมดเลย สิ่งที่เราเข้าใจศาสนา เราเข้าใจโดยความเห็นของเรา เป็นเรื่องโลกทั้งหมดเลย แต่ถ้าเราทำตัวเราให้เข้า

เวลาเราเข้าถึงธรรม ธรรมะกับใจเราเป็นอันเดียวกัน สิ่งใดก็ไม่ใช่ธรรม สิ่งใดก็ไม่ใช่ธรรม สมาธิก็ไม่ใช่ธรรม ปัญญาก็ไม่ใช่ธรรม สติก็ไม่ใช่ธรรม.. ไม่มีสิ่งใดเป็นธรรมเลย แต่ใจเข้าถึงตัวธรรมะแล้วใจนั้นเป็นธรรมะ ถ้าใจเป็นธรรมะ สิ่งที่เราแสวงหากันอยู่นี้ คือเป้าหมายเข้าสู่ธรรมะ เป้าหมายเข้าสู่ธรรมะ แล้วก็เป้าหมายเข้าสู่ตัวธรรม สัจธรรมนะ แต่ถ้าเราเข้าใจโดยประสาโลก

ดูสิ การแก้กรรม เขาว่าการแก้กรรม เรานี่ชาวพุทธกันแท้ๆ เลยนะ นี่แก้กรรม การแก้กรรมของเขา ใครคนหนึ่งทำเป็นตัวอย่างขึ้นมา ผู้ที่เห็นผลประโยชน์ขึ้นมาเขาทำตามๆ กันไป ทำตามๆ กันไปนะ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนถึงกรรม การกระทำ กิเลสวัฏฏ์ กรรมวัฏฏ์ วิปากวัฏฏ์ ต้องมีกิเลส มีตัณหาความทะยานอยากในการกระทำ ทำสิ่งใดแล้ว ผลที่เกิดขึ้นมา สิ่งการแก้กรรมๆ กัมมะพันธุ กัมมะปะฏิสะระโณ กรรมเป็นเผ่าพันธุ์ กรรมให้ผล กรรมเป็นปะฏิสะระโณ กรรมเป็นที่กำเนิด กรรมให้ผลเราทั้งนั้นเลย

สิ่งที่กรรม เวลาอจินไตยขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึงอจินไตย ๔ พุทธวิสัยเป็นเรื่องอจินไตย เรื่องกรรมเป็นเรื่องอจินไตย เรื่องโลก เรื่องการเปลี่ยนแปลงไป แล้วก็เรื่องฌาน สิ่งนี้เป็นอจินไตย อจินไตยมันมีสภาวะของมันอยู่ ดูสิ เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะปรารถนาเป็นโพธิสัตว์ ๔ อสงไขย ๘ อสงไขย ๑๖ อสงไขย มันยาวไกลขนาดไหน นี่สร้างคุณงามความดีมา กรรมดีส่งเสริมขึ้นมา

แต่ในปัจจุบันนี้ เพราะศาสนาพุทธสอนเรื่องกรรม เราก็ว่าเราเป็นชาวพุทธ พื้นฐานก็เป็นชาวพุทธกัน ก็ว่าแก้กรรมๆ มันเก่งกว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การแก้กรรมคือการทำคุณงามความดี ทำดีนี่แก้กรรมชั่ว ทำกรรมความดีความชั่ว ความผิดพลาด ความชั่วมันเกิดขึ้นมาจากอะไร เกิดขึ้นมาจากกิเลสตัณหาความทะยานอยาก เกิดขึ้นมากับการขาดสติ เกิดขึ้นมาจากเราไม่มีสติปัญญา

แต่ถ้าเราศึกษาพุทธศาสนา พุทธศาสนาสอนเราให้มีสติ สอนให้เรามีสมาธิ สติคือความระลึกรู้อยู่ สมาธิคือความตั้งมั่น ถ้าไม่มีสมาธิอยู่ คนทำไมเชื่อง่าย ทำไมคนโลเล ทำไมคนไม่มีจุดยืน เพราะขาดสมาธิ เพราะขาดปัญญา มีสติยับยั้งไว้ มีสมาธิขึ้นมา สิ่งใดที่เกิดขึ้น ใคร่ครวญก่อนแล้วค่อยทำ ใคร่ครวญก่อนว่ามันเป็นสิ่งดีหรือสิ่งไม่ดี ถ้าทำไปแล้ว สิ่งที่ทำนี่คือกรรมแล้ว กรรมคือการกระทำ แล้วเราทำ แล้วสิ่งที่ทำ ถ้าเรามีสติ เรามีสมาธิ เราทำแต่สิ่งที่ดีๆ กรรมดี ทำดีนี่แก้กรรมที่นี่ การแก้กรรมแก้อย่างนี้ แก้ด้วยคุณงามความดีของเรา การทำคุณงามความดี การสร้างคุณงามความดีนี่มันแก้กรรม แก้กรรมเพราะอะไร เพราะสิ่งที่เป็นผลดีกับเรา สิ่งที่เป็นกรรมดี มันจะให้ผลกับคุณงามความดีกับเรา มันจะทำให้ชีวิตเราไปข้างหน้า มีความร่มเย็นเป็นสุขใช่ไหม

แต่ในปัจจุบันนี้ ที่เรามาเกิดกันอยู่นี่ มันมาจากไหน ชีวิตนี้มาจากไหน ชีวิตนี้คืออะไร เราก็ชีวิตนี้เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ ชีวิตนี้เกิดจากปฏิสนธิจิตของเรา ท้องพ่อท้องแม่นี่เป็นสถานที่เกิด สถานที่เกิดนะ เกิดในประเทศอันสมควร เรามาเกิดกับพ่อแม่ที่เป็นชาวพุทธศาสนา พ่อแม่พาเราเข้าวัดเข้าวา ถ้าเราไปเกิดในลัทธิศาสนาอื่น พ่อแม่ก็พากันไปทางลัทธิอื่น แล้วเรามาอยู่ในศาสนาแล้ว เราเองเข้ามาอยู่ในศาสนาเลยนะ

ตอนนี้เราเข้าวัดเข้าวา ดูพระสงฆ์มานั่งรับบาตรอยู่นี่ นี่พระสงฆ์ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์มีอยู่พร้อมเลย แล้วเราไปถืออะไรกัน เราจะถือศาสนากันที่ไหน ถ้าเราถือศาสนา ศาสนาพุทธสอนเรื่องอะไร นี่ศีล ๕ พอถือศีล ศีล สมาธิ ปัญญา พูดเรื่องศีล ๕ ไม่ล่วงเกินกัน ไม่ทำร้ายกัน ไม่กล่าวจาบจ้วงกัน ไม่ทำอะไรสิ่งเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ปาณาติปาตา ของๆ เขา เราไม่ล่วงเกินของๆ เขา นี่เราไม่ผิดในลูกเมียของใคร แต่ในครอบครัวของเรา นี้มันเป็นเรื่องปกติ เพราะกามคุณ ๕ กามคุณ คุณของโลกเขา

นี่พรหมจรรย์นะ กามเป็นโทษ กามเป็นโทษหมด แต่เพราะอะไร เพราะเราพ้นจากกามภพ รูปภพ อรูปภพ.. กามภพ รูปภพ อรูปภพ นี่มันเป็นสถานที่ สถานที่เกิด นี่สิ่งนี้ปฏิสนธิจิตมันเกิด ศีล ๕ นี้เป็นมนุษย์สมบัติ เรามีศีล ๕ เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์ สิ่งที่เราเกิดขึ้นมานี่เกิดมาจากไหน ก็เกิดมาจากกรรมน่ะ เกิดมาจากการกระทำของเรา ถ้ากรรมดี เราทำความดี องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทำคุณงามความดีถึงที่สุดแล้ว สิ้นสุดกระบวนการของมันแล้วจะไม่เกิดอีก

นี่ปัจจุบันธรรม อยู่ในปัจจุบันนี้ ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต ไม่มีวินาทีข้างหน้า และไม่มีวินาทีที่แล้วมา วินาทีที่แล้วมา วินาทีที่ปัจจุบันนี้อยู่กับปัจจุบัน แล้ววินาทีข้างหน้าก็ไม่มี นี่จิตที่มันอยู่กับปัจจุบันตลอดเวลา มันมีความสุขขนาดไหน วิมุตติสุขมันเป็นอย่างนี้นะ วิมุตติสุขมันอยู่กับปัจจุบัน มันมีอยู่ มันรับรู้อยู่ แต่มันไม่เคลื่อนไปหน้าและหลัง ไม่เคลื่อนไปอดีต อนาคต ไม่เคลื่อนไปไหนเลย แล้วไม่เคลื่อนไปไหนเลย นี่ไง นี่ทำกรรมดี กรรมดี สิ่งคุณงามความดี แก้กรรมแก้กันอย่างนี้

ที่แก้กรรมน่ะ มันมีอาสวักขยญาณ มีปัญญาญาณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เราแก้กรรมอยู่แล้ว มีการแก้กรรม แก้กรรมด้วยการนั่งสมาธิ เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา แก้กรรมนะ ทำคุณงามความดีของเราให้จิตใจเราชำระล้างให้มีความสะอาดขึ้นมา มีคุณค่ามากนะ มีคุณค่ามาก มรรคญาณมีคุณค่ามาก อริยสัจ สัจจะความจริงอันนี้มีคุณค่ามาก เราจะไปแก้กรรมด้วยการอ้อนวอน นั่นมันผีนะ การแก้กรรมนั้นมันถือผี

ดูสิ โบราณขึ้นมา ในทางอีสาน เขาได้อาหารมาทุกอย่างเขาต้องแบ่งครึ่งหนึ่งให้ไปเซ่นผี อีกครึ่งหนึ่งเอาไว้ใช้จ่าย นี่เราทำงานกันมา เงินเดือนเราครึ่งหนึ่งเอาไปเซ่นผี อีกครึ่งหนึ่งเอามาใช้จ่าย แล้วปัจจุบันนี้เราจะไปแก้กันอย่างนั้นเหรอ จะไปแก้กรรมๆ แก้กันด้วยอ้อนวอนขอเอาอย่างนั้นเหรอ...นี่มันศาสนาผี!

ศาสนาพุทธไม่สอนอย่างนั้น! ศาสนาพุทธให้ทำทาน ให้เสียสละ การเสียสละทาน การเสียสละออกไป อุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร เพราะว่าทุกวัน เวลาคนเราเกิดมา คนเรามีความทุกข์มา เรามีความทุกข์เพราะอะไร เพราะเราวิตกกังวลใช่ไหม ปัจจัยเครื่องอาศัย เราจะไม่มีบ้านอาศัย จะไม่มีอาหารกิน จะไม่มีเครื่องรักษาโรค จะไม่มีอะไร ปัจจัย ๔ เราไปทุกข์ร้อนกับมัน มันเป็นเครื่องอาศัย นี้เราทำทาน ทำทานเราเสียสละไป เห็นไหม สัมภเวสี จิตต่างๆ ที่เขาขาดแคลนอยู่ เราอุทิศส่วนกุศลไป นี่ไง นี่แก้กรรม เราให้ความสุขให้ความรื่นเริงกับเขา ให้สิ่งที่จิตวิญญาณ สิ่งต่างๆ สิ่งที่จิตวิญญาณต่างๆ เราทำบุญด้วยกัน นี่อนุโมทนาทาน เห็นเขาทำดีก็อนุโมทนาไปกับเขา เห็นเขาทำดีก็สาธุไปกับเขา สิ่งนี้เราเสียสละทาน

พอเสียสละทานขึ้นไป สังคมร่มเย็นเป็นสุข นี่ไง มันหมุนกลับมาหาเราน่ะ สิ่งนี้มันหมุนกลับมาหาเราใช่ไหม นี่ทำความดี นี่แก้กรรม ศาสนาพุทธสอนไว้แล้ว ทาน ศีล ภาวนา น่ะแก้กรรม แล้วไปแก้กรรมไปอ้อนวอนไปขอเอากับใคร ไปอ้อนวอนไปแก้เอากับใคร นี่พระพุทธเจ้าไม่ได้สอน นี่มันศาสนาผี แล้วถือว่าเป็นชาวพุทธๆ นะ ชาวพุทธทำไมไม่เชื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทะเบียนบ้านเราว่าเราเป็นชาวพุทธ แล้วชาวพุทธสอนว่าอย่างไร ชาวพุทธให้ทำอะไร ชาวพุทธให้เสียสละทาน เสียสละทานเพื่ออะไร เสียสละทานเพื่อความไม่ให้ตระหนี่ถี่เหนียว เพราะความยึดติดของใจ ใจมันยึดติดนะ เพราะใจมันยึดติด ใครมาบอกอะไร ทำอย่างนี้แล้วดีนี้ดี เชื่อเขาไปหมดเลย

ของดีน่ะ ใครเอามาให้กัน มีแต่ครูบาอาจารย์ของเรานะ ใจที่เป็นธรรม ใจที่เป็นธรรมน่ะมันจะชี้นะ ชี้บอกขนาดไหนนะ กิเลสมันก็โต้แย้ง พอบอกว่าสิ่งนี้ดีนะ ดีได้อย่างไร เราไม่เห็นได้ประโยชน์อะไรเลย มีแต่เสียออกไป

การเสียออกไป การเสียสละออกไปคือการได้มา การได้มาคือได้อะไรมา ได้หัวใจที่ผ่องแผ้ว เห็นไหม เราอยู่ที่สูงกว่า เราได้ยื่นสิ่งต่างๆ ได้ยื่นบันไดให้คนเขาขึ้นพ้นจากวิบากกรรมของเขา อันนี้เป็นคุณงามความดีไหม เราเสียสละออกไป สิ่งที่เรายื่นออกไป เสียสละสิ่งที่เป็นทานออกไป ให้เขามีความร่มเย็นเป็นสุข ให้เขามีที่พึ่งอาศัย พอเขามีที่พึ่งอาศัย เขาได้รับความร่มเย็นเป็นสุข เขามีความชุ่มชื่นใจกับเรา อันนี้เป็นบุญไหม อันนี้เราได้ไหม นี่บารมีมันเกิดอย่างนี้ไง

แต่เรามองกันด้วยสายตาของโลกไง นี่เสียสละๆ แล้วไม่เห็นได้อะไรเลย เสียสละต่อเมื่อเรามีจะเสียสละ ถ้าเราไม่มีจะเสียสละ แม้แต่ทุคตะเข็ญใจ เขาก็มีน้ำใจที่เสียสละ น้ำใจที่ดี เราเดินสวนทางกันน่ะ เราหลบให้เขานี่ก็บุญแล้วนะ เขาเรียกว่าให้ทาง เราให้ความสะดวกกับเขา แค่เวลาเราสวนทางกัน เราให้โอกาสเขาไปก่อน แค่นี้ก็บุญแล้ว มันมีอยู่ทุกๆ อย่างเลย เห็นเขาทำดีกันแล้วอนุโมทนาไปกับเขา สิ่งนี้มันเป็นบุญหมด บุญมันเกิดอะไร บุญ ถ้าเราทำดีแล้ว เราทำดี มือเราไม่มีแผล มันจะมีสารพิษ มีน้ำกรดที่ไหน มือเรานี่เข้าไปจับได้ทั้งนั้นน่ะ จิตใจที่ไม่มีความบกพร่องนะ จิตใจที่มีความอบอุ่นนะ มันจะไปกลัวอะไร มันจะไปตื่นเต้นกับอะไร เขาบอกว่าแก้กรรมๆ เราจะมีกรรม เราต้องแก้กรรม

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ต้องปรินิพพานไป “อานนท์.. เราบอกกับเธอแล้วไม่ใช่หรือ สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีการเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งทั้งหลายก็ต้องดับไปเป็นธรรมดา แม้แต่ร่างตถาคตก็จะต้องนิพพานในคืนนี้ คืนนี้ตถาคตจะนิพพานไป อานนท์.. เธออย่าเสียใจไปเลย เธอได้สร้างคุณงามความดีไว้มหาศาล ผู้ที่จะอุปัฏฐากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต่อๆ ไป ก็จะไม่มีผู้ใดอุปัฏฐากได้ดีไปกว่าเธอ เพราะเธอได้เป็นเอตทัคคะในทางอุปัฏฐากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เธอได้สร้างคุณงามความดีไว้มากแล้ว เธอได้สร้างคุณงามความดี เธอได้ทำคุณงามความดีไว้มากแล้ว อีก ๓ เดือนข้างหน้า เราปรินิพพานไปแล้วจะมีสังคายนา เธอจะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ขึ้นมา”

“อานนท์.. เธออย่าเสียใจไปเลย” เห็นไหม

นี่ไง ไปอ้อนวอนใคร ไปขอเอาจากใคร สิ่งที่ว่าเราได้อุปัฏฐากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ นี่อันนี้เป็นบุญกุศลขึ้นมา เวลาประพฤติปฏิบัติขึ้นไป มันก็จะย้อนกลับมาถึงใจเรา เพราะการทำบุญกุศล จิตใจที่ควรแก่การงาน

ดูสิ ดูเราทำสิ่งใด จิตใจเรามีความโอบอ้อมอารีกับทุกๆ คน เราทำสิ่งใดมันจะเป็นประโยชน์กับเราทั้งหมดเลย จิตใจเสแสร้ง ฉ้อฉล ทำการสร้างภาพ นี่บุญได้ไหม...ได้ แต่มันก็ได้บุญประสาโลกๆ ปฏิคาหก ผู้ให้ให้ด้วยความบริสุทธิ์ ผู้รับรับด้วยความบริสุทธิ์ สิ่งนั้นจะเกิดบุญกุศลมหาศาลเลย เราทำบุญ ศาสนาพุทธสอนที่นี่ไง สอนตั้งแต่สังคมภายนอก สังคมภายนอกนะ สังคมสมณะ ชี พราหมณ์ จะมีโอกาสประพฤติปฏิบัติ สังคมมีแต่ความขัดแย้งกัน สังคมมีแต่ความทุกข์กัน สมณะ ชี พราหมณ์ จะมานั่งหลับตาอยู่ได้อย่างไร สมณะ ชี พราหมณ์ จะมานั่งหลับตาอยู่ได้เมื่อสังคมร่มเย็นเป็นสุข

ในเมื่อสังคมสมณะ ชี พราหมณ์ จะนั่งหลับตาอยู่ได้ก็เพราะว่าสมณะ ชี พราหมณ์ ได้อบรมหัวใจของสังคมนั้น หัวใจสังคมนั้นจิตใจเขาเป็นธรรม เขาเสียสละ เขามุ่งดี ปรารถนาดีต่อกัน สังคมนั้นก็จะมีความร่มเย็นเป็นสุข นี่คบบัณฑิต อเสวนา จ พาลานํ ไม่คบพาล พาลจากข้างนอก พาลจากข้างใน พาลจากข้างนอกคือสังคมที่เป็นพาล พาลจากหัวใจ หัวใจที่มันขัดแย้งเขาอยู่นี่ เขามาทำคุณงามความดีกันเราก็มาขัดแย้งเขา มาขัดขวางเขา มาทำให้เขาวุ่นวายกันอยู่นี่ นี่แหละ คบบัณฑิตไหม ถ้ามันคบบัณฑิต หัวใจมันต้องเป็นบัณฑิตสิ หัวใจเป็นบัณฑิตขึ้นมาน่ะ คบบัณฑิตน่ะ อเสวนา จ พาลานํ เห็นไหม เป็นมงคลชีวิต มงคลชีวิตจากข้างนอกนะ

นี่ร่างกายเรา เราหาอาหารมาเลี้ยงชีวิต ปัจจัยเครื่องอาศัยเพื่อเลี้ยงร่างกายเรา อาหารของใจล่ะ วิญญาณาหาร ใจกินอารมณ์เป็นอาหาร ใจกินความรู้สึกเป็นอาหาร อารมณ์ความรู้สึกที่ดี อารมณ์ความรู้สึกที่สะอาด อารมณ์ความรู้สึกที่บริสุทธิ์ อารมณ์ที่ดี วิญญาณาหาร นี่เลี้ยงชีพชอบ การเลี้ยงชีพชอบ เลี้ยงชีพด้วยมรรค มรรคญาณเกิด ความคิดเป็นอาหารของใจ อารมณ์ความรู้สึกนี่เป็นอาหารของใจ ใจหิว ใจกระหาย ใจหิวโหย สิ่งใดมานี่มันย้ำคิดย้ำทำ คิดแต่สิ่งที่บาดหมางในหัวใจทั้งนั้นน่ะ

พุทโธๆๆ จนจิตมันอิ่มเต็มนะ สิ่งใดอาหารจะมา มันคัดเลือก คัดเลือกไง ถ้าเป็นปัญญา ถ้าเป็นอริยสัจ สิ่งนั้นเป็นคุณประโยชน์กับเรา มันจะส่งเสริมให้ใจนี้พัฒนาการขึ้นไป แต่สิ่งนี้ถ้าเป็นสารพิษ อาหารที่เปื้อนด้วยมลภาวะ มันไม่กิน ร่างกายเราอิ่มเต็มอยู่แล้ว เราอิ่มหนำสำราญอยู่แล้ว ของที่มาเราจะจับใส่ปากเราทำไม เพราะมันเป็นพิษกับเราขึ้นมา แต่ถ้ามันหิวกระหายนะ มันไม่รู้ว่าหิว มันมีพิษไม่มีพิษ ขอประทังชีวิตก่อน จิตคนถ้าไม่มีหลักมีเกณฑ์ ไม่มีสัมมาสมาธิ ไม่มีหลักเกณฑ์ที่ในหัวใจแล้ว มันฉวยหมด มันฉวยความรู้สึก ฉวยความคิดทั้งหมด นั้นคืออาหารของใจ

แล้วถ้าใจมันทำ ทำไมมันมีความสงบของใจขึ้นมา มันมีพื้นฐานขึ้นมา แล้วมันเป็นธรรมะขึ้นมา นี่ธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มรรคญาณๆ จิตใจได้สัมผัสๆ ใจเป็นธรรมๆ ใจเป็นธรรมเป็นอันเดียวกัน ธรรมะอยู่ที่ไหนๆ ธรรมะมันอยู่ที่ใจ ธรรมะมันอยู่ที่ความสัมผัสอันนี้ ความสัมผัสอันนี้มันจะเป็นธรรมขึ้นมา มันต้องฝึกฝนขึ้นมา นี่ไปวัดไปวาที่นี่

มันสะเทือนใจมากนะ สิ่งที่โลกเขาเขาก็วุ่นวายพอแรงอยู่แล้ว ไปวัดไปวาก็อย่าให้มันวุ่นวายจนเกินไปนัก มันวุ่นวายเกินไป วุ่นวายขึ้นไปแล้ว พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นแก้วสารพัดนึก นี่พระสงฆ์ พระสงฆ์พูดอยู่นี่ สารพัดนึกไหม ทำไมมันพูดจารุนแรงอย่างนั้น รุนแรงเพราะกิเลสมันทำซึ่งๆ หน้า กิเลสมันทำซึ่งๆ หน้า มันสบประมาทกันซึ่งๆ หน้า มันซึ่งๆ หน้ามันยังทำได้ขนาดนี้ แล้วลับหลังมันทำกันได้อย่างไร นี่สิ่งที่การกระทำ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าๆ มันก็เหมือนเดิม เหมือนเดิมทั้งนั้นเลย

นี่แล้วเราเป็นชาวพุทธๆ ชาวพุทธทั้งนั้นน่ะ แต่พุทธอะไร พุทธของใคร พุทธของกิเลส พุทธของมาร หรือพุทธขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพุทธญาณ สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์กับเรานะ เป็นประโยชน์กับเรา ถ้าเราได้แก้ไข ถ้าเราไม่ได้แก้ไขนะ ไม้คดเขาต้องถาก ถากให้ไม้นั้นมันตรง ให้มันทำขื่อทำแปร ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ขึ้นมาได้ ไม้คดเดี๋ยวนี้นะ ศิลปะเขาทำเสา เขาไปทำศิลปะกัน ศิลปะนั้นมันเป็นประโยชน์ไม่ได้หรอก ว่าให้ค่ากันไป แต่ถ้าความจริงนะ ไม้ต้องตรง สิ่งที่ตรง เราทำ เราฝึกมาขนาดนี้แล้ว เราต้องรู้อะไรรู้ผิดอะไรถูกแล้ว เราก็ยังเป็นไม้คด ถ้าไม้คด ขวานมันต้องลงแรงๆ ไม้คดนี่ขวานมันจะถากให้ตรงให้ได้ ถ้าตรงไม่ได้ มันก็ไร้ประโยชน์ของมันไป เป็นไม้คดเผาไฟทิ้ง เป็นฟืนเป็นไฟไป ถ้าไม้ตรงจะเป็นประโยชน์กับการสร้างที่อยู่ที่อาศัยเพื่อประโยชน์กับเรา นี้คือสมบัติในพระพุทธศาสนา เอวัง